ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ กล่าวว่า เขาอยากเห็นหน่วยงานรัฐต้องหยุดการทำงานบางส่วนหรือชัตดาวน์ ซึ่งจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอนหากสภาคองเกรสไม่ยอมเจรจาเกี่ยวกับข้อตกลงเรื่องผู้อพยพ และก็จะนำไปสู่การที่ไม่สามารถผ่านร่างกฎหมายงบประมาณรายจ่าย ก่อนหน้านี้หัวหน้าคณะทำงานของประธานาธิบดีเปิดเผยว่า ไม่มีแนวโน้มว่าประธานาธิบดีจะขยายเวลาคุ้มครองผู้อพยพวัยเยาว์ ในโครงการดากาออกไป ซึ่งเรื่องนี้เป็นเงื่อนไขที่ประธานาธิบดีนำมาใช้ในการต่อรองว่า เขาจะออกมาตรการใหม่เพื่อให้สัญชาติผู้อพยพวัยเยาว์ รวมถึงผู้อพยพคนอื่นๆเกือบ 2 ล้านคน แลกกับการที่คองเกรสต้องผ่านงบประมาณ 2 หมื่น 5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในโครงการก่อสร้างกำแพงทางใต้ ที่ติดต่อกับเม็กซิโก และประธานาธิบดีกล่าวอีกครั้งระหว่างการประชุมที่ทำเนียบขาวว่า หากไม่มีการแก้ไขกฎหมาย ไม่กำจัดช่องว่างที่ทำให้อาชญากรเดินทางเดินทางข้ามพรมแดนเข้ามาฆ่าผู้อื่น หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงก็ควรปล่อยให้เกิดการชัตดาวน์ ซึ่งเป็นคำกล่าวที่ทำให้นายชัค ชูเมอร์ ผู้นำวุฒิสมาชิกจากเดโมแครต เห็นว่า เป็นคำพูดที่ชัดเจนจนไม่ได้ต้องการคำอธิบายเพิ่มเติม และในช่วงรัฐบาลของประธานาธิบดีทรัมป์ก็เกิดการชัตดาวน์มาแล้วรอบหนึ่ง ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอีก หรือบางทีอาจมีเพียงประธานาธิบดีคนเดียวที่อยากให้เกิดขึ้นอีก
อย่างไรก็ตาม นางซาราห์ แซนด์เลอร์ โฆษกทำเนียบขาวอธิบายในเวลาต่อมาว่า ประธานาธิบดีไม่ได้ต้องการให้เกิดการชัตดาวน์ขึ้นจริงๆ แต่ต้องการให้มีการเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาผู้อพยพในระยะยาว
...