น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการ สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า เปิดเผยว่า การส่งออกไทยในปี 2560 มีมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ถึง 236,694 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวร้อยละ 9.9 สูงสุดในรอบ 6 ปี เนื่องจากเศรษฐกิจและกำลังซื้อประเทศคู่ค้าขยายตัวดีขึ้น ทำให้มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรและอุตสาหกรรมเกษตรของไทยขยายตัวดีขึ้นและมีมูลค่าสูง และคาดว่าการส่งออกในปี 2561 จะขยายตัวร้อยละ 5-7 คิดเป็นมูลค่า 248,529-253,263 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เฉลี่ยส่งออกรายเดือน 20,712-21,105 ล้านดอลลาร์สหรัฐ บนสมมุติฐานคาดว่าเศรษฐกิจจะขยายตัวร้อยละ 4 ค่าเงินบาท 32-34 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่แนวโน้มราคาน้ำมันจะสูงขึ้นมาอยู่ที่ 55-65 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล
และในวันที่ 19-21 กุมภาพันธ์นี้จะมีการประชุมทูตพาณิชย์จากทั่วโลก ซึ่งนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์จะกำหนดเป้าหมายการส่งออกปีนี้ที่ชัดเจนอีกครั้ง
นายสมชาย หาญหิรัญ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่าคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) เห็นชอบให้ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (เอสเอ็มอีแบงก์) ออกจากแผนฟื้นฟู และเตรียมแผนช่วยเหลือและพัฒนาผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) 4.0 ในปี 2561 โดยร่วมมือกับหลายหน่วยงานช่วยเหลือเอสเอ็มอีผ่านสินเชื่อใหม่ 3 โครงการ
นายมงคล ลีลาธรรม กรรมการผู้จัดการ เอสเอ็มอีแบงก์ เปิดเผยว่าหลังจากที่ออกจากแผนฟื้นฟูฯ แล้วธนาคารจะเน้นการปล่อยสินเชื่อวงเงินสูงสุดไม่เกิน 15 ล้านบาท และปรับองค์กรให้เป็น“M SME Development Bank” โดยตัว “M” มาจากคำว่า “Micro” เพื่อสนับสนุนกลุ่ม “จุลเอสเอ็มอี” หรือผู้ประกอบการรายย่อยคนตัวเล็กในชุมชน เน้นไปที่รายย่อยไม่เกิน 1 ล้านบาทต่อรายมากขึ้น
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย นำเสนอรายงานที่ระบุว่าปี 2561 สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพี มีโอกาสขยับลงมาอยู่ที่กรอบประมาณร้อยละ 77-78 ขณะที่สินเชื่อรายย่อยหลายประเภทที่มีสัญญาณขยายตัวได้ดีในช่วงไตรมาส 4 ของปีก่อนอาจช่วยสนับสนุนให้ยอดคงค้างของเงินให้กู้ยืมแก่ภาคครัวเรือน (หนี้ครัวเรือน) ขยายตัวต่อเนื่องติดต่อกัน 2 ไตรมาส โดยประเมินว่า สัดส่วนหนี้ครัวเรือนต่อจีดีพี ณ สิ้นปี 2560 มีโอกาสทรงตัว หรือขยับขึ้นเล็กน้อย มาอยู่ที่กรอบประมาณร้อยละ 78.3-78.5 จากระดับร้อยละ 78.3 ต่อจีดีพีในไตรมาสที่ 3 ปี 2560
ศาลอาญาถนนรัชดาภิเษกในวันนี้ ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีระเบิด กทม. ที่อัยการยื่นฟ้องนายวัฒนา ภุมเรศ อายุ 63 ปี อดีตวิศวกรไฟฟ้า กฟผ. สำนวนที่6 ที่นำระเบิดแสวงเครื่องซึ่งประกอบเอง ไปวางไว้ในตู้โทรศัพท์สาธารณะ หน้ากองบัญชาการกองทัพบก ถ.ราชดำเนินนอก เมื่อปี 2550 ทำให้ ด.ต.จิระเดช อรรถพงษ์ ข้อมือขาด ช่วงอกมีรอยฉีกขาด และแก้วหูขวาฉีกขาด ส่วน ส.ต.ท.วิชา ธรสุนทร แก้วหูฉีกขาด ได้รับบาดเจ็บสาหัส
ครอบครัวของนักเรียนเตรียมทหาร ภคพงศ์ ตัญกาญจน์ เข้าพบ พล.อ.อ.ชวรัตน์ มารุ่งเรือง รองเสนาธิการทหาร ในฐานะประธานกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงการเสียชีวิต เพื่อฟังผลการสอบสวนของคณะกรรมการฯ ที่กองบัญชาการกองทัพไทย ถ.แจ้งวัฒนะ
โดยเมื่อวานนี้ พล.อ.อ.ชวรัตน์ ยืนยันว่า จะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด และชี้แจงข้อสงสัยทั้งหมด ด้วยหลักฐานที่มีอยู่ แต่ไม่สามารถมอบหลักฐานให้ครอบครัวผู้เสียชีวิตได้ เพราะเป็นเอกสารทางราชการและเป็นการสอบสวนภายในของกองทัพไทย ส่วนการดำเนินการของเจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ในระหว่างการเรียกตัวผู้ที่อยู่ในเหตุการณ์ไปสอบสวน
เมื่อวานนี้ พล.ต.อ.ธนิตศักดิ์ ธีระสวัสดิ์ ที่ปรึกษาพิเศษ ประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ผู้แทนสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) ประชุมติดตามความคืบหน้าการสืบสวนจับกุมการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์ หรือแก๊ง คอลเซ็นเตอร์ และเปิดเผยว่า ศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ (ศป.ฉปทน.ตร.) ออกหมายจับผู้ต้องหา 375 หมาย และจับกุมผู้ต้องหารวมทั้งสิ้น 202 ราย ขณะที่การรับแจ้งตั้งแต่วันที่ 8 ธันวาคม 2560-20 มกราคม 2561 มีจำนวน 187 ราย มูลค่าความเสียหาย 96,039,468 บาท ถือว่าเป็นการปฏิบัติงานที่น่าพอใจ และพบว่า มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ประมาณ 8 กลุ่ม ทั้งคนไทยและชาวต่างชาติ หรือที่ใช้ฐานปฏิบัติการในต่างประเทศหรือในประเทศ จึงขอเรียนให้ประชาชนทราบว่า เมื่อรู้ตัวว่าถูกหลอกให้รีบโทรแจ้งสายด่วน 1155 และ 1710 ทันที เพื่ออายัดเงินในบัญชีในทันที
ส่วนที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช ประธานสมาพันธ์ต่อต้านแชร์ลูกโซ่แห่งประเทศไทย จะพาตัวแทนผู้เสียหายจากแชร์ยาขาว ซึ่งเป็นแชร์ลูกโซ่ที่แฝงมาในรูปแบบขายตรง จำนวน 100 คน จาก 3,000 คน เข้าร้องทุกข์ต่ออธิบดีดีเอสไอ และมีข้อมูลผู้เสียหายแชร์ยาขาวเพิ่มเติมมามอบให้ดีเอสไอ
ที่กองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุราษฎร์ธานี ทนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พร้อมนางวรรณี จิตรรัตน์ มารดานายจักรกฤษณ์ โชติศันสนียพงศ์ ผู้เสียชีวิตจะเข้ายื่นหนังสือต่อ พล.ต.ต.อภิชาติ บุญศรีโรจน์ ผบก.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี เพื่อขอรับการคุ้มครองเนื่องจากถูกคุกคามข่มขู่และขอให้เปลี่ยนตัวพนักงานสอบสวนในคดีนี้รวมทั้งขอให้ลงพื้นที่สืบสวนข้อเท็จจริงเพิ่มเติม จากนั้นในช่วงบ่ายจะไปที่ สภ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อเข้าแจ้งความกรณีถูกอิทธิพลมืดข่มขู่คุกคาม
ส่วนที่ปราจีนบุรี ครอบครัวของนายราชศักดิ์ เจริญรุ่งเรือง ซึ่งถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวนภูธรจังหวัดปราจีนบุรี จับกุมพร้อมกับนางศิริวรรณ แสวงกุล โดยกล่าวหาว่าทั้ง 2 คนครอบครองยาบ้าจำนวน 716 เม็ดจะเข้าร้องเรียนต่อผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดปราจีนบุรี เพื่อขอให้ย้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมออกนอกพื้นที่เนื่องจากเกรงว่าจะไม่ได้รับความปลอดภัย หลังจากถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมยัดยาเสพติด และซ้อมทรมานให้รับสารภาพ ทั้งรูดทรัพย์อีกหลายแสนบาท ภายในกองกำกับการสืบสวน ภูธรจังหวัดปราจีนบุรี และในวันพรุ่งนี้จะไปร้องเรียนขอความเป็นธรรมต่อผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค2 จ.ชลบุรี
ส่วนที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติวันนี้ พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งขาติ (รอง ผบ.ตร./โฆษก ตร.) แถลงข่าวเนื่องการเอาชื่อนายเฉลิมพล อยู่ดี ออกจากทะเบียนประวัติอาชญากร
ส่วนที่กรุงเทพมหานครวันนี้ ผู้ค้าตลาดนัดจตุจักรและสมาชิกสหกรณ์ ประมาณ 500 คน รวมตัวกันหน้าลานคนเมือง เพื่อขอให้กรุงเทพมหานครเข้ามาดำเนินการบริหารตลาดนัดจตุจักรเพื่อช่วยเหลือประชาชน
...