อากาศเย็นขึ้น1-3องศา/นายกประชุมทรัพยากรน้ำแห่งชาติ/ขายสถานทูตอังกฤษประจำประเทศไทย /ขยะดอยแม่แจ่ม เชียงใหม่

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.

+++กรมอุตุนิยมวิทยา รายงานพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ว่า ภาคตะวันออก และภาคกลางตอนล่าง รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองลดลง และอากาศจะหนาวเย็น โดยอุณหภูมิลดลง 1-3 องศาเซลเซียส ส่วนภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงมีอากาศหนาวเย็น ขอให้ประชาชนดูแลสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงไว้ด้วย สำหรับภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้นและคลื่นลมบริเวณภาคใต้ตอนล่าง จะมีกำลังแรง มีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังและเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงนี้

+++เฮง สัมริน ประธานสภาแห่งชาติกัมพูชา เข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีในโอกาสเยือนไทยอย่างเป็นทางการในฐานะแขกของสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ทำเนียบรัฐบาล

+++วันนี้พล.อ.ประยุทธ จันทรโอชา นายกรัฐมนตรีจะเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) นัดแรก พล.อ.ฉัตรชัย สาริ กัลยะ รองนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า การประชุมกนช.นัดแรก จะบริหารจัดการน้ำตลอดทั้งแผน การแบ่งกลุ่ม งบประมาณในแต่ละปีจะใช้ในส่วนใดบ้าง โดยจะแบ่งเป็นงบประมาณปกติ เช่น การปรับปรุง ซ่อมบำรุง ขยายแหล่งน้ำที่มีอยู่แล้ว และงบประมาณที่ใช้ในโครงการขนาดใหญ่ เช่น แผนสร้างคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร ที่ใช้งบประมาณกว่าหมื่นล้านบาท รวมถึงชี้แจงให้เห็นถึงการใช้งบประมาณปกติ 5-6 หมื่นล้านบาทตั้งแต่ปี 2557-2558 ทำอะไรไปแล้วบ้างและต่อไปจะทำอะไรบ้าง รวมถึงส่วนโครงการขนาดใหญ่ที่แต่ละภาคเสนอมาจำนวน 20-30 โครงการนั้น ต้องนำมาดูว่าจะใช้งบประมาณเท่าไร รวมถึงระยะเวลาการดำเนินโครงการด้วย

+++หลังกระทรวงการต่างประเทศ สหราชอาณาจักร เปิดเผยว่า ได้ขายที่ดินสถานเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย ในราคา 420 ล้านปอนด์ หรือ ประมาณ1.9 หมื่นล้านบาท ให้กับกลุ่มร่วมทุนระหว่างฮ่องกง แลนด์ บริษัทด้านการบริหารจัดการ และพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำ ในเครือจาร์ดีน แมธทีสัน โฮลดิ่งส์ และ กลุ่มเซ็นทรัล นับเป็นตัวเลขการขายอสังหา ริมทรัพย์ที่สูงที่สุดในประวัติศาสตร์ ซึ่งเงิน ที่ได้จะนำไปใช้สำหรับปรับปรุงอาคารสถานทูต อังกฤษ 30-40 แห่งทั่วโลกให้ทันสมัยขึ้น รวมถึงการเดินสายระบบไฟฟ้าในสถานทูตที่ ฝรั่งเศส และตกแต่งสถานทูตที่สหรัฐใหม่หลังจากขายที่ดินนี้แล้ว ในปี 2562 เจ้าหน้าที่การทูตอังกฤษที่ประจำอยู่ที่กรุงเทพฯ มีกำหนดย้ายไปยังที่ทำการแห่งใหม่ ซึ่งทันสมัยกว่าที่อาคารเอไอเอ สาทร ทาวเวอร์ ภายใต้สัญญาเช่า 15 ปี

+++นายบอริส จอห์นสัน รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ  กล่าวว่า อังกฤษเป็นผู้นำในเวทีโลก ต้องการให้นักการทูตของอังกฤษมีเครื่องมือซึ่งจำเป็นต่อการทำงานที่มีประสิทธิภาพ รวมถึง การมีที่ทำงานที่ทันสมัย ปลอดภัย และเหมาะกับการทำงาน ไม่เฉพาะที่กรุงเทพฯเท่านั้น แต่รวมถึงทั่วโลกด้วย สถานทูตใหม่ที่ทันสมัย เป็นการตอกย้ำถึงความสัมพันธ์ที่มีอย่างยาวนานระหว่างอังกฤษและไทย ควบคู่ไปกับการทำให้อังกฤษมีเงินทุนที่จำเป็นสำหรับการปรับปรุงสถานทูต อื่นๆ ทั่วโลก

+++ราคาขายดังกล่าวถือว่ามีมูลค่าสูงเกือบถึงครึ่งหนึ่งของงบประมาณหลักประจำปี จำนวน 1,200 ล้านปอนด์  ราว 5.39 หมื่นล้านบาท ของสำนักงานการต่างประเทศ และเครือจักรภพ โดยเงินจำนวนนี้สามารถนำไปซื้อที่ดินสถานทูตแห่งใหม่ ปรับปรุงระบบรักษาความปลอดภัย และเสริมการป้องกันภัยจากแผ่นดินไหวได้ สำหรับโปรเจคสถานทูตอังกฤษนี้ "ไม่พลิกล็อค" ไปจากคาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า กลุ่มเซ็นทรัล น่าจะเป็นผู้ชนะการประมูล เพื่อต่อจิ๊กซอว์การพัฒนาย่านชิดลม-เพลินจิต ก้าวสู่"ย่านลักชัวรี"สมบูรณ์แบบของกรุงเทพฯ และประเทศไทย  ต่อยอดธุรกิจลักชัวรี รีเทล ที่มีห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล ชิดลม  เซ็นทรัล เอ็มบาสซี และ โรงแรม ปาร์ค ไฮแอท ระดับ 6 ดาว เปิดให้บริการ

+++ศาลแพ่ง พิพากษาคดี ที่พนักงานอัยการ ยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้เงินในบัญชีเงินฝาก ธนาคารธนชาต จำกัด(มหาชน) จำนวน 25,597,194.91 บาท, เงินในบัญชีเงินฝาก ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) จำนวน 14,257,934.88 บาท ชื่อบัญชี "วัดพระธรรมกาย"  และเงินในบัญชีเงินฝาก ธ.ธนชาต จำนวน 1,651,227.42 บาท กับเงินในบัญชีเงินฝาก ธ.กรุงไทย จำนวน 17,263,081.04 บาท ชื่อบัญชี "มูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ในอุปถัมภ์พระราชภาวนาวิสุทธิ์ หรือพระธัมมชโย อดีตเจ้าอาวาส" พร้อมดอกผลตกเป็นของแผ่นดิน โดยคดีนี้ "สหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนคลองจั่น" ในฐานะ ผู้คัดค้านการยึดทรัพย์ที่ 1 ได้ระบุว่า นายศุภชัย ศรีศุภอักษร อดีต ปธ.สหกรณ์ฯ สั่งจ่ายเงินที่เป็นของผู้คัดค้านที่ 1 ซึ่งได้มาจากการรับฝากเงิน สะสมหุ้น และดอกผลจากการประกอบธุรกิจของผู้คัดค้านที่ 1 เป็นเงินที่ได้มาโดยสุจริตและชอบด้วยกฎหมายโดย "สหกรณ์ฯ ผู้คัดค้านที่ 1" เป็นผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำความผิดของนายศุภชัย จึงขอให้เงินฝากในบัญชีดังกล่าว ให้ตกกับสหกรณ์ฯ ผู้คัดค้านที่ 1

+++ส่วน "วัดพระธรรมกาย" และ "มูลนิธิมหารัตนอุบาสิกาจันทร์ฯ" ในฐานะเจ้าของบัญชีเป็นผู้คัดค้านที่ 2-3 ก็ได้คัดค้านทำนองว่า ไม่เคยทราบหรือเข้าไปเกี่ยวข้องใดๆ กับกิจการของ "สหกรณ์ฯ ผู้คัดค้านที่ 1" ผู้บริจาค สำหรับที่อ้างว่านำเงินไปใช้ในการกุศลสาธารณะนั้น "ศาลแพ่ง" เห็นว่าเงินในบัญชีดังกล่าวมีทั้งเงินที่ถูกยักยอก เงินที่ใช้ในการฟอกเงิน และเงินบริจาคจากผู้อื่นปะปนระคนกัน ดังนั้นผู้คัดค้านที่ 2-3 จะอ้างไม่ได้ เนื่องจากการใช้เงินดังกล่าวเป็นผลมาจากความไม่สุจริตตั้งแต่ต้น"ศาลแพ่ง" จึงมีคำพิพากษาว่า ให้เงินในบัญชีเงินฝาก ให้กับ "สหกรณ์ฯ คลองจั่น" ผู้คัดค้านที่ 1 ส่วนคำร้องของอัยการผู้ร้องนั้นให้ยกคำร้อง

+++ปิดท้ายตรวจสอบสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเชียงใหม่ ที่ดอยม่อนแจ่ม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ พบว่ามีการทิ้งขยะผู้ประกอบการสร้างอาคารที่พักแบบถาวรและแบบชั่วคราวรวมทั้งมีจุดบริการกางเต็นท์ในยอดดอยม่อนแจ่ม และยอดดอยต่างๆในบริเวณใกล้เคียงพบมีผู้ประกอบการที่เป็นเจ้าของพื้นที่ ถือว่ามีนักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวชมความสวยงามของดอกไม้ฤดูหนาวจำนวนมากกว่าดอยอื่น และพบขยะใส่ถุงดำวางกระจายตามยอดอยม่อนต่างๆจำนวนมาก นายวิชัย ชัยวิทย์นนท์ นายกเทศมนตรีตำบลแม่แรม อ.แม่ริม ผู้ดูแลสถานที่ กล่าวว่า สถานที่จัดเก็บขยะทาง ทต.แม่แรมได้จัดงบประมาณตามที่ นายสุรินทร์ นทีไพรวัลย์ ผู้ใหญ่บ้านบ้านหนองหอยเก่า หมู่ 7 ต.แม่แรม ได้แจ้งมาเพื่อขอขุดหลุมเพื่อกลุ่มวิสาหกิจฯ เพื่อจัดการกันเองในกลุ่มวิสาหกินฯ และรับผิดชอบดูแลจัดการขยะของดอยม่อนแจ่มทั้งหมด ทต.แม่แรมได้นำเครื่องรถไถไปขุดให้เมื่อ พ.ศ.2557 ซึ่งคณะนั้นไม่มีขยะจำนวนมากก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่วันนี้ยอมรับขยะเพิ่มจำนวนมากหลายตันต่อวันงได้ข้อสรุปว่าหลังช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ผ่านไปก่อนทุกภาคส่วนจะเข้ามาแก้ไข ต้องการให้นักท่องเที่ยวลดลงก่อนเพราะในช่วงเดือน ธันวาคม – มกราคม นักท่องเที่ยวยังมีจำนวนมากอยู่ จากนั้นจะเข้าไปจัดระเบียบทั้งหมด รวมทั้งขยะบนดอยม่อนแจ่มด้วย แต่มาถึงวันนี้ก็ยังไม่มีใครดำเนินการอะไร