กระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ เปิดเผยเอกสารทบทวนท่าทีด้านนิวเคลียร์ความยาว 75 หน้า ชี้ว่า สหรัฐฯ ต้องการปรับปรุงคลังสรรพาวุธด้านนิวเคลียร์และพัฒนาอาวุธปรมาณูใหม่ โดยนายจิม แม็ททิส รมว.กลาโหมสหรัฐฯ เขียนในคำนำเอกสารระบุว่า เป็นการตอบโต้ต่อการขยายขีดความสามารถและการดำเนินยุทธศาสตร์ของรัสเซีย ซึ่งนายแม็ททิสชี้ว่า รัสเซียต้องการกลับมาช่วงชิงความเป็นมหาอำนาจคืน เห็นได้จากการผนวกไครเมียของยูเครนเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซีย โดยยุทธศาสตร์ฉบับใหม่ของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ต้องการปรับปรุงโครงการนิวเคลียร์ให้ทันสมัยอย่างต่อเนื่อง
ด้านประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ แถลงว่า ยุทธศาสตร์ฉบับใหม่นี้จะพัฒนาขีดความสามารถด้านต่างๆ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้การใช้อาวุธนิวเคลียร์มีความเป็นไปได้ลดลง แต่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการป้องปรามการโจมตีทางยุทธศาสตร์ต่อประเทศ พันธมิตร และประเทศหุ้นส่วน ซึ่งอาจจะไม่ได้มาในรูปแบบของอาวุธนิวเคลียร์ ที่สำคัญคือ สหรัฐฯ ยังคงยึดมั่นการควบคุมอาวุธ การห้ามแพร่กระจายอาวุธนิวเคลียร์ ระงับการทดสอบนิวเคลียร์ แต่จะยังปรับปรุงอาวุธนิวเคลียร์เพื่อช่วยเหลือป้องกัน ค้นหา และตอบโต้การก่อการร้ายด้วยอาวุธนิวเคลียร์
นอกจากนี้ ยุทธศาสตร์ดังกล่าวยังเน้นย้ำความกังวลเกี่ยวกับเกาหลีเหนือ อิหร่าน และจีน ทั้งนี้ การเปิดเผยยุทธศาสตร์ดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2553 ในการคาดการณ์ภัยคุกคามทางด้านนิวเคลียร์ในอนาคตข้างหน้า
สำหรับอาวุธนิวเคลียร์ ซึ่งจะมีการผลิตในปริมาณต่ำ จะยังมีอานุภาพร้ายแรงที่สุดและมีขีดความสามารถในการทำลายล้างสูงดังเช่นระเบิดที่ใช้ทิ้งในเมืองฮิโรชิมาและนางาซากิ ญี่ปุ่น เมื่อปลายสงครามโลกครั้งที่ 2 นอกจากนี้ ยังคาดว่า อาวุธดังกล่าวจะสามารถยิงได้จากเรือหรือเรือดำน้ำ จึงไม่จำเป็นต้องเก็บสะสมไว้ในยุโรปดังเช่นที่ผ่านมา และสามารถหลบเลี่ยงระบบป้องกันภัยทางอากาศของรัสเซียได้อีกด้วย
ทีมต่างประเทศ
CR:AFP,File AP,www.newindianexpress.com