การจัดอบรมหลักสูตรนักบริหารการพัฒนาตามแนวพระราชดำริ (นบร.) รุ่นที่ 7 ของสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงาน โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ (กปร.) ร่วมกับสำนักสิริพัฒนา สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ โดยในวันนี้ได้มีการเปิดโครงการเป็นวันแรก มีพลอากาศเอก ชลิต พุกผาสุข องคมนตรี เป็นประธาน พร้อมกล่าวกับผู้เข้ารับการอบรม จำนวน 50 คน ว่า การจัดอบรมครั้งนี้ผู้เข้าอบรมจะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ ทั้งความรู้ตามหลักวิชาความรู้ ด้านมนุษย์สัมพันธ์ และสิ่งสำคัญ คือได้เรียนรู้ถึงองค์ความรู้อันเนื่องมาจากพระราชดำริเกี่ยวกับการพัฒนาและวิธีบริหารให้สัมฤทธิผล ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต่างมาจากพระปรีชาสามารถ และพระวิริยะอุตสาหะ ตลอดระยะเวลา 70 ปี ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ที่ทรงงานหนักเพื่อประโยชน์สุขของพสกนิกร โดยได้ทรงริเริ่มโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริต่างๆ จำนวนมาก ในหลักการความประหยัด เรียบง่าย สอดคล้องกับหลักวิชาภูมิสังคม บูรณาการร่วมกัน เพื่อประโยชน์สุขของราษฎร
นอกจากนี้ยังมีเรื่องของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ที่ทรงชี้แนะแนวทางการดำเนินชีวิตแก่ประชาชน ให้สามารถนำมาประยุกต์ใช้ และพัฒนาตามแนวพระราชดำริ ทั้งนี้การขับเคลื่อนปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง จำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือ มีความรู้อย่างแท้จริงเพื่อนำมาปรับใช้ ให้เหมาะสม เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน รวมทั้งยังเป็นการดำเนินงานสนองพระราชปณิธานของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่จะสืบสานรักษาต่อยอดโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริให้เกิดความยั่งยืน เกิดประโยชน์สุขกับประชาชนทั่วถึงต่อไปด้วยง
ด้านนายดนุชา สินธวานนท์ เลขาธิการ กปร. กล่าวว่า ทุกคนต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ และทราบถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ แต่สิ่งที่ทุกคนควรตระหนัก คือการใช้ประโยชน์ การดูแลรักษา การเป็นเจ้าของโครงการสาธารณประโยชน์ ที่ได้รับพระมหากรุณาธิคุณจากพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ถือเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องเข้าใจหลักการ ซึ่งการจัดอบรมครั้งนี้ ทาง กปร. ได้เห็นความสำคัญที่จะสร้างความรู้ พร้อมขยายผลแนวทางตามพระราชดำริต่างๆ ให้เกิดการพัฒนาต่อเนื่องจำ ซึ่งจำเป็นต้องมีหลักสูตรอบรมผู้แทนที่เกี่ยวข้อง สร้างเครือข่ายหน่วยราชการ ให้เกิดการบูรณาการร่วมกันสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในระหว่างการทำงาน พร้อมพาผู้เข้าอบรมลงพื้นที่ดูโครงการตามพระราชดำริ ให้ร่วมกันแสดงความคิดเห็นเสนอแนะแนวทาง
โดยหวังว่าผู้รับอบรม ในจะสามารถมีประโยชน์ ในการพัฒนาโครงการ อย่างไรก็ตามในปีนี้ได้เข้าสู่การอบรมเป็นปีที่ 7 แล้ว แต่ก็ได้ติดตามประเมินผลผู้ผ่านการอบรมทุกรุ่นอย่างต่อเนื่อง ให้เกิดประสิทธิภาพ และเกิดประโยชน์ โดยได้รับความร่วมมืออย่างดีมาตลอด ถือเป็นสิ่งที่ดีที่ทำให้การทำงานไม่ผิดเพี้ยน ขณะเดียวกันยังเกิดการประยุทธ์ใช้ขึ้นด้วย