ไทยสานสัมพันธ์อาเซียน-อินเดีย/ก.อุตสาหกรรม หารือช่วยเอสเอ็มอีปรับตัวรับการขึ้นค่าแรง/ตร.เรียกครูปรีชาให้ข้อมูลเพิ่มเรื่องหวย

+++ ความร่วมมือระหว่างไทยกับอินเดีย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางร่วมประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย ในโอกาสครบรอบ 25 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-อินเดีย และร่วมงานวันสถาปนาสาธารณรัฐอินเดียครั้งที่ 69 ณ กรุงนิวเดลี สาธารณรัฐอินเดีย ระหว่างวันที่ 24-26 มกราคมนี้ โดย พล.อ.ประยุทธ์ได้หารือกับนายนเรนทร โมที นายกรัฐมนตรีอินเดีย ก่อนการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-อินเดีย ณ เรือนรับรองไฮเดอราบัด และช่วงค่ำนี้จะเดินทางกลับถึงท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง

+++พล.ท.วีรชน สุคนธปฏิภาค รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลหารือว่า พล.อ.ประยุทธ์ยืนยันไทยและอาเซียนพร้อมส่งเสริมความเป็นหุ้นส่วนในเชิงสร้างสรรค์กับอินเดีย และไทยจะเป็นประเทศผู้ประสานงานความสัมพันธ์อาเซียนอินเดีย ในเดือนสิงหาคม 2018 นี้ จะผลักดันความร่วมมือต่างๆ อย่างเต็มที่ สำหรับความสัมพันธ์ไทย-อินเดีย มีพัฒนาการเกิดผลรูปธรรมในความร่วมมือต่างๆ เช่น การค้าการลงทุน และการต่อต้านการก่อการร้าย ในการหารือผู้นำไทยและอินเดีย เห็นพ้องการผลักดันความร่วมมือทั้งในส่วนของความร่วมมือทวิภาคีและความร่วมมือในภูมิภาค

+++กรณีที่ฮิวแมนไรท์วอทช์ออกรายงานเกี่ยวกับสถานการณ์ด้านแรงงานในภาคประมงของไทยว่า ยังคงมีการบังคับใช้แรงงานอย่างกว้างขวาง น.ส.บุษฎี สันติพิทักษ์ อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ไทยไม่เห็นด้วยกับรายงานดังกล่าวของฮิวแมนไรท์วอทช์ที่ระบุว่าอียูควรให้ใบเหลืองกับไทยต่อไปเพราะเรื่องแรงงาน เนื่องจากการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (ไอยูยู) ในช่วง 2 ปี รัฐบาลไทยได้มุ่งมั่นแก้ไขปัญหาแรงงานในภาคประมงอย่างจริงจัง ส่งผลให้สถานการณ์ด้านแรงงานในภาคประมงเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้นหลายด้าน ขณะที่ รายงานอ้างอิงข้อมูลส่วนใหญ่จากสถานการณ์ในปี 2559 และบางส่วนย้อนหลังไปถึงปี 2555 จึงไม่สอดคล้องกับข้อเท็จจริง ขอเรียกร้องให้ฮิวแมนไรท์วอทช์มองสถานการณ์ด้านแรงงานของไทยอย่างสมดุลและปราศจากอคติ

+++พล.อ.ฉัตรชัย สาริกัลยะ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมไอยูยู ว่า ที่ประชุมได้หารือถึงการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการจ่ายเงินให้ชาวประมง ตามที่กระทรวงแรงงาน ได้ออกประกาศให้จ่ายเงินผ่านธนาคาร แต่ยังพบปัญหาเนื่องจากตู้กดเงินสด (เอทีเอ็ม) ยังไม่เพียงพอ ที่ประชุมจึงได้ข้อสรุปว่าให้ติดตั้งตู้เอทีเอ็มให้เพียงพอต่อการใช้งานภายในเวลา 3 เดือน จำนวน 22 จังหวัด และนำข้อมูลมาสรุปให้ที่ประชุมพิจารณาในวันที่ 2 ก.พ. ทั้งนี้ การจ่ายเงินผ่านธนาคารจะเป็นผลดีต่อผู้ประกอบการ เนื่องจากมีหลักฐานว่าได้จ่ายเงินจริง และสามารถช่วยแก้ปัญหาที่ฮิวแมนไรท์วอทช์ ท้วงติงว่านายจ้างจ่ายเงินไม่ตรงกับค่าแรงจริง         

+++การปรับขึ้นค่าแรงขั้นต่ำแรง นายสมคิด จาตุศรี พิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี มองว่า ค่าแรงขั้นต่ำควรต้องปรับขึ้น เพราะไม่ได้ขึ้นมาหลายปี ค่าครองชีพของประชาชน มีการปรับขึ้นมาหลายครั้ง ดังนั้น ค่าแรงขั้นต่ำ ต้องมีการปรับขึ้นบ้าง ซึ่งเอกชนต้องรู้จักปรับตัวพัฒนาการผลิตให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้มีรายได้ที่เพิ่มขึ้น และต้องมีการใช้เทคโนโลยีเข้ามาแทนที่แรงงาน เพื่อพัฒนาตัวเอง

+++ด้านนายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) กระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า วันที่ 29 มกราคมนี้ นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม จะประชุมร่วมกับนายกลินท์ สารสิน ประธานสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมผู้บริหารกระทรวงอุตสาหกรรม กสอ. และสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) หารือมาตรการเพื่อช่วยเหลือ บรรเทาผลกระทบให้กับเอสเอ็มอีภาคอุตสาหกรรม การค้า และบริการ รวมประมาณ 3 ล้านรายทั่วประเทศ ที่ได้รับผลกระทบจากมติปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 5-22 บาท/วัน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2561 จากจำนวนเอสเอ็มอีทั้งหมดในภาคอุตสาหกรรม 3-4 แสนรายไม่กระทบมาก เพราะค่าจ้างสูงกว่าขั้นต่ำ ที่เหลือเป็นภาคการค้าและบริการที่จ่ายตามระดับปกติ โดยหลังหารือจะมีมาตรการที่ชัดเจนและนำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) ต่อไป

+++การสอบปากคำผู้ต้องหาในคดีอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเคร็ท เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวนข้อเท็จจริงกรณีตำรวจเข้าไปใช้บริการ เข้าสอบปากคำ นายบุญทรัพย์ อมรรัตนาศิริ หรือ ป๋ากบ ผู้ต้องหาในคดีค้ามนุษย์ และพวกรวม  6 คน ที่ถูกคุมขังอยู่ในเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร โดยเน้นตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีรายชื่อตำรวจสังกัดหน่วยงานต่าง ๆ เข้าใช้บริการ รวมถึงการเรียกรับผลประโยชน์ ซึ่งหากพบความผิดแน่ชัด ก็จะนำสู่กระบวนการพิจารณาความผิดทางวินัยและอาญา รวมทั้งได้สอบปากคำในประเด็นการกระทำผิดต่าง ๆ ของสถานบริการ การนำพาหญิงสาวต่างด้าวที่ถูกนำมาค้าประเวณีอยู่ในสถานบริการด้วย เพื่อนำมาประกอบสำนวนคดี รวมถึงการสอบปากคำผู้ต้องหาคนสำคัญ คือ น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ผู้ถือครองใบอนุญาตสถานบริการ และยังเป็นหลานสาวของ นายกำพล หรือ เสี่ยกำพล ผู้ต้องหาตามหมายจับในคดีค้ามนุษย์ และ ข้อหาอื่น ๆ รวม 12 ข้อหา และยังเป็นเจ้าของสถานบริการด้วย ซึ่งจะต้องมีการส่งมอบรายงานต่อ พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผบ.ตร.ในวันที่ 30 ม.ค.

+++พล.ต.ต.กฤษณะ ทรัพย์เดช รอง ผบช.ภ.7 ประชุมความคืบหน้าคดีสลากกินแบ่งรัฐบาล รางวัลที่ 1 เงินรางวัล 30 ล้านบาท ที่ ร.ต.ท.จรูญ วิมูล อดีตข้าราชการตำรวจ เป็นผู้นำสลากไปขึ้นเงินรางวัล และนายปรีชา ใคร่ครวญ ครูชำนาญการพิเศษโรงเรียนเทพมงคลรังษี ต.บ้านเหนือ อ.เมืองกาญจนบุรี อ้างว่าเป็นคนซื้อสลากชุดดังกล่าว แต่สลากได้หายไป ว่าคดีมีความคืบหน้าไปมาก เกือบจะสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์แล้ว จะพยายามสรุปสำนวนให้แล้วเสร็จภายในสิ้นเดือนนี้ อยู่ระหว่างรอผลการตรวจพิสูจน์วัตถุพยาน 2 ชิ้น ที่ส่งไปตรวจที่สำนักงานพิสูจน์หลักฐาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หลังจากได้ผลการตรวจพิสูจน์จะเรียกประชุมคณะทำงานเพื่อสรุปสำนวนส่งให้อัยการพิจารณาสั่งคดี

+++พล.ต.ต.กฤษณะ กล่าวว่า  สอบพยานไปแล้ว 37 ปาก คณะทำงานจะได้ประสานนายปรีชามาให้ปากคำเพิ่มเติม และมีพยานหลักฐานที่จะนำมาให้พนักงานสอบสวนเพิ่มเติมอีกหรือไม่ ก่อนจะสรุปสำนวน  ไม่มีใครรู้ว่าข้อเท็จจริงในเรื่องนี้เป็นอย่างไร คนที่รู้ดีที่สุดคือนายปรีชา และ ร.ต.ท.จรูญ เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นคนกลาง ก็ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐานที่ปรากฏ

CR:รัฐบาลไทย