ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุระเบิดรถพยาบาลในกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถานวานนี้เพิ่มขึ้นเป็น 95 ศพ และพบผู้บาดเจ็บอีก 158 คน โฆษกกระทรวงกิจการภายในของอัฟกานิสถานเผยผลการสอบสวนเหตุที่เกิดขึ้นว่า คนร้ายได้ขับรถพยาบาลบรรทุกระเบิดผ่านจุดตรวจ และเจ้าหน้าที่ประจำจุดได้ตรวจพบระเบิด แต่ไม่สามารถยับยั้งการก่อเหตุของคนร้ายได้ โดยหลังจากขับรถผ่านจุดตรวจเมื่อเวลา 12.45 น. ตามเวลาท้องถิ่น คนร้ายก็ได้กดระเบิดฆ่าตัวตายใกล้กับอดีตที่ตั้งสำนักงานกระทรวงความมั่นคง รวมทั้งยังรายล้อมด้วยโรงพยาบาลและสถานทูตหลายแห่ง และหลังเกิดเหตุโฆษกกลุ่มตอลิบานได้ออกมาประกาศความรับผิดชอบต่อเหตุที่เกิดขึ้น ด้านโฆษกกระทรวงสาธารณสุขอัฟกานิสถานแสดงความวิตกว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่นายอับดุลเลาะห์ อับดุลเลาะห์ ผู้นำอัฟกานิสถานประณามเหตุที่เกิดขึ้นว่าเป็นสงครามอาชญากรรมที่ไร้ซึ่งมนุษยธรรม พร้อมเรียกร้องให้ประชาคมโลกเพิ่มมาตรการต่อต้านการสนับสนุนการก่อการร้าย เช่นเดียวกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ ก็ได้ประณามเหตุระเบิดรถพยาบาลในอัฟกานิสถาน และระบุด้วยว่าสหรัฐฯ จะช่วยรักษาความมั่นคงแก่อัฟกานิสถาน รวมทั้งเรียกร้องให้ทุกประเทศดำเนินมาตรการต่อต้านกลุ่มตอลิบาน ขณะที่นายเร็กซ์ ทิลเลอร์สัน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ประณามการก่อเหตุรุนแรงครั้งนี้ว่า กลุ่มตอลิบานใช้รถพยาบาลเป็นอาวุธในการโจมตีพลเรือนผู้บริสุทธิ์ ซึ่งถือเป็นเรื่องที่เลวร้ายมากและขัดต่อหลักมนุษยธรรมสากล ทั้งนี้ ระเบิดยังเกิดขึ้นในระหว่างที่นายพลโจเซฟ โวเทล ผู้บัญชาการทหารแห่งกองบัญชาการกลาง กองทัพสหรัฐฯ เดินทางเยือนกรุงคาบูลด้วย และขณะเกิดเหตุ เขากำลังประชุมอยู่กับเจ้าหน้าที่อัฟกัน ซึ่งห่างจากจุดเกินเหตุไม่ถึง 2 ไมล์ นายพลโวเทลยืนยันว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นจะไม่กระทบต่อแผนการเดินทางเยือนอัฟกานิสถานของเขาอย่างแน่นอน และระเบิดยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาที่ทหารอเมริกันหลายร้อยนายได้รับคำสั่งให้เข้าประจำการเพิ่มเติมในอัฟกานิสถาน เพื่อปฏิบัติภารกิจฝึกฝนนายทหารอัฟกันแบบลงไปในภาคสนามพร้อมกันด้วย ตามนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์ ซึ่งสร้างความวิตกด้านสวัสดิภาพและความปลอดภัยต่อทหารอเมริกันเป็นอย่างยิ่ง
...
**8.10F174**