ในขณะที่มีแนวโน้มว่า สหรัฐฯ อาจจะต้องปิดหน่วยงานรัฐบาลเป็นการชั่วคราว เนื่องจากสมาชิกวุฒิสภาพรรคเดโมแครตและพรรครีพับลิกันยังไม่สามารถผ่านความเห็นชอบร่างกฎหมายงบประมาณระยะสั้นได้ในเวลาเที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่น หรือเวลาประมาณ 12.00 น.วันนี้ตามเวลาประเทศไทย ซึ่งจะเป็นวันครบรอบการดำรงตำแหน่ง 1 ปี ของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์
อย่างไรก็ตาม นายมิค มัลวานีย์ ผอ.สำนักงานการจัดการและงบประมาณทำเนียบขาวสหรัฐฯ แถลงความพร้อมในการปิดหน่วยงานรัฐบาลเป็นการชั่วคราวแล้ว ขณะที่สำนักงานจัดอันดับฟิตช์ระบุว่า การปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ จะไม่มีผลกระทบต่อการจัดอันดับหนี้สินของสหรัฐฯ ทันที ซึ่งปัจจุบันอยู่ในระดับที่มีเสถียรภาพ “ทริพเปิล เอ” โดยนัยสำคัญของความน่าเชื่อถือจะขึ้นอยู่กับว่า การกำหนดนโยบายงบประมาณของสหรัฐฯ จะมีเสถียรภาพหรือไม่
บรรยากาศการซื้อขายในตลาดทุนและตลาดเงินทั่วไปในสหรัฐฯ ยังค่อนข้างทรงตัว แม้ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐต่อเงินยูโรจะอ่อนค่าในช่วงไม่กี่สัปดาห์ แต่นายจิม แม็ททิส รมว.กลาโหมสหรัฐฯ ก็เห็นว่า การปิดหน่วยงานรัฐบาลจะส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติการด้านการทหาร ทั้งการฝึกฝน การบำรุงกำลัง และการปฏิบัติงานด้านข่าวกรองทั่วโลก โดยกองกำลังพลเรือนอาจจะต้องหยุดพักงาน แต่การทำสงครามในอัฟกานิสถานจะยังเดินหน้า รวมถึงการปราบปรามกลุ่มมุสลิมนิยมแนวทางรุนแรงทั้งในซีเรียและอิรัก อย่างไรก็ดี นายแม็ททิสจะยังเดินทางไปเยือนอินโดนีเซียและเวียดนามตามกำหนดเดิมในสุปสัปดาห์นี้ เนื่องจากความจำเป็นด้านความมั่นคงและการรักษาความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
ส่วนประธานาธิบดีทรัมป์ก็จะยังเดินทางไปร่วมประชุมเศรษฐกิจโลก “เวิร์ลด์ อิโคโนมิค ฟอรั่ม” ที่เมืองดาวอส สวิตเซอร์แลนด์ ตามกำหนดเดิมระหว่างวันที่ 23-26 ม.ค. เพื่อหารือประเด็นสำคัญของโลก ตรงข้ามกับสมัยของประธานาธิบดีบารัค โอบามาที่ต้องยกเลิกแผนการเดินทางเยือนเอเชีย
ล่าสุด หลังครบกำหนดเวลาของการประชุม มีรายงานว่า สหรัฐฯ เริ่มปิดหน่วยงานบางส่วนแล้วหลังวุฒิสภาสหรัฐฯไม่ผ่านร่างกฎหมายฉบับบี้ หน่วยงานราชการสหรัฐฯ ทยอยปิดทำการบางส่วนแล้วอย่างเป็นทางการ หลังจากวุฒิสภาสหรัฐฯ ไม่สามารถอนุมัติงบประมาณประจำปี 2561 ได้ในนาทีสุดท้าย โดยสมาชิกวุฒิสภา ลงมติเห็นชอบผ่านร่างกฎหมายงบประมาณเพียง 50 เสียง ขาด 10 เสียง จากสมาชิกวุฒิสภาทั้งหมด 100 เสียง โดยสมาชิกวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครตส่วนใหญ่คัดค้าน เพราะต้องการให้ร่างกฎหมายดังกล่าวครอบคลุมการคุ้มครองผู้อพยพราว 700,000 คน ทั้งนี้ โดยทางเทคนิค รัฐบาลสหรัฐฯ จะไม่สามารถใช้จ่ายงบประมาณได้ตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนตามเวลาท้องถิ่นเป็นต้นมา ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 1 ปีการดำรงตำแหน่งของประธานาธิบดีทรัมป์
ด้านทำเนียบขาวออกถ้อยแถลงโจมตีพรรคเดโมแครตว่าเป็นสาเหตุวิกฤตการณ์ครั้งนี้ทันที โดยระบุว่า เห็นการเมืองอยู่เหนือความมั่นคงแห่งชาติ ครอบครัวทหาร และเด็ก คณะผู้บริหารสหรัฐฯ จะหารือประเด็นการปฏิรูปกฎหมายเกี่ยวกับผู้อพยพได้จนกว่ารัฐบาลจะสามารถทำงานได้อีกครั้ง
ทั้งนี้ หลังจากวุฒิสภาไม่สามารถอนุมัติงบประมาณได้ทันจะส่งผลให้หน่วยงานราชการของสหรัฐฯ ต้องทยอยปิดทำการ และจะเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่สหรัฐฯ เผชิญสภาวะดังกล่าวเมื่อปี 2556 อย่างไรก็ดี ทหารและเจ้าหน้าที่จำนวนกว่า 1 ล้าน 3 แสนคน ซึ่งรับผิดชอบภารกิจด้านความมั่นคงแห่งชาติจะยังทำงานตามปกติ แต่จะยังไม่ได้รับการจ่ายเงินเดือนจนกว่ารัฐบาลจะสามารถแก้ไขปัญหาได้ และถึงแม้ในอดีตภาวะดังกล่าวจะส่งผลกระทบสร้างความเสียหายต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เพียงเล็กน้อย แต่ก็ไม่เป็นผลดีต่อตลาดการเงิน
ทีมต่างประเทศ
CR:www.themalaymailonline.com.