สรุปข่าว 19.35 น.
+++ พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. มีมติเสียงข้างมากให้แก้ไขมาตรา 2 กำหนดให้ร่างกฎหมายฉบับนี้มีผลบังคับใช้ 90 วัน จนทำให้รัฐบาลและ คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) ถูกมองว่าไม่รักษาสัญญาที่เคยระบุว่าจะให้มีการเลือกตั้งในปี 2561 ว่า เรื่องนี้เป็นดุลยพินิจของกรรมาธิการวิสามัญและสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ซึ่งรัฐบาลและคสช.ไม่เกี่ยวข้องกับการพิจารณาในเรื่องนี้ ดังนั้นหาก กมธ.และสนช.จะมีการตกลงในเรื่องใดก็คิดว่าคงจะมีเหตุผลในเรื่องนี้ให้สังคมได้เข้าใจ ซึ่งตนไม่กล้าออกความเห็น ส่วนระยะเวลาที่เลื่อนออกไป 90 วันนั้น ก็ไม่ได้เป็นนัยยะที่จะบ่งบอกว่าจะอยู่ยาวแต่อย่างใด ส่วนที่มีการวิจารณ์ว่า การขยายเวลาดังกล่าวเพื่อเอื้อต่อการตั้งพรรคทหาร พล.ท.สรรเสริญ กล่าวเพียงสั้นๆ ว่า “พรรคทหารมีที่ไหน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคสช. ก็เคยชี้แจงไปแล้ว”.
+++นายอุดม รัฐอมฤต โฆษกกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) เชื่อว่า หากขยายกรอบเวลาการบังคับใช้ร่างกฏหมายก็จะกระทบต่อโรปแมปการเลือกตั้ง จากเดิมที่นายกรัฐมนตรีประกาศว่าจะมีการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน 2561 ส่วนการเลือกตั้งจะขยับไปที่ปลายปี 2561 หรือต้นปี 2562 นั้นก็พอจะคาดการณ์ได้ แต่สิ่งที่สังคมต้องการจะรับทราบก็คือจะมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นอย่างแน่นอนหรือไม่ อย่างไรก็ตาม หากมองในแง่ดีของการขยายเวลาบังคับใช้กฎหมาย จะทำให้พรรคการเมืองมีเวลาเตรียมการได้มากขึ้น ส่วนการตั้งข้อสงสัยว่าการขยายเวลานั้นมีสาเหตุจากการตั้งพรรคทหารยังไม่เสร็จเรียบร้อยนั้น นายอุดม มองว่า ผู้ที่จะตัดสินใจไม่ใช่พรรคทหารแต่อยู่ที่ประชาชนเป็นคนเลือก และเชื่อว่าไม่กระทบความน่าเชื่อถือของนายกรัฐมนตรี เพราะความน่าเชื่อถือของนายกรัฐมนตรีขึ้นอยู่กับผลงานการทำงาน หากมีผลงานเป็นที่ยอมรับเชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจ.
+++นายพิชาย รัตนดิลก ณ ภูเก็ต คณบดีคณะพัฒนาสังคมและสิ่งแวดล้อม สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ กล่าวในการสัมนาสาธารณะ เรื่อง “เหลียวหน้าแลหลังสถานการณ์การเมืองไทย” ว่า การปฏิรูปประเทศ 3 ปีที่ผ่านมา สิ่งที่เห็นเป็นการเพิ่มอำนาจให้ภาครัฐ หน่วยราชการด้วยการแก้กฎหมาย และเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มทุนเป็นหลัก ส่วนประชาชนให้ประโยชน์น้อย จึงเป็นสถานการณ์ข้าราชการผยอง นายทุนเริงร่า ประชาหดหู่ ถ้ายังเป็นอย่างนี้ความชอบธรรมของรัฐบาลจะลดลงเรื่อยๆ และมองว่าหากมีการจัดตั้งพรรคทหารก็จะไม่มีที่ยืน เพราะถูกจัดตั้งขึ้นมาภายใต้ตรรกะเก่าแก่ตั้งแต่สมัย จอมพล ป.พิบูลสงคราม
+++นายบรรเจิด สิงคะเนติ กล่าวว่า 10 ปี มีการรัฐประหาร 2 ครั้ง ต้องถามว่าลากรถถังออกมา 2 ครั้งสูญเปล่าหรือไม่ เรากำลังจะย้อนกลับมาสู่จุดเดิมหรือไม่ ซึ่งขึ้นอยู่กับ 3 เรื่องคือ การปฏิรูป การเล่นพรรคเล่นพวก หรือเลือกปฏิบัติ และความไม่วางใจเรื่องการทุจริต โดยการปฏิรูปทั้ง 11ด้าน เชื่อว่าจะสำเร็จได้ยากเพราะประชาชนไม่ได้อยู่ในกระบวนการปฏิรูป ทำให้สถานการณ์ก่อนการเลือกตั้ง เหตุการณ์ต่างๆ จะกลับมาซ้ำรอยเดิม โดยเฉพาะวิกฤติศรัทธาขององค์กรอิสระที่มีหน้าที่ในการตรวจสอบ โดยเฉพาะประเด็นนาฬิกาหรู
+++ด้านนายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต. กล่าวว่า หากท้ายที่สุด สนช.แก้ไขตามที่กรรมาธิการฯ เสนอให้ขยายระยะเวลาการบังคับใช้กฎหมายลูกว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ออกไป 90 วัน หลังจากประกาศในราชกิจจานุเบกษาว่า 90 บวก 150 วัน คือ 8 เดือน ซึ่งหากกฎหมายลงมาในเดือนมี.ค. การเลือกตั้งก็จะเกิดขึ้นอีกในเดือนพ.ย.ปีนี้ เว้นแต่จะประกาศใช้กฎหมายช้ามาก อย่าประมาทนักการเมืองประเทศไทยมากเกินไป แม้ว่าวันนี้มีการทาบทามพรรคการเมืองต่างๆ และได้รับปากแล้ว แต่เมื่อผลการเลือกตั้งออกมาอย่างไม่เป็นทางการ วันนั้นคนที่เคยรับปากเอาไว้ก็จะต่อสายเพื่อตั้งรัฐบาลกับฝ่ายอื่น หากฝ่ายนั้นมีโอกาสได้เป็นรัฐบาล เพราะการเมืองไทยไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร ขอแนะนำไปยังนายกรัฐมนตรี ว่า อย่าทำตัวให้กลายเป็นเป้าในเรื่องการถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีในรอบแรก ที่พรรคการเมืองจะมีสิทธิเสนอชื่อว่าใครเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะชื่อจะถูกนำไปใช้ในการหาเสียง และเป็นชื่อที่กลายเป็นประเด็นถูกโจมตี จะกลายเป็นคู่ขัดแย้งในสังคม
++++นายจักกพันธ์ ผิวงาม รองผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร กล่าวว่า ป้อมมหากาฬ ถือเป็น 1ใน2ป้อม ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ในพื้นที่กรุงเทพฯ เป็นโบราณสถานที่สำคัญ ต้องมีการอนุรักษ์ดูแลอย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ป้อมมหากาฬในขณะนี้ มีสภาพชำรุดทรุดโทรม โดยตัวป้อมเกิดความทรุดตัว และลาดเอียงอย่างมาก เนื่องจากขาดการบูรณะอย่างถูกต้องมายาวนาน กทม.จึงได้ ร่วมกับกรมศิลปากร เพื่อตรวจสอบความเสียหายของตัวป้อม และวางแผนการบูรณะอย่างเหมาะสม และได้จัดสรรงบประมาณ เพื่อการบูรณะป้อมจำนวนรวม 69ล้านบาท โดยขณะนี้ ได้จัดทำร่างประกวดราคาแล้ว จะเข้าสู่กระบวนการอีบิดดิ้ง เพื่อหาผู้รับจ้างเริ่มดำเนินการได้ในปลายเดือนก.พ.นี้ใช้เวลา 3 ปี ส่วนการพัฒนาพื้นที่ภายในป้อมมหากาฬนั้น ขณะนี้เกิดพื้นที่ว่างเปล่าประมาณ 1ใน3 ของพื้นที่ทั้งหมด ซึ่งกทม.ได้ ปรับภูมิทัศน์เพื่อพัฒนาเป็นสวนหย่อมให้ประชาชนใช้พักผ่อนหย่อนใจ ส่วนพื้นที่ที่ยังคงมีบ้านเรือนปลูกสร้างอยู่นั้น กทม.ก็ดำเนินการตามแนวนโยบายของผู้ว่าฯกทม. ในการรื้อย้าย และอนุรักษ์บ้านบางส่วน ซึ่งตามเป้าหมายของผู้ว่าฯกทม.นั้น จะดำเนินการให้เสร็จสิ้นในเดือนเม.ย.2561นี้
+++กรณีดาราสาวชื่อดัง "เมย์" พิชญ์นาฏ โพสต์อินสตาแกรมประกาศเลิกราแฟนหนุ่มนักฟุตบอลทีมชาติไทย "เมสซีเจ" ชนาธิป สรงกระสินธ์ ล่าสุด เมย์ เปิดเผยด้วยน้ำคาคลอว่า ไม่อยากให้ใครว่าใคร พ่อแม่ทุกคนรักลูก เรื่องของการแต่งงาน เจ เคยพูดว่า จะแต่งในปีนี้ หลังบวช แต่ไม่มีความคืบหน้า พูดคุยกัน เมย์ เลยไปถามกันคืออะไร คำตอบคือที่เล่าไปแล้ว เชื่อว่าทุกคนมีเหตุผล อยากให้เข้าใจว่า ทุกคน โปรยเอาไว้แล้วก็หายไป ทั้งที่คำตอบคือ เค้าไม่เอาเรา คนก็จะมาถามจะแต่งงานใช่มั้ย เมย์ไม่มีความสุข การให้สัมภาษณ์ครั้งนี้ จะเป็นครั้งสุดท้ายที่จะพูดถึงเรื่องนี้ เมย์ กล่าวว่า ขณะนี้ เริ่มมีความรู้สึกดีขึ้นบ้าง สำหรับ เจ ไม่ได้ทะเลาะกัน การคบกันมา 2-3 ปี ถ้าย้อนเวลาได้ ก็จะคบกันเช่นเดิม แม้ว่าวันนี้จะไปไม่ถึงวันที่ตั้งใจไว้ เมย์ทำดีที่สุดแล้ว เจทำดีที่สุดแล้ว เค้ามีภาระหน้าที่ กตัญญูต่อพ่อแม่ต่อไปเช่นกัน หากการแต่งงานทำให้พ่อแม่ไม่สบายใจ เราก็จะรักกันในรูปแบบต่อไป เพื่อนกัน –พี่น้อง เมย์ เชื่อว่า พ่อแม่ของเจ น่าจะรักตนเช่น ในระยะเวลาที่คบกัน ขออย่าให้ผู้อื่น เสนอเรื่องที่ทำให้ขัดแย้งกัน และยังคงให้กำลัง เจ ที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น
+++ตำรวจและเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเกาหลีใต้ว่ามีคนเสียชีวิต 5 ศพและผู้บาดเจ็บอีก 4 คนถูกนำตัวส่งยังโรงพยาบาลในย่านใกล้เคียง หลังเกิดเหตุจุดไฟเผาโรงแรมเล็กๆขนาด 2 ชั้นแห่งหนึ่งในเขตชงโน กรุงโซลเมื่อเวลา 09.00 น.ตามเวลาท้องถิ่นของวันนี้ เพิ่มเติมว่า 5 คนเสียชีวิตในโรงแรม ส่วนในกลุ่มผู้บาดเจ็บ มี 2 คนอาการสาหัส ในตอนแรกตำรวจได้รับแจ้งเหตุจากชายวัย 53 ปีคนหนึ่งซึ่งอ้างว่าเขาจะลงมือจุดไฟเผาตัวเอง ชายคนดังกล่าวเมาสุราขณะถูกจับกุม ไม่พอใจที่ผู้จัดการโรงแรมไม่อนุญาตให้เขาเข้าพักในโรงแรมเนื่องจากมีอาการเมาหนักมาก