วิปสนช.เร่งพิจารณาร่างพรป.สส.วาระ2และ3 บอกกลัวไม่ออกแนวโน้มแบบไหน

การเตรียมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรหรือ พ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. นาย เจตน์ ศิรธรานนท์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หรือ วิปสนช. เปิดเผยว่า  ในวันที่ 25 มกราคมนี้ จะมีการพิจารณาในวาระที่ 2 และ 3 ตั้งแต่เวลา 09.00น. โดยที่ประชุมสนช.จะนำมาตราที่คณะกรรมาธิการวิสามัญฯมีการแก้ไขจำนวน 30 มาตรามาพิจารณาก่อน โดยเฉพาะมาตรา 2 ที่คณะกรรมาธิการฯเสนอแก้ไขให้มีผลบังคับใช้ร่างพ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. เมื่อพ้นเวลา 90 วันนับแต่ที่มีการประกาศในราชกิจจานุเบกษา โดยขณะนี้การปรับเรื่องเงื่อนเวลาเป็นไปได้ 3 แนวทาง คือ ยืนตามร่างเดิม โดยให้มีผลบังคับใช้ทันทีหลังประกาศในราชกิจจานุเบกษาตามที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเสนอมา แนวทางที่สอง คือ ให้มีผลบังคับใช้หลัง 90 วัน ตามที่คณะกรรมาธิการฯเสนอ และแนวทางสุดท้าย คือ ให้มีผลบังคับใช้หลัง 120 วัน ตามที่มีคณะกรรมาธิการฯสงวนญัตติไว้ ทั้งนี้ยังไม่ทราบว่าแนวโน้มจะออกไปในทางใด

โดยหลังการอภิปรายเสร็จในแต่ละมาตรา ที่ประชุมสนช.จะให้มีการลงมติในแต่ละมาตราทันที คาดว่าการประชุมจะใช้เวลานาน แต่อย่างไรก็ดีในวันที่ 25 มกราคม จะต้องได้ข้อสรุปทั้งในส่วนม.2 และในเนื้อหาของร่างพ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ทั้งหมด  เบื้องต้น ยังไม่ได้มีการพูดคุยอะไรกับนาย พรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช. เป็นพิเศษถึงวาระในร่างพ.ร.ป. ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.นี้ มีแค่การกำชับว่าให้นัดสมาชิกสนช.มาให้ครบองค์ประชุม เพราะเป็นการประชุมนัดสำคัญ

สำหรับในวันศุกร์ที่ 26 มกราคม ที่ประชุมสนช.จะพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา หรือ ร่างพ.ร.ป.สว. ซึ่งร่างพ.ร.ป.ทั้งสองฉบับมีผลผูกพันต่อการใช้เป็นกฎหมายเพื่อให้มีการจัดการเลือกตั้งตามโรดแม็ปของรัฐบาลที่อาจเลื่อนไปถึงต้นปี 2562

ส่วนกรณีที่พรรคการเมืองเสนอให้ยกเลิกระบบไพรมารีโหวต นายเจตน์ .มองว่าเป็นการขัดต่อเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ ขระที่พรรคการเมืองเอง ยังไม่สามารถดำเนินการได้ เพราะยังไม่มีการยกเลิกคำสั่งคสช.ที่ 57/2557 และคำสั่งคสช.ที่ 3/2558 แม้ว่าเดือนมีนาคมและเมษายนนี้ พรรคการเมืองใหม่และพรรคการเมืองเก่าจะเริ่มทำกิจกรรมพรรคได้บางอย่างดังนั้น อาจทำให้กระบวนการเตรียมความพร้อมการเลือกตั้งอาจมีปัญหา และเป็นอีกเหตุผลที่ต้องมีการเลื่อนบังคับใช้ร่างพ.ร.ป ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. ออกไป