บรรษัทกระจายเสียงเอ็นเอชเคของญี่ปุ่นและหนังสือพิมพ์ฮินดูสถานไทม์สของอินเดียรายงานว่านายกรัฐมนตรีนาเรนทรา โมดีของอินเดีย เตือนเรื่องผลเสียหายจากนโยบายการปกป้องตลาดภายในในที่ประชุมเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรัม (ดับเบิลยูอีเอฟ) ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ เขาแถลงในที่ประชุมนักธุรกิจและผู้นำการเมืองในโอกาสเปิดประชุมประจำปีของดับเบิลยูอีเอฟเมื่อวานนี้
นายโมดี กล่าวว่า อินเดียจะมุ่งเน้นเรื่องการพัฒนาเศรษฐกิจแบบยั่งยืน ทั้งประสานความร่วมมือกับประเทศอื่นๆด้วย คาดว่าอินเดีย ประเทศที่มีประชากรมากที่สุดอันดับสองของโลก จะแซงหน้าอังกฤษและฝรั่งเศส ก้าวขึ้นมาเป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่อันดับ 5 ของโลกภายในปี 2568หรือมีขนาดเศรษฐกิจ 5 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นายโมดี เพิ่มเติมว่า ตัวเลขอัตราการเจริญเติบโต(จีดีพี) ของอินเดีย เติบโตกว่า 6 เท่าจากเดิมคือ 6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯในช่วงเวลา 20 ปีนับตั้งแต่ ผู้นำอินเดียขณะนั้นคือนายกรัฐมนตรีเทวะ เคาฑา แถลงเปิดเศรษฐกิจโลกในเมืองดาวอสครั้งหลังสุดคือเมื่อปี 2540
นายโมดี ชี้ว่า โลกยุคปัจจุบันนี้เผชิญกับปัญหาใหญ่ๆ 3 เรื่องคือ การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ ปัญหาก่อการร้ายและการปกป้องตลาดภายในประเทศ พร้อมทั้งเรียกร้องให้รัฐบาลทั่วโลกไม่หันไปใช้นโยบายโดดเดี่ยวตนเอง นายโมดีแสดงความเห็นเรื่องนี้ในโอกาสเปิดประชุมประจำปี 2561 ก่อนที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯ ซึ่งสนับสนุนนโยบายการปกป้องตลาดภายในของสหรัฐฯจะแถลงปิดประชุมในวันศุกร์นี้
ทีมต่างประเทศ
CR:Reuters
ตร.ส่งผู้ต้องหาคดีอาคารสตง.ฝากขัง ค้านประกันตัว
...
ทอ.ยืนยันความพร้อม ปกป้องน่านฟ้าไทย เหตุอากาศยานทหารเมียนมาเข้าใกล้เขตแดนไทย
...
สนค.ชี้อุตสาหกรรมยานยนต์ไทยเผชิญจุดเปลี่ยน แนะเร่งปรับตัวรับเทคโนโลยีใหม่
...
ข่าวทั้งหมด
