สนช.ส่งร่างพ.ร.ป.ส.ส.ให้กรธ.พิจารณาใน10วัน/กรธ.เชื่อมั่นวิธีการเลือกไขว้ส.ว.ลดการบล็อคโหวต/คาดสรุปสำนวนคดีฟอกเงินธ.กรุงไทยได้เดือนมี.ค.

26 มกราคม 2561, 06:52น.


+++ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ใช้เวลาประมาณ 14 ชั่วโมง เริ่มการประชุมตั้งแต่เวลา 09.00น. เมื่อวานนี้ จนเสร็จสิ้นการประชุมเมื่อเวลา 23.09น. ให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรทั้งฉบับ ด้วยคะแนนเสียงเห็นด้วย 213 เสียง ไม่เห็นด้วยไม่มี และงดออกเสียง 4 เสียง หลังจากนี้สนช.จะมีการส่งร่างพ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ไปให้กับคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ หรือ กรธ. และองค์กรอิสระว่ามีความเห็นขัดหรือแย้งหรือไม่ ภายใน 10 วัน หากมีความเห็นขัดหรือแย้งก็อาจมีการขอตั้งกรรมาธิการฯร่วม 3 ฝ่าย เพื่อหารือในการแก้ไขรายละเอียดต่อไปภายในเวลา 15 วัน ก่อนที่จะส่งกลับให้ที่ประชุมสนช. เพื่อพิจารณาอีกครั้ง แต่หากไม่มีข้อคิดเห็นขัดแย้ง ร่างพ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ก็จะเข้าสู่ขั้นตอนการส่งไปให้พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อนำขึ้นทูลเกล้าฯต่อไป



+++ที่ประชุมอภิปรายแสดงความคิดเห็นและลงมติในมาตราสำคัญ โดยเฉพาะมาตรา 2 เห็นชอบให้ขยายเวลาบังคับใช้ร่างกฎหมายดังกล่าว 90 วัน นับจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษา เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าโรดแมปกรอบระยะเวลาการเลือกตั้งต้องเลื่อนออกไปจนถึงต้นเดือน ก.พ.และมี.ค. 2562  ส่วนมาตรา 75 ที่ประชุมเห็นชอบให้สามารถจัดงานมหรสพและงานรื่นเริงระหว่างการหาเสียง ไม่เกินร้อยละ 20 ของวงเงินหาเสียงพรรคการเมืองตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนไปใช้สิทธิเลือกตั้งมากขึ้น  กำหนดในมาตรา 64 ที่ประชุมยังเห็นชอบในมาตรา 87 ที่คณะกรรมาธิการฯ มีการแก้ไขให้ขยายเวลาการลงคะแนนเสียงเลือกตั้งออกไปเป็นเวลา 07.00-17.00น.



+++สำหรับการประชุมสนช.ในวันนี้ จะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในวาระที่ 2 และ 3 เบื้องต้น พลเรือเอกธราธร ขจิตสุวรรณ สนช. ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ระบุว่า ที่ประชุมมีมติให้แบ่งกลุ่มที่มา ส.ว. แบบใหม่ จากเดิมกรธ. แบ่งเป็น 20 กลุ่ม ให้เปลี่ยนเป็น 15 กลุ่มสังคม ประกอบด้วย 1. กลุ่มการบริหารราชการแผ่นดินและความมั่นคง 2. กลุ่มกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม 3. กลุ่มการศึกษา 4. กลุ่มการสาธารณสุข 5. กลุ่มอาชีพทำนา ปลูกพืชล้มลุก ทำสวน ป่าไม้ ปศุสัตว์ ประมง 6. กลุ่มพนักงานหรือลูกจ้างของบุคคลซึ่งไม่ใช่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ 7. กลุ่มผู้ประกอบอาชีพด้านสิ่งแวดล้อม ผังเมือง อสังหาริมทรัพย์ และสาธารณูปโภค ทรัพยากรธรรมชาติ พลังงาน 8. กลุ่มผู้ประกอบกิจการขนาดกลางและขนาดย่อม กลุ่มผู้ประกอบธุรกิจหรืออาชีพด้านการท่องเที่ยว 9. กลุ่มผู้ประกอบการอุตสาหกรรม 10. กลุ่มผู้ประกอบอาชีพวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี การสื่อสาร การพัฒนา นวัตกรรม 11. กลุ่มสตรี ผู้สูงอายุ คนพิการหรือทุพลภาพ 12. กลุ่มชาติพันธุ์ กลุ่มอัตลักษณ์อื่นๆ 13. กลุ่มศิลปะวัฒนธรรม ดนตรี การแสดงและบันเทิง นักกีฬา สื่อสารมวลชน ผู้สร้างสรรค์วรรณกรรม 14. กลุ่มประชาสังคม องค์กรสาธารณประโยชน์ และ 15. กลุ่มอื่น ๆ



+++ส่วนวิธีได้มาซึ่ง ส.ว.ให้ยกเลิกวิธีการเลือกไขว้ตามที่กรธ. เสนอ เปลี่ยนเป็นการให้ผู้สมัครเลือกกันเองภายในกลุ่ม ซึ่งทั้ง 15 กลุ่ม จะได้สมาชิกกลุ่มละ 13 คน รวมทั้งหมด 195 คน ส่วนเศษที่เหลืออีก 5 คน ให้กลุ่มที่มีผู้สมัครมากที่สุดได้รับจำนวนสมาชิกวุฒิสภาเพิ่มขึ้นอีกกลุ่มละ 1 คน เรียงตามลำดับ



+++นายอุดม รัฐอมฤต โฆษกกรธ.กล่าวว่า กรธ.มีประเด็นที่ติดใจ คือวิธีการเลือกที่ยกเลิกระบบการเลือกไขว้ แต่ให้เลือกกันเองภายในกลุ่ม เนื่องจากกังวลว่าจะทำให้เกิดการบล็อคโหวตได้สูง แม้ว่าคณะกรรมาธิการเสียงข้างมากจะเพิ่มวิธีการใหม่ในการป้องกันการบล็อคโหวตแล้วก็ตาม แต่ กรธ. ก็ยังอยากเห็นวิธีการดังกล่าวว่าจะเป็นอย่างไร เพราะกรธ. ยังเชื่อมั่นว่าวิธีการเลือกไขว้ลดโอกาสการบล็อคโหวตได้มากกว่า 



+++ด้านนางเรืองรวี พิชัยกุล ผู้ประสานงานขบวนการผู้หญิงปฏิรูปประเทศไทยหรือวีมูฟ ยื่นหนังสือขอเสนอให้แยกสตรีเป็นกลุ่มเฉพาะในการแบ่งกลุ่มผู้สมัคร เพื่อส่งเสริมหลักความเสมอภาค นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานสนช. คนที่ 1 จะทำสำเนาเพื่อมอบให้กับสมาชิกสนช.ทันที เพราะกฎหมายจะเข้าสู่ที่ประชุมสนช. ในวันนี้



+++แผนปฏิรูปประเทศ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ แถลงว่า คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ 11 ด้านซึ่งไม่นับด้านการศึกษาและด้านการปฏิรูปตำรวจได้ทำแผนการปฏิรูปประเทศเสร็จแล้วทันตามกำหนด จากนี้จะมีเวลา 1 เดือนสำหรับการสร้างความเข้าใจกับทุกภาคส่วน จากนั้นในปลายเดือน ก.พ.นี้ จะมีการเสนอแผนการปฏิรูปประเทศไปยังคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเพื่อขอความเห็นชอบ ก่อนจะเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ช่วงปลายเดือนมี.ค. ซึ่งถ้าครม.มีมติเห็นชอบและไม่ต้องปรับแก้ ก็สามารถประกาศใช้ได้ทันที คิดว่า จะมีแผนปฏิรูปประเทศออกมาช่วงปลายเดือน มี.ค.หรือต้นเดือน เม.ย.นี้ เมื่อเริ่มใช้แล้วก็ต้องทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้ภายใน 5 ปี



+++คดีทุจริตปล่อยกู้ฟอกเงินธนาคารกรุงไทย นายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ อัยการพิเศษฝ่ายสอบสวน 3 ในฐานะพนักงานสอบสวนร่วมคดีนี้ เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ทนายความนายพานทองแท้ ชินวัตร ลูกชายของอดีตนายกฯ ยื่นหนังสือขอให้สอบปากคำพยานเพิ่มเติม จำนวน 21 ปาก คณะพนักงานสอบสวน พิจารณาแล้วเห็นว่าควรสอบเพียงแค่ 8 ปาก เนื่องจาก พิจารณาแล้วเห็นว่ามีความเกี่ยวข้องโดยตรง และนัดสอบปากคำพยานเมื่อวันที่16-17ม.ค.แต่พยานขอเลื่อนเป็น 4 ก.พ. ยืนยันว่าการทำคดีนี้ไม่มีใครชี้นำได้ เนื่องจาก หลักฐานของคดีมาจากพยานเอกสารของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อรัฐ (คตส.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการ ฟอกเงิน (ปปง.) เป็นหลัก ไม่ใช่พยานบุคคลจึงไม่จำเป็นต้องมีการกลั่นแกล้งใคร คาดว่า จะสามารถสรุปสำนวนส่งให้พนักงานอัยการได้ภายในเดือนมี.ค.นี้โดยคดีดังกล่าวจะหมดอายุความในเดือน ธ.ค.2561



แฟ้มภาพ 



 

ข่าวทั้งหมด

X