ความคืบหน้าคดีฟอกเงินจากการทุจริตอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทยให้กับกลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ที่มีนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นผู้ต้องหา นายชุมสาย ศรียาภัย ทนายความนายพานทองแท้ ชินวัตร ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ขอให้เข้ามากำกับดูแลการสอบสวนคดีนี้ เนื่องจาก พนักงานสอบสวนสั่งตัดพยานตามบัญชีที่นายพานทองแท้ยื่นไปกว่า 10 ปาก ขอให้สอบสวนเพิ่มเติมจำนวนหลายปาก จนกังวลว่าการตัดพยานสำคัญ จะส่งผลกระทบต่อการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหา โดยมีร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ เป็นผู้รับหนังสือ
นายชุมสาย กล่าวว่า พนักงานสอบสวนตัดพยานสำคัญและเป็นประโยชน์ต่อผู้ต้องหาในการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ทำให้มีความสงสัยจนน่าเชื่อว่า มีอำนาจพิเศษเข้ามาแทรกแซงสั่งการในการสอบสวน จนทำให้นายพานทองแท้ ได้รับความเสียหาย จากการใช้ดุลยพินิจโดยไม่ชอบ ยืนยันว่า นายพานทองแท้ยังอยู่ในประเทศไทย แต่มีข้อกังวลใจว่าอาจจะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะคดีนี้ควรจบไปตั้งแต่การตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ(คตส.)แล้ว ส่วนที่บอกว่ามีอำนาจสั่งการพิเศษ เป็นเพียงข้อสงสัยที่กังวลว่าจะเกิดการแทรกแซง
ด้าน ร.ต.อ.ปิยะ กล่าวว่า หลังรับหนังสือร้องเรียนจะสรุปเรื่องส่งให้คณะพนักงานสอบสวนที่มีอัยการร่วมสอบสวนได้พิจารณา แต่การจะอนุญาตให้สอบปากคำเพิ่มเติมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของคณะพนักงานสอบสวน
พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า เท่าที่ได้รับรายงานพนักงานสอบสวน ได้กำชับขอให้ฝ่ายผู้ต้องหา นำพยานที่ต้องการให้สอบเพิ่มมาให้ปากคำให้เสร็จภายในเดือนนี้ ยืนยันว่า ดีเอสไอพร้อมให้ความเป็นธรรมในการพิสูจน์ข้อเท็จจริง
ความคืบหน้าคดีฟอกเงินจากการทุจริตอนุมัติเงินกู้ของธนาคารกรุงไทยให้กับกลุ่มบริษัทกฤษดามหานคร ที่มีนายพานทองแท้ ชินวัตร บุตรชายนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เป็นผู้ต้องหา นายชุมสาย ศรียาภัย ทนายความนายพานทองแท้ ชินวัตร ยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรมต่อพ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ขอให้เข้ามากำกับดูแลการสอบสวนคดีนี้ เนื่องจาก พนักงานสอบสวนสั่งตัดพยานตามบัญชีที่นายพานทองแท้ยื่นไปกว่า 10 ปาก จนกังวลว่าการตัดพยานสำคัญ จะส่งผลกระทบต่อการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผู้ต้องหา ทำให้ให้มีความสงสัยจนน่าเชื่อว่า มีอำนาจพิเศษเข้ามาแทรกแซงสั่งการในการสอบสวน
ร.ต.อ.ปิยะ รักสกุล ผู้อำนวยการกองบริหารคดีพิเศษ กล่าวว่า จะสรุปเรื่องส่งให้คณะพนักงานสอบสวนที่มีอัยการร่วมสอบสวนได้พิจารณา แต่การจะอนุญาตให้สอบปากคำเพิ่มเติมหรือไม่ ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของคณะพนักงานสอบสวน พ.ต.อ.ไพสิฐ กล่าวว่า เท่าที่ได้รับรายงานพนักงานสอบสวน ได้กำชับขอให้ฝ่ายผู้ต้องหา นำพยานที่ต้องการให้สอบเพิ่มมาให้ปากคำให้เสร็จภายในเดือนนี้ ยืนยันว่า ดีเอสไอพร้อมให้ความเป็นธรรมในการพิสูจน์ข้อเท็จจริง
ด้านนายขจรศักดิ์ พุทธานุภาพ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน กล่าวว่า เป็นสิทธิของนายพานทองแท้ที่จะยื่นเรื่อง นายพานทองแท้ ได้ยื่นขอให้สอบพยานเพิ่มถึง 20 ปาก ซึ่งคดีใกล้ขาดอายุความ ก็พิจารณาให้สอบพยานเพิ่ม 8 ปากแล้ว และนายพานทองแท้ ก็ขอเลื่อนสอบพยานไปเป็นวันที่ 4 ก.พ.นี้ หลังจากสอบพยานเสร็จแล้วต้องรีบส่งสรุปสำนวนต่อไป หากต้องการให้มีการสอบพยานเพิ่มเติมก็สามารถเสนอในชั้นศาลได้ เราต้องให้เวลาพนักงานอัยการพิจารณาสำนวนโดยไม่ใกล้ขาดอายุความ ปล่อยให้ยืดเยื้อก็ไม่เสร็จ พยานหลักฐานในคดีนี้ก็เริ่มต้นมาจากเอกสาร ไม่ได้เอาใครมากลั่นแกล้ง ให้โอกาสให้ความเป็นธรรมแล้ว ต้องมาพิสูจน์เอง และสู้คดีต่อได้ในศาล
แฟ้มภาพ
CR:www.khaosodenglish.com.