*นายกแพทยสภา เผยเดือนหน้ารู้ผลลงโทษแพทย์อุ้มบุญ คาดร่างพ.ร.บ.อุ้มบุญ บังคับใช้ปีนี้*

29 สิงหาคม 2557, 11:41น.


ราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ แพทยสภา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้จัดประชุมแพทย์ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนจากราชวิทยาลัยสูตินรีแพทย์ฯ เรื่องการให้บริการเกี่ยวกับเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ และ ร่างกฎหมายคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์โดยศ.นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา กล่าวว่าหากร่างพ.ร.บ.คุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ผ่านการพิจารณา จะทำให้สามารถเอาผิดทางอาญาได้ด้วย  ซึ่งจะเป็นทางออกในการแก้ไขปัญหานี้ได้สำหรับการดำเนินการ ตอนนี้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ หรือคสช. ได้พิจารณารับหลักการร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวแล้ว แต่กระทรวงสาธารณสุขได้มีการทักท้วงในบางประเด็น ทำให้ต้องนำกลับมาพิจารณาใหม่ในสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา เช่น กรณีที่คู่สมรสต้องจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย และการระบุว่าแม่อุ้มบุญบุญต้องเป็นญาติเพียงเท่านั้น ซึ่งในวันนี้ ศ.นพ.สมศักดิ์ จะเดินทางไปให้ข้อมูลกับคณะกรรมการกฤษฎีกา โดยส่วนตัวเห็นว่า การออกร่างพ.ร.บ.ไม่ควรรัดกุมมากจนเกินไป แต่ควรจะลงรายละเอียดให้ครอบคลุมในกฏหมายลูก เช่น ระเบียบต่างๆ หรือกฏกระทรวง เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับในอนาคตซึ่งอาจมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด พร้อมกันนี้ ศ.นพ.สมศักดิ์ คาดว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะผ่านการพิจารณาจะมีผลบังคับใช้ได้ภายในปีนี้ โดยหลักเกณฑ์ของร่างพ.ร.บ.จะเน้นเอาผิดกับนายหน้าจัดหาหญิงอุ้มบุญแพทย์ และผู้เกี่ยวข้องในการทำอุ้มบุญที่ผิดกฎหมายซึ่งแพทย์หากพิจารณาแล้วพบว่ามีความผิดจริง จะทำให้มีความผิดทั้งทางกฎหมายอาญาและทางจริยธรรม



อย่างไรก็ตาม แพทยสภา และกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ หรือ สบส. ยังมีความเห็นที่แตกต่างในกรณีการระบุ ข้อกฏหมายที่เกี่ยวกับหญิงอุ้มบุญว่าจะต้องเป็นญาติของพ่อและแม่ ว่าจะกำหนดให้กฏหมายดังกล่าวอยู่ในร่างพ.ร.บ.ฉบับดังกล่าวเลย หรือ ควรระบุให้เป็นกฏกระทรวงเพื่อให้ง่ายต่อการเปลี่ยนแปลงในอนาคต เพราะแนวโน้มครอบครัวในปัจจุบันส่วนใหญ่มีญาติพี่น้องน้อยลง ทั้งนี้ก็จะต้องรอความชัดเจนหลังมีข้อสรุปอีกครั้ง



ส่วนความคืบหน้าในการสอบสวนแพทย์ที่เข้าข่ายกระทำความผิดทางแพทยสภา ยืนยันว่าขณะนี้ได้ มีแพทย์จากกรณีการทำอุ้มบุญน้องแกรมมี่ และกรณีอุ้มบุญให้กับชายชาวญี่ปุ่น 3 คนเข้ามาชี้แจงต่อแพทยสภาแล้ว เบื้องต้นพบว่าเข้าข่ายมีการกระทำผิดข้อบ่งชี้การอุ้มบุญที่ไม่ใช่เครือญาติ ซึ่งแพทยสภาจะมีการประชุมในวันที่ 9 ก.ย. เพื่อลงความเห็นก่อนที่จะสรุปและส่งให้คณะอนุกรรมการสอบสวนเฉพาะกิจพิจารณาความผิดต่อไป



บุศรินทร์



 



 



 

ข่าวทั้งหมด

X