กลุ่มญาติวีรชนเรียกร้องรัฐบาลประกาศสัญญาประชาคมว่าจะจัดการเลือกตั้งเมื่อใด

04 กุมภาพันธ์ 2561, 11:35น.


การแถลงการณ์ เรื่องเร่งปรองดองก่อนความขัดแย้งจะบานปลาย หาข้อยุติคนหายในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 โดยคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35

นายเมธา มาสขาว เลขาธิการคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 เป็นผู้อ่านแถลงการณ์ระบุว่า คณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 ขอเรียกร้องให้รัฐบาลคืนวีรชนผู้สูญหายในเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 และหาข้อยุติให้แก่เหตุการณ์ เพื่อสร้างมาตรฐานทางสังคมและเป็นบทเรียนแก่สังคมในการสร้างความปรองดองที่ยั่งยืน นอกจากนี้ ยังเห็นว่าการที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ยึดอำนาจและประกาศการปฏิรูปประเทศ เร่งขจัดนักการเมืองและข้าราชการที่มีพฤติกรรมทุจริตคอรัปชั่นเพื่อสร้างกระบวนการยุติธรรมให้เป็นมาตรฐานเดียว แต่ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา คสช. กลับทำในสิ่งที่ตรงข้าม ไม่จริงใจในการแก้ปัญหาคอรัปชั่น มีความพยายามที่จะยืดเวลาอยู่ในอำนาจออกไป ถือว่าเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ประชาชนเริ่มหมดศรัทธาที่เคยมีต่อ คสช. ดังนั้น เพื่อไม่ให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอยเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 จึงขอเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช.ประกาศเป็นสัญญาประชาคมชัดให้ชัดเจนครั้งสุดท้ายว่า จะจัดให้มีการเลือกตั้งได้เมื่อไหร่และต้องไม่เลื่อนโรดแมปอีก พร้อมทั้งเรียกร้องให้พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พิจารณาตัวเองด้วยการลาออกจากตำแหน่ง กรณีไม่แจ้งบัญชีทรัพย์สินนาฬิกาหรู เพื่อลดการเผชิญหน้าทางสังคม ขณะเดียวกัน ต้องการเรียกร้องให้รัฐบาลใช้อำนาจตามพระราชบัญญัติองค์กรอัยการ 2553 มาตรา 21 ในการชะลอหรือระงับการดำเนินคดีนักโทษทางการเมืองและนักโทษทางความคิดทั้งหมด เพื่อขจัดความขัดแย้งสร้างความปรองดอง และไม่ใช้อำนาจพิเศษในบทเฉพาะกาลตามรัฐธรรมนูญ 2560 โดยต้องการให้เปิดโอกาสให้ประชาชนมีเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น เพื่อให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมทางการเมือง

นายเมธา กล่าวต่อว่า ทางญาติวีรชนเห็นว่าหากรัฐบาลยังคงบริหารประเทศ และเป็นผู้สร้างความขัดแย้ง การใช้อำนาจพิเศษของ คสช. ก็อาจเป็นเงื่อนไขที่ขยายวงให้เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยพฤษภาทมิฬได้ในอนาคต

ด้านนายอดุลย์ เขียวบริบูรณ์ ประธานคณะกรรมการญาติวีรชนพฤษภา 35 เปิดเผยว่า คสช. ควรตระหนักถึงสถานการณ์ที่อ่อนไหวในขณะนี้ และไม่ใช้อำนาจพร่ำเพรื่อที่อาจนำไปสู่การเผชิญหน้าทางสังคม โดยนำตัวเองเป็นคู่ขัดแย้งและสร้างเงื่อนไขความรุนแรงเสียเอง ซึ่งหากมีวิกฤติเกิดขึ้นจะเกิดเหตุการณ์ที่รุนแรงกว่าพฤษภาทมิฬ ทั้งนี้ ทางญาติวีรชนจะให้เวลา คสช. จนถึงวันที่ 16 กุมภาพันธ์ นี้ ซึ่งเป็นเวลาที่ครบกำหนด 30 วัน ที่ได้เรียกร้องให้รัฐบาลดำเนินการติดตามคนหายจากเหตุการณ์พฤษภาคม 2535 หากจนถึงวันนั้นยังไม่มีการสื่อสารมาถึงกลุ่มญาติวีรชน ก็เดินสายเพื่อขอความเป็นธรรมจากประชาชน พร้อมทั้งขอเข้าพบกับพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และขอเข้าพบพลเอกประวิตร เพื่อเรียกร้องให้สร้างความเป็นธรรมต่อไป ทั้งนี้ อยากจะเตือนพลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ว่า หากรัฐบาลยังนิ่งเฉยเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอาจรุนแรงมากกว่าพฤษภาคมหลายเท่า ทั้งระบุด้วยว่า ญาติวีรชนพยายามหลีกเลี่ยง ไม่ข้องกับฝ่ายการเมือง ไม่ต่อสู้เพื่ออำนาจการบริหารบ้านเมือง ซึ่งในการปราศัยบนเวทีก็ประกาศว่าไม่มีหน้าที่ขับไล่รัฐบาล ดังนั้น อย่าบีบบังคับให้ไม่มีทางไป อย่าให้เกิดในสิ่งที่ไม่อยากเกิด ส่วนผลจากการเดินสายจะเกิดอะไรขึ้นไม่เกี่ยวกับญาติวีรชนแต่เป็นเรื่องของผู้สนับสนุน



...



ผสข.ปิยะธิดา เพชรดี 

ข่าวทั้งหมด

X