ประธานสนช.ย้ำไม่คว่ำร่างพ.ร.ป. ยืนยันตั้งกมธ.ร่วม 3ฝ่าย ไม่กระทบโรดแมป

จากกรณีที่คณะอนุกรรมการฯได้เร่งตรวจร่างพระราชบัญญัติประกอบธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หรือ ร่างพ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. และร่างพระราชบัญญัติประกอบธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา หรือ ร่าง พ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. หลังจากผ่านการเห็นชอบจากที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.)  

นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการฯได้ตรวจร่างเสร็จแล้ว และได้ส่งไปให้คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.) และคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) แล้ว ทั้ง 2 หน่วยงาน มีเวลา 10 วัน ในการพิจารณานับตั้งแต่วันที่ได้รับร่างเพื่อพิจารณาว่า มีประเด็นใดขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย 2560 หรือไม่ หากทั้ง 2 หน่วยงานมีความเห็นขัดหรือแย้งกลับมา  นายพรเพชร ยืนยันว่า ไม่ส่งผลต่อกรอบเวลาเลือกตั้ง เพราะได้มีการคำนวณเวลาเผื่อไว้แล้ว หากมีความเห็นขัดแย้งก็อาจนำไปสู่การตั้งคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่าย ซึ่งในขั้นตอนนี้จะยังไม่ส่งผลให้การเลือกตั้งต้องขยับเวลาออกไปจากเดือนกุมภาพันธ์ ปี2562 ในทางกลับกัน หากไม่มีข้อโต้แย้งกลับมา ร่างกฎหมายทั้งสองก็จะถูกส่งไปให้พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อเตรียมนำขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป

นายพรเพชร อธิบายว่า การพิจารณาร่างกฎหมายทั้ง2ฉบับ จะมีผลกระทบต่อการเลื่อนโรดแมปการเลือกตั้งใน 2 กรณี กรณีแรกคือเมื่อการพิจารณาของคณะกรรมาธิการร่วม 3 ฝ่ายเสร็จสิ้นและมีการส่งกลับมาที่สนช.พิจารณา ซึ่งหากที่ประชุมไม่เห็นด้วยกับการขอให้แก้ไขและมีการคว่ำร่างก็จะเป็นปัญหาใหญ่ตามมา หรือกรณีที่สอง คือ มีสมาชิกสนช.เข้าชื่อหรือมีผู้ใดยื่นเรื่องส่งให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความว่าร่างกฎหมายทั้ง2ฉบับขัดแย้งต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยเฉพาะในประเด็นร่างพ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. ที่มีการปรับให้องค์กรหรือสมาคมสามารถเสนอชื่อบุคคลมาเป็นส.ว. ว่าอาจเป็นการขัดต่อรัฐธรรมนูญได้ ซึ่งก็จะทำให้โรดแมปการเลือกตั้งถูกเลื่อนออกไปอีกตามกรอบกฎหมาย นายพรเพชร ย้ำว่า ตัวเองและสนช.ไม่มีแนวคิดคว่ำกฎหมายลูก แต่ที่พูดมาเป็นเพียงการยกตัวอย่างถึงอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้น และเชื่อว่าหากกรธ.หรือกกต.มีความเห็นแย้งไม่มากก็ไม่สามารถนำไปสู่การคว่ำกฎหมายลูกได้เช่นกัน

นายพรเพชร ยกตัวอย่างประเด็นที่มีปัญหาต้องชะลอบังคับใช้กฎหมาย เช่นร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต ว่ากรธ.มีข้อคิดเห็นให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความในประเด็นการยกเว้นลักษณะต้องห้ามในร่างว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญหรือไม่ ซึ่งก็เป็นเหตุให้การออกกฎหมายต้องเลื่อนออกไปโดยปริยาย ซึ่งศาลรัฐธรรมนูญ จะเริ่มพิจารณาในวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้ และอีกสัปดาห์คงมีคำพิพากษาถึงร่างพ.ร.ป. ป.ป.ช.

สำหรับวันนี้ที่รัฐสภา สนช.มีกำหนดการให้การต้อนรับสมเด็จอัคคมหาพญาจักรี เฮง สัมริน ประธานสภาแห่งชาติราชอาณาจักรกัมพูชา และคณะ ในฐานะแขกของสนช. ในโอกาสเดินทางเยือนประเทศไทย อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 1-3 กุมภาพันธ์  มีกำหนดเข้าพบนายพรเพชร ในช่วงเที่ยง และมีกำหนดเข้าพบนายกรัฐมนตรี และเดินทางไปเยี่ยมแรงงานชาวกัมพูชาที่ทำงานในไทยด้วย

ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร