ตั้งกรรมการสอบบุคคลตามอักษรย่อวิคตอเรียซีเคร็ท/รัฐบาล หารือแผนฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจ/เหตุรถพุ่งชนคนบนทางเดินริมหาดโคปาคาบานา

+++ความคืบหน้าการดำเนินคดีกับสถานประกอบการอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเคร็ท พล.ต.ต.ธีระพงษ์ วงษ์รัฐพิทักษ์ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 4 (ผบก.น.4) กล่าวว่า พนักงานสอบสวน อยู่ระหว่างรวบรวมประมวลข้อมูลเกี่ยวกับข้อกฎหมายและข้อพิจารณาต่างๆ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ก่อนที่จะส่งให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาคาดว่าน่าจะใช้เวลา 1-2 วัน จึงแล้วเสร็จ หลังจากนั้นตามขั้นตอน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ก็จะส่งสำนวนดังกล่าวให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) รับไปดำเนินการเป็นคดีพิเศษ ส่วนพนักงานสอบสวนท้องที่ มีหน้าที่ดำเนินการในส่วนของคดีอาญาทั่วไป

+++พ.ท.กรทิพย์ ดาโรจน์ รักษาราชการแทน เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.)  เปิดเผยถึงกรณีพบบัญชีส่วยของสถานประกอบการวิคตอเรียซีเคร็ทว่า ศอตช. มีหนังสือถึงสำนักงานตำรวจแห่งชาติ  ให้ตั้งกรรมการสอบวินัย อักษรย่อที่พบในบัญชีส่วยวิคตอเรียซีเคร็ท ให้ได้ความคืบหน้า และให้รายงานกลับมาให้ศอตช.รับทราบ  ขณะนี้เรื่องการสอบสวนเพื่อยืนยันตัวบุคคลตามบัญชีส่วยที่ตรวจพบในสถานบริการ เริ่มต้นอย่างเป็นทางการแล้ว เพราะอยู่ในสำนวนพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง และกรมสอบสวนคดีพิเศษ แต่ในทางคดีบรรดาตัวอักษรย่อต่างๆ เป็นเพียงข้อมูลจากการสันนิษฐานคาดเดากันด้วยความรู้สึก ไม่เพียงพอที่จะดำเนินการทางกฎหมาย พ.ท.กรทิพย์  กล่าวว่า จึงต้องสืบสวนไปยังพยานแวดล้อมต่างๆ เพื่อพิสูจน์ตัวตนของอักษรย่อต่างๆ เทียบเคียงได้กับกรณีส่วย อาบอบนวดนาตารี ซึ่งป.ป.ท.ต้องใช้เวลาในการสืบสวนเพื่อระบุตัวบุคคลตามบัญชีส่วย ซึ่งระบุไว้เพียงชื่อเล่น โดยล่าสุดได้ตั้งอนุกรรมการไต่สวนไปแล้ว

+++ในวันนี้ป.ป.ท.จะลงพื้นที่ สอบปากคำหญิงสาวที่ให้บริการในสถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรียซีเคร็ท เพื่อหาความเชื่อมโยงกับเจ้าหน้าที่รัฐที่มาใช้บริการ ที่บ้านพักเด็กและครอบครัวกรุงเทพมหานคร เขตราชเทวี

+++สำนักตรวจสอบทรัพย์สินภาคการเมือง สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินและเอกสารประกอบของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ของรัฐมนตรีในรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยแบ่งเป็นกรณีพ้นจากตำแหน่งเมื่อวันที่ 23 พ.ย. 2560 จำนวน 16 ราย , กรณีเข้ารับตำแหน่งเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 2560 จำนวน 18 ราย , กรณีพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2560 จำนวน 2 ราย , กรณีพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. 2560 จำนวน 4 ราย นอกจากนั้นยังการเปิดเผยบัญชีแสดงรายการทรัพย์สิน และหนี้สินของสมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) กรณีพ้นจากตำแหน่งครบ 1 ปี จำนวน 2 ราย

+++ทั้งนี้มีบุคคลที่น่าสนใจ เช่น พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร พ้นจากตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี แจ้งว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 187,199,090 บาท เทียบกับกรณีเข้ารับตำแหน่งปี 2557 แจ้งว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 186,033,607บาท เท่ากับว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 1,165,483 บาท , พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร พ้นจากตำแหน่ง รมช.กลาโหม แจ้งว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 56,888,681 บาท เทียบกับกรณีเข้ารับตำแหน่งปี 2557 แจ้งว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน  54,634,679 บาท เท่ากับว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 2,254,002 บาท , นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร พ้นจากตำแหน่ง รมว.ท่องเที่ยวและกีฬา แจ้งว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 319,090,812 บาท เทียบกับกรณีเข้ารับตำแหน่งปี 2557 แจ้งว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 305,195,196 บาท เท่ากับว่ามีทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 13,895,616 บาท เป็นต้น

+++ ขณะที่ ทรัพย์สินของรัฐมนตรีหน้าใหม่รวม 10 ราย พบว่า มีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน เช่น นายกฤษฎา บุญราช รมว.เกษตรและสหกรณ์ แจ้งว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 15,268,068 บาท, นายศิริ จิระพงษ์พันธ์ รมว.พลังงาน แจ้งว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 16,028,670 บาท, มีทรัพย์สินน้อยที่สุดในรัฐมนตรีหน้าใหม่ นายวิวัฒน์ ศัลยกำธร รมช.เกษตรและสหกรณ์ แจ้งว่ามีทรัพย์สินมากกว่าหนี้สิน 28,489,813 บาท เป็นต้น

+++ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำพิพากษาคดีที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เป็นผู้ร้อง นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อดีตอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นผู้คัดค้าน กรณีแสดงบัญชีรายการทรัพย์สินและหนี้สินอันเป็นเท็จ ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า การที่นายธาริตและนางวรรษมล เพ็งดิษฐ์ คู่สมรส ไม่แสดงรายการทรัพย์สินเป็นเงินฝากธนาคาร 4 บัญชี เงินลงทุนในหุ้นบริษัท 2 แห่ง สิ่งปลูกสร้างบนที่ดิน 2 แปลง และเงินฝากธนาคาร 2 บัญชี ในชื่อของนายปิยฤกษ์ อรรถกานต์รัตน์ หลานของนางวรรษมล ที่มอบหมายให้อยู่ในความครอบครองดังกล่าว เป็นการปกปิดไม่แสดงรายการทรัพย์สินของตนเองและคู่สมรส กรณีทุก 3 ปีที่อยู่ในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูง เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ ป.ป.ช.ตรวจสอบ มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่านายธาริต มีเจตนาไม่แสดงที่มาแห่งทรัพย์สิน มีมติเอกฉันท์ พิพากษาว่านายธาริต จงใจยื่นบัญชีทรัพย์สินด้วยข้อความอันเป็นเท็จหรือปกปิดข้อเท็จจริงที่ควรแจ้งต่อ ป.ป.ช.ทุก 3 ปีที่อยู่ในตำแหน่ง จึงห้ามมิให้นายธาริต ดำรงตำแหน่งเจ้าหน้าที่ของรัฐเป็นเวลา 5 ปี นับแต่วันที่ 3 เม.ย. 2560 อันเป็นวันที่นายธาริต พ้นจากตำแหน่งที่ปรึกษาประจำสำนักนายกฯ และให้ลงโทษตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยป.ป.ช. มาตรา 41 วรรคหนึ่ง และมาตรา 119 ให้จำคุก 6 เดือน ปรับ 10,000 บาท แต่นายธาริต ให้การรับสารภาพเป็นประโยชน์แก่การพิจารณา ลดโทษกึ่งหนึ่งคงจำคุก 3 เดือน ปรับ 5,000 บาท ไม่เคยต้องโทษจำคุกมาก่อน ให้รอลงอาญา 2 ปี

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายและกำกับดูแลรัฐวิสาหกิจ (คนร.) พร้อมกับกล่าวตอนหนึ่งว่า ขอบคุณการทำงานร่วมกันมา รัฐบาลพยายามจะทำงานให้เกิดความโปร่งใส มีประสิทธิภาพในการใช้จ่ายงบประมาณให้เกิดผลสัมฤทธิ์มากที่สุด อย่างไรก็ตาม ปัญหาที่ยังสะสมมานาน อาจยังทำให้บางรัฐวิสาหกิจมีปัญหาอยู่บ้าง แต่ก็ต้องอาศัยทุกคน ที่จะช่วยกันแก้ไขปัญหา ซึ่งเป็นแนวทางของการปฏิรูปประเทศ เพราะหากไม่ทำตอนนี้ ปัญหาต่างๆ อาจจะกลับไปสู่ที่เดิมได้ และจะทำให้เกิดเป็นภาระของรัฐบาลในโอกาสต่อไป ปีนี้ถือได้ว่าจะเป็นปีแห่งการปฏิรูปรัฐวิสาหกิจ ให้เป็นที่ยอมรับสู่ระดับสากล สังคมและประชาชน อย่าให้มีการบิดเบือนในทุกเรื่อง ขอให้ทุกคนทำงานด้วยความระมัดระวัง

+++สำหรับวาระการประชุม จะมีการหารือถึงแผนฟื้นฟูรัฐวิสาหกิจของกระทรวงคมนาคม ประกอบด้วย การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) และ องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) ที่มีแผนปรับฐานค่ารถขสมก. ขึ้นอีก 2 บาท ซึ่งรถโดยสารธรรมดา เพิ่มจาก 6.50 บาท เป็น 8.50 บาท และ รถโดยสารปรับอากาศ เพิ่มอีกระยะละ 2 บาท เพื่อให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง  ส่วนบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) มีการปรับแผนธุรกิจให้ใกล้เคียงกับสายการบินต้นทุนต่ำ หรือ โลว์คอสต์ เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน แต่ก็ยังคงไว้ในการเป็นสายการบินระดับพรีเมียมด้วย

+++พายุฤดหนาว ที่มีกระแสลมแรงจัดพัดกระหน่ำทางตอนเหนือของยุโรปเมื่อวานนี้ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้ว 9 ศพ ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ดับเพลิงรวมอยู่ด้วย 2 ศพ และส่งผลกระทบต่อการเดินทางโดยเครื่องบินและรถไฟ

+++ตำรวจบราซิล เปิดเผยความคืบหน้าเหตุรถยนต์ที่แล่นมาด้วยความเร็ว พุ่งไถลขึ้นทางเดินที่เต็มไปด้วยผู้คนริมหาดโคปาคาบานาแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังในเมืองรีโอของบราซิล คาดว่าเป็นอุบัติเหตุ ทำให้ทารกวัย 8 เดือนเสียชีวิต และบาดเจ็บ 15 คน เจ้าหน้าที่กล่าวว่า ผู้บาดเจ็บนอนฟุบอยู่ริมถนน แต่ไม่มีแนวโน้มว่าเป็นเหตุเจตนาขับรถพุ่งชน ตามที่มีผู้สงสัยว่าอาจเป็นการก่อการร้ายโจมตีด้วยการขับรถชนผู้คนบนทางเดิน เว็บไซต์ข่าวจี1 รายงานว่า คนขับรถซึ่งหลบหนีออกจากที่เกิดเหตุแต่ถูกตำรวจตามจับกุมได้ทันบอกว่า เขามีอาการโรคลมชักกำเริบ โดยพบยากันโรคลมชักอยู่ภายในรถ สถานีตำรวจโคปาคาบานา แถลงยืนยันว่า ทารกเสียชีวิต และผู้บาดเจ็บ 15 คนต้องรักษาตัวที่โรงพยาบาล แต่ไม่ได้ยืนยันว่าคนขับรถเป็นโรคลมชักหรือไม่ ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า รถพุ่งมาด้วยความเร็วขึ้นมาบนทางวิ่งจักรยานและพุ่งเลยไปที่ทางเดินชนคน โต๊ะ และเก้าอี้ก่อนมาหยุดตรงหาดทราย  ทางเดินริมหาดโคปาคาบานาเป็นที่นิยมสำหรับผู้อยู่อาศัยและนักท่องเที่ยวมาเดินเล่นในช่วงเย็นของฤดูร้อนขณะเข้าสู่เทศกาลคาร์นิวัลในเดือนหน้า

CR:รัฐบาลไทย