กลับมาที่การเสวนาเรื่องพลังงาน ที่สโมสรทหารบก หลังมีการถกเถียงประเด็นต่างๆเรื่องพลังงาน มาตั้งแต่ช่วงเช้า ในช่วงบ่าย มีการพูดคุยถึงเรื่องราคาพลังงานโดยเฉพาะราคาน้ำมันเบนซิน ซึ่งราคาส่งออกอยู่ที่ประมาณ18-19บาทต่อลิตร ถูกกว่าราคาขายในประเทศ ที่สูงถึง48-49บ.ต่อลิตร ซึ่งบริษัท ปตท. จำกัด มหาชน ชี้แจงว่า สาเหตุที่ราคาน้ำมันแพง เป็นเพราะ มีการจัดเก็บภาษีน้ำมัน และนำเงินเข้ากองทุนน้ำมันต่างๆ จากนั้นในที่ประชุมได้มีการเสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาพลังงาน อย่างหลากหลาย เช่น เสนอให้ภาครัฐนำท่อส่งก๊าซคืนกลับมาให้คนไทย และจัดตั้งบริษัทขึ้นดูแลโดยให้รัฐถือหุ้นทั้งหมด เสนอให้เรียกคืนบริษัทปตท.จำกัดมหาชนให้กลับมาเป็นของประชาชน ให้ประชาชนเป็นเจ้าของโรงกลั่นน้ำมัน สะสางข้อกฏหมายต่างๆที่ไม่ชัดเจนเพื่อให้เดินหน้าปฏิรูปพลังงานได้ยั่งยืน โดยระหว่างที่ดำเนินการปฏิรูป ควรให้ยุติการแปรรูปท่อก๊าซ และการยุติการให้สัมปทานรอบต่อไป จนกว่าจะมีการปฎิรูปเสร็จสิ้น รวมทั้งกระทรวงพลังงานควรประชาสัมพันธ์ให้ชัดเจนเพราะเชื่อว่ายังมีประชาชนอีกไม่น้อยไม่ทราบว่าประเทศไทยมีน้ำมันจำนวนมาก พร้อมทั้งผู้เข้าร่วมเสวนาได้เสนอให้จัดกิจกรรมในลักษณะนี้อีกครั้งในหัวข้อพลังงานทางเลือกทั้งนี้ ผู้บรรยายในส่วนของบริษัท ปตท. จำกัด มหาชน ได้ฝากถึงผู้ร่วมเสวนาและประชาชนทั้งประเทศ ว่า การปฏิรูปพลังงานจะเกิดขึ้นและเป็นประโยชน์ต่อประชาชนมากที่สุดได้ จะต้องยืดหลักข้อมูลที่ถูกต้อง ซึ่งหลังจบการเสวนา นายวีระ สมความคิด เปิดเผยว่า หลังถูกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)ควบคุมตัวเพื่อปรับความเข้าใจ มีเงื่อนไขที่คสช.สั่งการ คือห้ามรณรงค์ด้วยการเดินบนท้องถนน แต่สามารถจัดเสวนาให้ความรู้เรื่องพลังงานได้ตามปกติ ซึ่งทางเครือข่ายจะมีการพูดคุยกันและแจ้งให้คสช.ทราบก่อนจัดกิจกรรมแต่ละครั้ง อย่างไรก็ตามหลังการเสวนาเสร็จสิ้น จะมีการจัดร่วมเล่มข้อเสนอต่างๆเพื่อส่งต่อให้ คสช.เพื่อเดินหน้าการปฏิรูปต่อไป ทั้งนี้เครือข่ายปฎิรูปพลังงานจะส่งตัวแทนเป็นสมาชิกสภาปฎิรูปแห่งชาติ(สปช.) ด้วยจะได้รับการคัดเลือกหรือไม่ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสรรหา
บุศรินทร์