ประธานสนช. สั่งพักประชุมหาข้อสรุปการแบ่งกลุ่มที่มาส.ว.

26 มกราคม 2561, 11:52น.


การประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ สนช. ในวันนี้ที่มีวาระพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา หรือ ร่างพ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว.ล่าสุดที่ประชุมสนช.ได้เริ่มลงรายละเอียดอภิปรายเป็นรายมาตรา โดยที่ประชุมได้กำหนดให้มีการอภิปรายเฉพาะมาตราที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.ป. ว่าด้วยการได้มาซึ่งส.ว. มีการแก้ไข โดยในชั้นคณะกรรมาธิการฯ ได้มีการปรับแก้เนื้อหาจำนวน 23 มาตรา แบ่งเป็นปรับแก้เนื้อหาและถ้อยคำ 19 มาตรา ปรับเพิ่มขึ้นใหม่ 2 มาตรา และตัดออกทั้งมาตรา 2 มาตรา  ซึ่งร่างกฎหมายฉบับนี้มีทั้งสิ้น 92 มาตรา



ขณะนี้การอภิปรายอยู่ในมาตรา11 ที่คณะกรรมาธิการฯ ปรับแก้ให้การแบ่งกลุ่มว่าด้วยวิธีการคัดเลือกเพื่อให้ได้มาซึ่งส.ว. เหลือเพียง 10 กลุ่ม จากเดิมที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ(กรธ.)กำหนดไว้ที่ 20 กลุ่มสาขา



นายสมคิด เลิศไพฑูรย์ ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯระบุว่า การตั้งกลุ่มอาชีพไว้ที่ 10 กลุ่มตามที่คณะกรรมาธิการฯเสนอมานั้น ถือว่าน้อยเกินไป และจะทำให้เกิดการบล็อคโหวตง่ายขึ้น แต่ถ้าตรงกันข้ามนำการแบ่งกลุ่มของกรธ.ที่แบ่งไว้ 20 กลุ่มมาพิจารณาก็พบว่าจะทำให้บล็อคโหวตได้ยาก แต่การแบ่งกลุ่มก็ถือว่าละเอียดเกินไป โดยรวมอยากให้ช่วยกันพิจารณาเหลือประมาณ 10-15 กลุ่มน่าจะกำลังดี



ด้านนายมณเฑียร บุญตัน สมาชิกสนช. ระบุว่า เห็นด้วยกับการแบ่งกลุ่ม 20 กลุ่มตามที่กรธ.เสนอมากกว่าการแบ่งเหลือ 10-15 กลุ่ม เพราะการมีกลุ่มน้อย นอกจากจะทำให้กลุ่มบุคคลธรรมดาเข้าถึงการเป็นส.ว. ได้ยากขึ้นแล้ว ยังทำให้เกิดช่องทางสำหรับผู้มีอำนาจที่อาจเอื้อต่อการบล็อคได้ง่าย อีกทั้งมองว่าการมี 20 กลุ่มจะเป็นช่องทางกระจายบุคคลที่มาเป็นส.ว.มากกว่า แต่ทั้งนี้ต้องคำนึงถึงการผสมกลุ่มให้ลงตัวและมีความหลากหลายด้วย



ขณะที่นายแพทย์เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิก สนช. ได้อภิปรายให้ลดเหลือ 5 กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มภาควิชาการ, กลุ่มภาครัฐ, กลุ่มภาคเอกชน, กลุ่มภาควิชาชีพ และกลุ่มภาคอื่นที่เป็นประโยชน์ในการปฏิบัติตามอำนาจของวุฒิสภา โดยให้มีที่มาจากการสมัครกันเอง และส่งมาจากสมาคม ชมรม โดยมองว่าการลดกลุ่มให้น้อยลงจะทำให้เกิดความเท่าเทียม อีกทั้งในอดีตก็เคยมีวิธีการสรรหาในวิธีนี้มาก่อน ซึ่งได้ผลเป็นที่น่าพอใจ อีกทั้งมองว่าการแบ่งกลุ่มจำนวนมากจะทำให้เกิดความไม่สมดุล เพราะบางกลุ่มอาชีพ เช่น กลุ่มเกษตร มีสัดส่วนในสังคมมากกว่า



จากนั้น นายสมคิด ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการฯ ได้ชี้แจงการแบ่งกลุ่มของคณะกรรมาธิการฯว่า 10 กลุ่มอาชีพที่เสนอประกอบด้วยไปด้วยกลุ่มอาชีพใดบ้าง แต่ที่ประชุมก็ยังไม่มีท่าทีว่าจะหาข้อสรุปเรื่องการแบ่งกลุ่มได้ ทำให้เมื่อเวลาประมาณ 11.30น. นายพรเพชร ประธานในการประชุมได้สั่งพักการประชุมเพื่อให้สมาชิกไปหารือถึงหลักการแบ่งกลุ่มให้แล้วเสร็จ เพราะเป็นกังวลในเรื่องเวลาที่อาจจะไม่เพียงต่อการพิจารณาที่ต้องแล้วเสร็จก่อนเที่ยงคืนในวันนี้  



ผู้สื่อข่าว:ธีรวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร 



 

ข่าวทั้งหมด

X