เอเอฟพี รายงานอ้างนางฮีทเธอร์ เนาเอิร์ท โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯว่า สหรัฐฯ เพิ่งจะเปิดเผยยุทธศาสตร์ด้านอาวุธนิวเคลียร์เชิงรุกครั้งใหม่ สามารถทำตามข้อจำกัดต่างๆตามที่ระบุในสนธิสัญญาลดอาวุธเชิงยุทธศาสตร์(สตาร์ท)เตือนรัสเซียให้ทำตามคำมั่นในเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะข้อจำกัดว่าด้วยเรื่องการลดคลังอาวุธนิวเคลียร์เชิงยุทธศาสตร์ของแต่ละฝ่ายที่เริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561
โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐระบุว่า การที่ทั้งสองฝ่าย ทำตามข้อตกลงอย่างครบถ้วนจะช่วยเสริมสร้างความปลอดภัยและความมั่นคงให้กับสหรัฐฯและพันธมิตร อีกทั้งจะทำให้ความสัมพันธ์ในเชิงยุทธศาสตร์ระหว่างสหรัฐฯกับรัสเซียมีความมั่นคง โปร่งใสและสามารถคาดทิศทางได้อย่างชัดเจน ที่ผ่านมาสหรัฐฯสามารถทำตามทุกรายละเอียดของข้อตกลงการลดคลังอาวุธนิวเคลียร์มาตั้งแต่เดือนสิงหาคมปีที่แล้ว
ก่อนหน้านี้ ทั้งสองประเทศได้ลงนามในข้อตกลงสตาร์ทเมื่อปี 2553 เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2554 ที่สำคัญคือ สนธิสัญญานั้นกำหนดให้แต่ละฝ่ายจะเริ่มต้นลดคลังอาวุธนิวเคลียร์ตั้งแต่วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นต้นไป
ด้านรัฐบาลรัสเซีย ย้ำว่า รัสเซียมุ่งมั่นที่จะทำตามสนธิสัญญา คาดว่า การแลกเปลี่ยนข้อมูลกับสหรัฐฯในอนาคตอันใกล้ ตามสนธิสัญญาเรื่องนี้จะแสดงให้เห็นว่ารัสเซียทำตามข้อผูกมัดในเรื่องนี้อย่างเคร่งครัด ที่ผ่านมา ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ-รัสเซีย ตึงเครียดมาตลอด หลังหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯระบุว่ารัสเซียเข้าไปแทรกแซงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯเมื่อปี 2559
ทีมต่างประเทศ
CR:NDTV