ภายหลังการมอบนโยบายการปฏิบัติราชการตำรวจ ที่มีพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน โดยมีพลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ, รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ตลอดข้าราชการตำรวจระดับผู้บัญชาการถึงผู้บังคับการ 169 นาย และผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ เช่น คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ปปท.) กองอำนวยการร่วมรักษาความสงบในราชอาณา (กอ.รมน.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) ปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นต้น
พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า การมอบนโยบายครั้งนี้ มุ่งเน้นไปที่นโยบายการปราบปรามยาเสพติด ที่เป็นวาระแห่งชาติของรัฐบาล, ผู้มีอิทธิพล มือปืนรับจ้าง ที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจ การเรียกรับผลประโยชน์ ทวงหนี้ ค้าผู้หญิง เด็ก แรงงาน, กลุ่มชาวต่างชาติที่พักในประเทศเกินเวลาหรือ Overstay ที่เป็นปัญหาสะสมมาพอสมควร, อาชญากรรมข้ามชาติ และการมีเงินสินบนตำรวจ รวมทั้งอาชญากรรมอื่นๆ ที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน และภาพลักษณ์ของประเทศ
พลตำรวจเอกจักรทิพย์ เปิดเผยว่า เมื่อสักครู่นี้ ได้ให้โจทย์ผู้ใต้บังคับบัญชา ให้เร่งดำเนินการปราบปรามตามเป้าหมายที่กำหนด และต้องรายงานผลการทำงานให้ตัวเองทราบอย่างต่อเนื่อง ยืนยันว่าไม่ได้เป็นการกดดันจนเกินไป
สำหรับการจับกุมกลุ่ม Overstay และผู้มีอิทธิพล ที่ยังมีผู้กระทำผิดจำนวนมากอยู่ ตำรวจไม่ได้ละเลย เพียงแต่การจับกุมแต่ละครั้งไม่ได้เป็นข่าว
กรณีที่มีมวลชนเคลื่อนไหวทางการเมือง โดยเฉพาะช่วงเย็นวันนี้ เวลา 18.00 น. จะมีกลุ่มมวลชนไปยืนแสดงสัญลักษณ์ปิดปากที่ลานน้ำพุสยามพารากอน พลตำรวจเอกจักรทิพย์ ยืนยันว่า ไม่กังวลในเรื่องดังกล่าว เนื่องจากตัวเองเป็นผู้บังคับใช้กฎหมาย ส่วนแนวโน้มจะขยายวงกว้างไปในพื้นที่ต่างจังหวัดหรือไม่ ยังไม่ทราบการข่าว แต่เบื้องต้นมีกฎหมายบังคับใช้ทั่วประเทศอยู่แล้ว การเคลื่อนไหวของมวลชนกลุ่มนี้ ตำรวจมีข้อมูลว่าเป็นกลุ่มเดิมๆ ที่เคยเคลื่อนไหวมาก่อนหน้านี้ ซึ่งตำรวจมีข้อมูลการตรวจสอบท่อน้ำเลี้ยง แต่ไม่ขอตอบว่ามีท่อน้ำเลี้ยงมาจากไหน และมีมากน้อยเพียงใด
ผู้สื่อข่าว:ปภาดา พูลสุข