หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี การมีนาฬิกาหรูของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอให้รอทางคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)เป็นผู้ชี้แจง ซึ่งจะต้องแยกแยะว่ากรณีนี้คือเรื่องส่วนตัวของพล.อ.ประวิตร โดยจะต้องมีกระบวนการสอบสวนต่างๆ หลายขั้นตอนที่ต้องรอผลสรุปให้ได้ก่อน
นายกรัฐมนตรี ยังอยากให้ทำความเข้าใจ กรณีที่มีหลายฝ่ายเสนอให้ใช้มาตรา 44 เพื่อแก้ไขปัญหาสั่งลงโทษผู้กระทำผิดว่า การทำเพราะมีหน่วยงานเสนอขึ้นมา หลังทำการสอบสวนแล้วเห็นว่า ควรใช้ ม.44 ไม่ใช่ว่างจะใช้กฎหมายนี้กับใครก็ได้ เพราะต้องระวังตัวเอง ฉะนั้นแล้วในกรณีของพล.อ.ประวิตรก็เช่นเดียวกันจะต้องรอขั้นตอนสอบสวนของ ป.ป.ช.ก่อน โดยขออย่านำทุกเรื่องมาพันกัน พร้อมย้ำว่าเรื่องดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนตัวที่มีกฎหมายจัดการอยู่แล้ว ไม่ใช่การใช้งบประมาณแผ่นดินในการทำประเทศเสียหาย ซึ่งเป็นคนละเรื่องกัน ส่วนกรณีที่ข่าวนาฬิกาของพล.อ.ประวิตร ที่มีกระแสไปถึงต่างประเทศ นายกรัฐมนตรีระบุว่าขอชี้แจงกับคนในประเทศก่อนเพราะเรื่องต่างๆที่ออกมาล้วนเกิดจากคนภายในประเทศทั้งนั้น นายกรัฐมนตรี ยืนยันว่า ตนเองไม่ได้ออกตัวป้องพล.อ.ประวิตร พร้อมย้ำว่าเป็นเรื่องกระบวนการตรวจสอบของป.ป.ช ซึ่งตนเองมีหน้าที่เพียงการทำความเข้าใจเท่านั้น หากพบความผิดจริง เชื่อว่าพล.อ.ประวิตรจะรับผิดและพร้อมจะลาออกอยู่แล้ว
ส่วนข้อเสนอของ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่มีแนวคิดให้ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.)ปลดล็อกพรรคการเมือง แทนการขยายเวลาบังคับใช้กฎหมายเลือกตั้ง ส.ส. เพื่อให้พรรคการเมือง มีเวลาเตรียมพร้อมสำหรับการเลือกตั้งมากขึ้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เป็นเรื่องของกกต. แต่ตนเองมองการอออกมาเคลื่อนไหวของนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กรรมการการเลือกตั้ง ควรไปจัดงานแต่งงานดีกว่า ส่วนตัวมีความยินดีด้วย โดยเจ้าตัวระบุว่าไม่ได้เชิญร่วมงานแต่งด้วย ทั้งนี้ตนเองก็ยังไม่รู้ว่าหากมีการเชิญจะสามารถไปร่วมงานแต่งได้หรือไม่ ถือเป็นเรื่องความสุขของนายสมชัยเอง