รอยเตอร์ รายงานว่า ประธานาธิบดีเรเซป เทย์ยิป เออร์โดกันของตุรกี พบกับสมเด็จพระสันตะปาปาหรือโป๊ปฟรานซิสในนครรัฐวาติกัน กรุงโรม อิตาลีในวันนี้ เพื่อหารือเรื่องนครเยรูซาเล็มและผลกระทบต่างๆที่จะเกิดขึ้นหลังรัฐบาลประธานาธิบดีโดนัดล์ ทรัมป์ของสหรัฐฯประกาศรับรองให้นครเยรูซาเล็มเป็นเมืองหลวงของอิสราเอล ก่อนหน้านี้ ขบวนรถของนายเออร์โดกัน ได้พาผู้นำตุรกี พร้อมคณะไปยังจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ส ในนครรัฐวาติกันเพื่อพบปะกับโป๊ปฟรานซิส
ปกติสำนักวาติกัน จะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าไปเที่ยวชมในบริเวณจัตุรัสเซนต์ปีเตอร์ส แต่มีการปิดถนนในบริเวณจัตุรัสดังกล่าวในวันนี้เนื่องจากความกังวลเรื่องรักษาความปลอดภัย ทั้งผู้นำตุรกีและโป๊ปฟรานซิส ต่างแสดงความเป็นกังวลในเรื่องนี้ เช่นเดียวกันพันธมิตรของสหรัฐฯอีกหลายประเทศที่เตือนว่าเรื่องนี้อาจจะกระทบต่อความพยายามสร้างสันติภาพในตะวันออกกลาง
สำนักวาติกันเห็นด้วยกับแนวคิดเรื่องการให้คู่ขัดแย้งคืออิสราเอลกับปาเลสไตน์ เจรจาเพื่อทำความตกลงกันโดยตรงในเรื่องสถานะของนครเยรูซาเล็ม ที่ตั้งสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ทางศาสนาทั้งของชาวมุสลิม ชาวอิสราเอลและชาวคริสต์ว่า ควรจะให้เป็นไปในลักษณะใด ทั้งสองฝ่ายจึงจะสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติ
นอกจากนี้ คาดว่า จะหารือเรื่องปัญหาสงครามในซีเรีย อิรัก การช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและเรื่องผู้อพยพ ขณะเดียวกันผู้ประท้วงกลุ่มหนึ่งวางแผนจะชุมนุมกันในกรุงโรม ช่วงเย็นวันนี้ เพื่อประท้วงรัฐบาลตุรกีเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการปราบปรามชนกลุ่มน้อยชาวเคิร์ดในตุรกี ขณะเดียวกัน รัฐบาลอิตาลี จัดกำลังเจ้าหน้าที่ความมั่นคง 3,500 คนเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยในกรุงโรมในช่วงนี้
ทีมต่างประเทศ
CR:www.worldbulletin.net