การแถลงแผนปฏิบัติการสนับสนุนการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติและดำเนินการออกใบอนุญาตทำงานให้ถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีพลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน พร้อมมอบนโยบายให้ทุกหน่วยงาน บูรณาการร่วมกันเพื่อให้เกิดความสำเร็จประกอบด้วย ให้ทุกหน่วยงานร่วมมือการปฏิบัติงานเพื่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว ในขั้นตอนเวลา ไม่ทุจริต เรียกรับผลประโยชน์ และให้เกิดความพอใจแก่ประชาชน หัวหน้าส่วนราชการจะต้องเป็นหลักดำเนินการตามแผน โดยยึดประชาชนเป็นศูนย์กลางประสานความร่วมมือ กับเมียนมาร์ ลาว และกัมพูชาในการบริหารศูนย์ ให้เกิดประสิทธิภาพ รวมไปถึงการเพิ่มเจ้าหน้าที่และเครื่องมือให้เพียงพอในการทำงาน
ขณะที่ฝ่ายไทยพร้อม ให้การสนับสนุนและติดตามแผนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การทำงานแล้วเสร็จตามเวลาที่กำหนด พลเอกประวิตรได้เน้นย้ำว่า การทำงาน จะต้องเกิดการบูรณาการ ร่วมมือทุกภาคส่วนจึงจะเกิดผลสำเร็จซึ่งหากทำสำเร็จจะมีความมั่นคง ในด้านเศรษฐกิจสังคมและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อให้เกิดการยอมรับของสากล นอกจากนี้จะส่งผลไปถึงเรื่องการแก้ปัญหา ประมงผิดกฎหมายและการค้ามนุษย์อีกด้วย โดยยังมีแรงงานยังไม่ได้พิสูจน์สัญชาติอีก 811,829 คน ต้องดำเนินการให้เสร็จสิ้นภายใน 30 มิ.ย.2561 ตามแผนที่วางไว้
ทั้งนี้ รัฐบาลได้จัดทำแผนปฏิบัติงาน ตรีเทพ เพื่อสนับสนุนการพิสูจน์สัญชาติแรงงานต่างด้าว 3 สัญชาติคือ เมียนมาร์ กัมพูชา ลาว ให้ถูกต้องตามกฎหมาย ประกอบด้วย การจัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการบริหารจัดการเพื่อการทำงานของคนต่างด้าว(ศปก.บต.รง.) ให้ส่วนกลางซึ่งมีกระทรวงแรงงานเป็นผู้อำนวยการศูนย์มีอำนาจในการกำกับติดตามการดำเนินงานของศูนย์บริการเบ็ดเสร็จหรือ One Stop Service (OSS) และศูนย์ปฏิบัติการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวจังหวัดในภาพรวมของประเทศ จัดตั้งคณะกรรมการบริหารจัดการการทำงานของแรงงานต่างด้าวในประเทศไทยจังหวัด(กตจ.) ซึ่งมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน สำหรับกรุงเทพมหานครมีอธิบดีกรมการจัดหางานเป็นประธาน มีอำนาจหน้าที่ในการกำกับติดตามการดำเนินงานของศูนย์ OSS บริการเบ็ดเสร็จหรือ One Stop Service จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวกรุงเทพมหานคร(ศปก.บต.) ซึ่งจะมีจำนวน 2 ศูนย์ และศูนย์ปฏิบัติการการบริหารจัดการเพื่อการทำงานของคนแรงงานต่างด้าวในส่วนภูมิภาคอีกจำนวน 11 ศูนย์ เพื่อดำเนินการพิสูจน์สัญชาติโดยมีผู้ตรวจราชการจังหวัดระดับกรม ที่ปลัดกระทรวงแรงงานแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการศูนย์ จัดตั้งศูนย์บริการเบ็ดเสร็จ( One Stop Service :OSS)ในกรุงเทพมหานครโดยมีอธิบดีกรมการจัดหางานเป็นผู้อำนวยการศูนย์และในทุกจังหวัดเพื่อทำหน้าที่จัดทำปรับปรุงระเบียบประวัติและขออนุญาตทำงานโดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นผู้อำนวยการศูนย์ ประสานความร่วมมือเอกอัครราชทูตกัมพูชา ลาว เมียนมา ให้บริการจัดการการพิสูจน์สัญชาติให้เกิดประสิทธิภาพโดยเพิ่มเจ้าหน้าที่อุปกรณ์เครื่องมือในการดำเนินงาน
ภายหลังที่พลเอกประวิตร มอบนโยบายเสร็จสิ้น ได้เดินออกจากตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาล ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม แต่ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ กรณีที่มีหลายสื่อตั้งโพลสอบถามความคิดเห็นประชาชนว่าต้องการให้พลเอกประวิตรไปพักผ่อนหรือให้ปฎิบัติหน้าที่ต่อ หลังได้เคยให้สัมภาษณ์ว่าหากประชาชนไม่ต้องการก็พร้อมจะไป รวมถึงในกรณีที่มีม็อบมาให้กำลังใจที่หน้ากระทรวงกลาโหมเมื่อวานนี้ด้วย