ศรีวราห์ เตรียมเอาผิดจนท.อุทยานฯ ปล่อยให้เปรมชัยและพวกเข้าล่าสัตว์

ความคืบหน้าการดำเนินคดี นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหาร บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์  จำกัด (มหาชน) พร้อมพวก ที่เข้าไปล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ฝั่งตะวันตก พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า สั่งการให้พลตำรวจเอกศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ดูแลงานฝ่ายความมั่นคงและกิจการพิเศษ ให้ขยายผลให้ถึงที่สุด ยืนยันว่าตำรวจไม่มีความกังวล แม้นายเปรมชัย จะเป็นนักธุรกิจใหญ่ ทุกคนอยู่ภายใต้กฎหมายเดียวกันหมด ส่วนจะขยายผลถึงใครบ้างนั้น พลตำรวจเอกศรีวราห์ทราบดีว่าต้องดำเนินการอย่างไรบ้าง 

 

ด้านพลตำรวจเอกศรีวราห์ กล่าวว่า ช่วงบ่ายวันนี้ ได้เชิญเจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช มาสอบสวนในประเด็นการติดสินบนเจ้าพนักงาน ว่าใครเป็นผู้ที่ติดสินบน ส่วนจะสามารถแจ้งข้อกล่าวหาได้หรือไม่ ต้องรอสอบปากคำก่อน ขณะเดียวกันจะมีการสอบปากคำในประเด็นปล่อยปละละเลยให้กลุ่มของนายเปรมชัยเข้าไปในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า ส่วนอาวุธปืน 43 กระบอก ที่ยึดได้ในบ้านพักของนายเปรมชัย เป็นปืนที่มีทะเบียนถูกต้องทุกกระบอกหรือไม่ ยังไม่สามารถตอบได้ในขณะนี้ เพราะบางกระบอกยังไม่ได้หลักฐาน อย่างไรก็ตามเรื่องทะเบียนอาวุธปืนเป็นอำนาจของฝ่ายปกครองตัวเองไม่สามารถก้าวล่วงได้ พร้อมยืนยันว่าคดีนี้ไม่มีอุปสรรคใด แม้ไม่มีประจักษ์พยานยืนยันว่าใครเป็นผู้ที่ยิงสัตว์ แต่จากพยานหลักฐานขณะนี้ก็มีความชัดเจน ที่ผ่านมาตำรวจมีการเก็บรวบรวมพยานหลักฐานต่างในคดี ทั้ง DNA เขม่าดินปืน ซึ่งเพียงพอที่จะฟ้องดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้แล้ว เพราะบริเวณดังกล่าวไม่ใช่ที่จะไปเที่ยว หรือเป็นที่สาธารณะ หากเข้าไปโดยไม่ขออนุญาต ก็มีเจตนาชัดเจนอยู่แล้ว ประกอบกับการนำอาวุธปืนเข้าไป และยิ่งพบซากสัตว์ ยิ่งเป็นหลักฐานชัดเจน และยังยืนยันอีกว่าคดีนี้วิ่งเต้นไม่ได้ สำหรับตัวของนายเปรมชัย ขณะนี้ยังอยู่ในประเทศ ไม่ได้หายตัวไปไปน ยังติดต่อได้ ส่วนจะมีออกหมายเรียกมาพบพนักงานสอบสวนเมื่่อใด ขึ้นอยู่กับพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ จังหวัดกาญจนบุรี 

 

ส่วนกรณีที่ปรากฏภาพหนังเสือโคร่งในห้องทำงานของนายเปรมชัย ถูกแชร์ในโซเชียลมีเดีย จากการเข้าตรวจค้นเมื่อวานนี้ ได้รับแจ้งจากเจ้าหน้าที่ชุดที่เข้าตรวจค้นว่าไม่พบหนังเสือดังกล่าว แต่เท่าที่ทราบภาพถ่ายดังกล่าวถ่ายเมื่อกว่า 20 ปี มาแล้วหากเจอหนังเสือ คดีก็ขาดอายุความไปนานแล้ว ต่อให้เข้ามาสารภาพก็ดำเนินคดีไม่ได้ ส่วนเรื่องงาช้าง 2 คู่ที่พบในบ้านของนายเปรมชัย ในความเห็นตัวเองไม่ใช่งาช้างไทย ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็จดทะเบียนไม่ได้ ขณะนี้ส่งตรวจ DNA แล้ว เพื่อตรวจสอบว่างาช้างดังกล่าวเป็นช้างไทยหรือช้างแอฟริกัน