สหประชาชาติ วิตกการสู้รบระหว่างกองทัพเมียนมากับกองทัพคะฉิ่นอิสระ

สหประชาชาติ แสดงความกังวลสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างกองทัพเมียนมากับกองทัพคะฉิ่นอิสระ หรือ KIA ทางภาคเหนือ ซึ่งลุกลามไปในพื้นที่หลายเมืองตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค. โดยห่วงกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของพลเรือนในเขตเมืองซัมปราบัม ไวง์มอ โดยเฉพาะเมืองตะไน ซึ่งมีการปะทะกันอย่างดุเดือดมาตั้งแต่วันที่ 25 ม.ค. มีรายงานพลเรือนเสียชีวิตและบาดเจ็บเป็นจำนวนหลายคน ขณะที่องค์กรช่วยเหลือต่างๆ รายงานว่า มีประชาชนประมาณ 1,800 คน ส่วนใหญ่เป็นแรงงาน อพยพออกจากเมืองตะไน เนื่องจากเหตุปะทะกันล่าสุด แต่ยังมีประชาชนอีกส่วนหนึ่งติดอยู่ในพื้นที่ขัดแย้งและไม่สามารถเดินทางออกนอกพื้นที่ได้ ขณะที่ เจ้าหน้าที่สหประชาชาติ ไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางเข้าถึงพื้นที่ จึงไม่สามารถตรวจสอบข้อมูลนี้ได้

อย่างไรก็ตาม รายงานของสื่อมวลชนต่างประเทศ ระบุว่า มีประชาชนกว่า 700 คนในเมืองซัมปราบัมต้องหลบอาศัยอยู่กลางป่า หลังจากลี้ภัยออกนอกพื้นที่ตั้งแต่วันที่ 22 ม.ค. ในจำนวนนี้มีทั้งชาวบ้านและผู้ลี้ภัย ซึ่งอาศัยอยู่ในค่าย หลังระเบิดครกตกลงใกล้ค่าย ทั้งนี้ เมืองตะไนและเมืองซัมปราบัมตั้งอยู่บนถนนสายสำคัญแล่นจากเมืองมิตจีนา เมืองเอกของรัฐคะฉิ่น ขึ้นไปทางทิศเหนือ 

ด้านนางยางฮี ลี ผู้สอบสวนด้านสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ ไม่ได้รับอนุญาตให้เดินทางไปยังพื้นที่ที่มีชาวโรฮิงญาอาศัยอยู่ รวมถึงรัฐคะฉิ่น และรัฐฉาน เปิดเผยว่า รัฐบาลพลเรือนเมียนมาไม่มีอำนาจในรัฐคะฉิ่น โดยพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในความควบคุมของผู้บัญชาการกองทัพ ดังนั้น ประชาคมระหว่างประเทศ ควรร่วมกันเพิ่มแรงกดดันผู้บัญชาการกองทัพเมียนมา เพื่อรับรองความปลอดภัยด้านสิทธิมนุษยชน

ทีมต่างประเทศ

CR:File Photo Reuters