หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีกล่าวถึงกรณีโครงการ 9101 ซึ่งเป็นโครงการช่วยเหลือฟื้นฟู เกษตรกรที่ประสบอุทกภัย ภาคอีสาน ในภาคปฏิบัติ ที่ยังพบว่ามีปัญหา เงินโครงการลงไปไม่ถึงเกษตรกร ตามที่รัฐบาลตั้งใจ และมีการอ้างว่ามีการแบ่งเค้กกันระหว่างทาง ว่า ไม่เข้าใจว่าจะสามารถแบ่งเค้กระหว่างทางได้อย่างไร เพราะงบประมานถูกโอนจากข้างล่าง ซึ่งเท่าที่ทราบหากในโครงการต้องการจะซื้อของหรือใช้งบประมาณไปทำอะไรจะต้องมีการทำประชามติหรือเวทีประชาคมก่อนในพื้นที่ก่อน ขออย่ามองว่าเป็นการทุจริตไปทุกเรื่องโดยขอให้ไปดูที่ขั้นตอนการปฏิบัติเพราะหากไม่เข้าใจก็จะมองว่าทุจริตไปทั้งหมด เพราะการทำผลสำรวจก็จะมีทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยเสมอ อย่างไรก็จามหากมีข้อมูลหลักฐานในเรื่องดังกล่าวขอให้ไปแจ้งที่ศูนย์ดำรงธรรมหรือตนเองโดยตรงโดยไม่ต้องกลัว
ส่วนกรณีกลุ่มชาวบ้านที่คัดค้านโรงไฟฟ้าถ่านหินเทพา ยื่นหนังสือเรียกร้องให้ทบทวน EIA พร้อมขอให้ยกเลิกโครงการ รวมถึงยกเลิกการดำเนินคดีกับชาวบ้านที่เข้าชุมนุมที่สงขลาเมื่อครั้งประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจร ที่ภาคใต้ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าได้มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานไปดูแล ขณะเดียวกันต้องแก้ปัญหาเรื่องการขาดแคลนพลังงานในทุกมิติ พร้อมกันนี้ขอฝากถึงคนคัดค้านความมั่นคงทางด้านพลังงานด้วย ซึ่งขณะนี้รัฐบาลอาจต้องชะลอโครงการนี้ไปก่อน และต้องหาวิธีแก้ปัญหาการขาดแคลนพลังงานซึ่งอาจใช้วิธีแก้ปัญหาได้ในระยะสั้น จึงแสดงให้เห็นว่ารัฐบาลรับฟังความคิดเห็นของประชาชน แม้ไม่ใช่รัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง และอาจถูกมองว่ามีอำนาจสิทธิ์ขาดทั้งหมด นายกรัฐมนตรีระบุว่า ความเป็นจริงแล้วไม่ใช่ทั้งหมด เพราะในรัฐบาลนี้เปิดช่องทางในการแก้ปัญหาให้กับประชาชนซึ่งไม่เคยมีมาก่อนคือศูนย์ดำรงธรรม และช่องทางโซเชียลมีเดีย ที่สามารถแก้ปัญหาไปได้หลายล้านเรื่อง ดังนั้นจะบอกว่ารัฐบาลทำไม่ตรงกับความต้องการของประชาชนได้อย่างไร แม้กระทั่งสื่อที่มีการเขียนบทความต่าง ๆ ตนเองก็ไม่เคยปิดกั้นดังนั้นขออย่าขยายความไปต่างประเทศและกลายเป็นว่ารัฐบาลปิดกั้นทุกคน
ส่วนการดำเนินคดีกับชาวบ้านที่เข้าชุมนุม นายกรัฐมนตรีระบุว่า ก็ขอให้ไปดูที่กระบวนการยุติธรรมซึ่งกองทุนยุติธรรมเป็นผู้ดูแลแต่ยอมรับว่าอะไรที่กลายเป็นคดีความแล้วจะแก้ไขลำบาก แต่ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมอย่างแน่นอน
ด่านการเคลื่อนไหวกลุ่มคัดค้าน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า การจะทำอะไรที่ส่งผลกระทบต่อความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ก็เป็นเรื่องของกระบวนการยุติธรรมที่จะต้องดำเนินการ ซึ่งไม่ว่าจะทำอะไรก็ตามการเคลื่อนไหวศาลปกครองก็สามารถคุ้มครองในช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ขออย่าทำผิดกฎหมาย พร้อมขอให้มองด้วยว่าขณะนี้มีคนเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย มีคนเดือดร้อน และมีทั้งฝ่ายต้องการให้ใช้กฎหมายรุนแรงให้เรื่องจบ หรือให้นำไปสู่ความขัดแย้ง จึงขอให้ไปดูเจตนา พร้อมยืนยันว่าตนเองไม่ไปขัดแย้งกับใคร