+++หลังจากที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ลงนามคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ(กนช.) ปรับปรุงแผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี(พ.ศ.2560-2579) พล.อ.ประยุทธ์ ได้ลงนามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ข้าราชการ พนักงานราชการ และลูกจ้างประจำกรมชลประทาน และกรมทรัพยากรน้ำ รวมจำนวน81 คน มาปฏิบัติราชการหรือปฏิบัติงานในสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ รวมคำสั่งเดิมที่แต่งตั้งให้นายสมเกียรติ ประจำวงษ์ เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ และนายสำเริง แสงภู่วงศ์ เป็นรองเลขาธิการสำนักงานฯ รวมจำนวน 83 คน
+++วันที่ 2 ก.พ.นายกฯจะเป็นประธานการประชุมกนช.นัดแรก ซึ่งนายกฯอยากเห็นภาพการบริหารจัดการน้ำตลอดทั้งแผน การแบ่งกลุ่มงบประมาณในแต่ละปี ใช้ในส่วนไหนบ้าง โดยจะแบ่งเป็นงบประมาณปกติ เช่น การปรับปรุง ซ่อมบำรุง ขยายแหล่งน้ำที่มีอยู่แล้ว และงบประมาณที่ใช้ในโครงการขนาดใหญ่ เช่น แผนสร้างคลองระบายน้ำหลากบางบาล-บางไทร ที่ใช้งบประมาณกว่าหมื่นล้านบาท รวมถึงชี้แจงให้เห็นถึงการใช้งบประมาณปกติจำนวน 5- 6 หมื่นล้านบาทตั้งแต่ปี 2557-2558 ทำอะไรไปแล้วบ้าง และต่อไปจะทำอะไรบ้าง รวมถึงในส่วนโครงการขนาดใหญ่ที่แต่ละภาคเสนอมาจำนวน 20-30 โครงการต้องนำมาดูว่าจะใช้งบประมาณเท่าไหร่ รวมถึงระยะเวลาการดำเนินโครงการด้วย
+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานจัดงานเลี้ยงอาหารกลางวันให้หน่วยขึ้นตรงกระทรวงกลา โหม รวมถึงสื่อมวลชนสายทหาร เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ 2561 โดย พล.อ.ประวิตร ระบุว่า รับราชการมาตั้งแต่ปี 2511 จนถึงขณะนี้ผ่านมา 50 ปี ไม่เคยมีเรื่องอะไรหนัก ๆ ก็ดูเอาแล้วกันว่าได้ทำอะไรที่เสียหายกับประเทศชาติบ้านเมืองหรือไม่ เข้ามาเพราะอยากจะช่วยเหลือบ้านเมือง อยากทำงานในบ้านเมือง ถ้าประชาชนไม่ต้องการ ก็พร้อมที่จะไปจากตำแหน่งนี้ อยากจะฝากกับสื่อว่าอยากให้ดูว่าผมทำงานมาตลอด 50 ปีได้ทำอะไรไว้บ้าง การทำงานของกระทรวงกลาโหม ได้สนับสนุนงานด้านความมั่นคงให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันอย่างสันติไม่มีแบ่งสี-แบ่งฝ่าย คลี่คลายปัญหาความขัดแย้งควบคู่กับการขับเคลื่อนประเทศให้ไปข้างหน้า แม้จะมีแรงเสียดทาน ขอยืนยันรัฐบาลชุดนี้ ยึดผลประโยชน์ชาติเป็นสำคัญ และดำเนินการทุกอย่างตามกฎหมาย
+++หลังจากตำรวจออกหมายเรียก 7 แกนนำกลุ่มฟื้นฟูประชาธิปไตย ที่จัดกิจกรรมบริเวณสกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน เมื่อวันที่ 27 ม.ค. เพื่อเรียกร้องให้มีการเลือกตั้ง ในข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)และยุยงปลุกปั่นตามกฎหมายอาญามาตรา 116 พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.)เปิดเผยว่า ผอ.สำนักงานเขตปทุมวัน ยืนยันบริเวณสกายวอล์ก สี่แยกปทุมวัน เป็นพื้นที่สาธารณะ พนักงานสอบสวนสน.ปทุมวัน จึงร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมเพิ่มเติม รวม 39 คน ในความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมสาธารณะปี 2558 มาตรา 7 ฐานร่วมกันชุมนุมในที่สาธารณะในรัศมี 150 เมตร จากวังของพระรัชทายาทหรือของพระบรมวงศานุวงศ์ฯ โดยให้ทั้งหมดมาพบพนักงานสอบสวนวันที่ 2 ก.พ.
+++พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า นอกจากนี้ตำรวจอยู่ระหว่าง รวบรวมพยานหลักฐานของชุดสืบสวนสอบสวน ที่ติดตามผู้ชุมนุมกลุ่มนี้ไปหลายจุด พบว่ามีผู้เข้าข่ายร่วมชุมนุม ปรากฏตามหลักฐานของเจ้าหน้าที่ ทั้งภาพเคลื่อนไหว ภาพถ่ายซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบอีก 66 คน กำลังพิสูจน์ทราบตัวบุคคล หากทราบก็จะออกหมายเรียกเพิ่มเติม แต่หากไม่สามารถออกหมายเรียกได้ก็ต้องออกหมายจับต่อไป
+++หลังจากที่เมื่อวานนี้ ศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.)ชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้แก่นายชิงชัย อุดมเจริญกิจ หนึ่งในแนวร่วมกลุ่มพันธมิตรประชาชน เพื่อประชาธิปไตย (พธม.) พร้อมพวกรวม 254 คน ที่ประสบเหตุบาดเจ็บและได้รับความเสียหายจากเหตุสลายการชุมนุมของกลุ่มพันธมิตรฯ ที่บริเวณรัฐสภา เมื่อวันที่ 7 ต.ค. 2551 โดยศาลปกครองสูงสุดสั่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติชดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เสียหายแต่ละราย จำนวนตั้งแต่ 7,000 บาท ถึง 4.1 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยภายใน 60 วัน และให้ยกฟ้องสำนักนายกรัฐมนตรี
+++พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร.ในฐานะโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยืนยันว่าสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมปฏิบัติตามคำสั่งศาล ซึ่งจะมีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาพิจารณาปฏิบัติตามขั้นตอน โดยหลังจากนี้จะมีการหารือกับผู้บังคับบัญชาอีกครั้งว่าจะต้องตั้งคณะทำงานกี่ชุด ประกอบด้วยชุดใดบ้าง โดยจะมีการประชุมหารือกันว่าจะปฏิบัติอย่างไร ใช้งบประมาณส่วนใด
+++คดีชิงหวย 30 ล้านบาท ยังไม่จบหลังจากที่พล.ต.ท. กิตติพงษ์ เงามุข ผบช.ภ.7 พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภ.7 ผู้ดูแลรับผิดชอบคดีหวยอลเวง แถลงว่า 3 ประเด็นที่ต้องทำให้กระจ่าง คือ 1.เส้นทางของหวยมาขายที่ตลาดจริงหรือไม่ 2.แม่ค้าขายให้นายปรีชา ใคร่ครวญ จริงหรือไม่ และ 3.ร.ต.ท.จรูญ วิมูล ได้สลากฯมาอย่างไร ประเด็นที่ 1.เส้นทางของสลากกินแบ่งรัฐบาล มีพยานยืนยันว่ายี่ปั๊วขายให้กับแม่ค้าขายหวยที่ตลาดเรดซิตี้จริง ประเด็นที่ 2.มีพยานยืนยันว่า ขายให้ครูปรีชาจริง และประเด็นที่ 3.ร.ต.ท.จรูญ พนักงานสอบสวนตั้งข้อสันนิษฐานว่า ซื้อมาจริงหรือเก็บได้ ทางตำรวจมีพยานยืนยันว่า ร.ต.ท.จรูญเก็บสลากฯได้ ทั้ง 3 เรื่อง ตำรวจมีพยานบุคคล จากการสอบพยานกว่า 40 ปาก มีความเชื่อมโยงกัน และยังสอบอีกว่าทุกคนที่เป็นพยานนั้นต่างไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับบุคคลทั้งสอง
+++ผบช.ภ.7 กล่าวว่า ตำรวจสืบสวนจากพยานจนได้ความจริงว่า ร.ต.ท.จรูญเก็บสลากฯ ได้พร้อมอธิบายว่า ประเด็นที่เป็นข้อสงสัยเรื่องซองพลาสติกใส่สลากฯ ที่ไม่ส่งตรวจที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ เนื่องจากทั้งแม่ค้า ร.ต.ท.จรูญ และตำรวจ จับซองทั้งหมด จนไม่สามารถส่งซองพลาสติกตรวจได้ ส่งแค่ตัวสลากฯ ไปตรวจที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์เท่านั้น ผลจึงพบแต่ลายนิ้วมือของ ร.ต.ท.จรูญ ส่วนครูปรีชาให้การว่าจับแต่ซองพลาสติกที่ห่อหุ้ม และไม่ได้แกะซองพลาสติกออกมาดูจึงไม่พบลายนิ้วมือ ส่วนกล้องวงจรปิดที่ติดตั้งอยู่ในตลาด ไม่มีภาพบันทึก เนื่องจากกล้องบันทึกภาพเกินเวลา ภาพเลยถูกลบโดยอัตโนมัติ
+++พล.ต.ต.กฤษณะ กล่าวว่า จะมีหนังสือเชิญตัว ร.ต.ท.จรูญ มาพบพนักงานสอบสวน และแจ้งข้อกล่าวหา หากครั้งแรกไม่มาพบ จะออกหนังสือเรียกตัวเป็นครั้งที่ 2 ครั้งที่ 2 หากไม่มาพบก็จะเสนอขอศาลอนุมัติออกหมายจับตามขั้นตอนของกฎหมาย ในส่วนข้อหาที่จะแจ้งคือ ข้อหายักยอกทรัพย์ที่หล่นหาย และรับของโจร ส่วนที่แจ้งข้อหารับของโจรด้วย เพราะไม่รู้ว่าใครเก็บได้จึงเพิ่มข้อหานี้ไป ส่วนของนายปรีชา หากมีพยานเพิ่มเติมขอให้แจ้งพนักงานสอบสวนมา ตำรวจพร้อมจะดำเนินการสอบสวนให้
แฟ้มภาพ