รมว.คมนาคม ตั้งเป้าศ.เปลี่ยนถ่ายรูปแบบขนส่งสินค้าเชียงของ จ.เชียงรายพัฒนาเป็นเมืองหลักโลจิสติกส์เชื่อมไทย-ลาว-จีน

การเปิดตัวโครงการศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย ของกรมการขนส่งทางบก นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นประธานพร้อมประกอบพิธีบวงสรวงการก่อสร้างและยกเสาเอกอาคารสำนักงานกลางเพื่อความเป็นสิริมงคล

นายอาคม กล่าวว่า การจัดตั้งเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษของรัฐบาลเป็นนโยบายสำคัญ ที่กระทรวงคมนาคม โดยกรมการขนส่งทางบก ดำเนินการพัฒนาศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย เพื่ออำนวยความสะดวกในการขนส่งสินค้าชายแดน เชื่อมต่อไทย-สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว(สปป.ลาว)และสาธารณรัฐประชาชนจีน ผ่านสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 และถนนสาย R3A ยกระดับมาตรฐานการขนส่งสินค้า รองรับการขยายตัวของเศรษฐกิจอาเซียน การเติบโตของสาธารณรัฐประชาชนจีนฝั่งตะวันตก ซึ่งไม่มีทางออกสู่ทะเล (Landlocked) รวมถึงรองรับการเปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้า จากถนนสู่ระบบราง ตามแผนการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ซึ่งจะทำให้อำเภอเชียงของกลายเป็นเมืองหลักด้านโลจิสติกส์ ถือเป็นอีกหัวใจสำคัญในการพัฒนาจังหวัดเชียงราย ให้เป็นโลจิสติกส์ซิตี้ของภูมิภาค พัฒนาให้เป็นประตูการค้าในแนวระเบียงเศรษฐกิจเหนือ-ใต้

สำหรับเส้นทางสาย R3A นับเป็นเส้นทางคมนาคมขนส่งที่มีบทบาทความสำคัญต่อการพัฒนาทางด้านเศรษฐกิจและสังคม ภายใต้โครงการพัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Subregion หรือ GMS) ซึ่งเริ่มต้นที่อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ข้ามสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 4 เข้าสู่บ้านห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ฝั่งสปป.ลาว ผ่านแขวงหลวงน้ำทา ก่อนจะเข้าสู่สาธารณรัฐประชาชนจีนที่ชายแดนบ่อเต็น-บ่อหาน และตรงสู่เมืองเชียงรุ้ง และคุนหมิง รวมระยะทางประมาณ 1,100 กิโลเมตร โดยปัจจุบันมีสินค้าหลากหลายประเภทที่ใช้เส้นทางดังกล่าวขนส่ง ทั้งผักและผลไม้สด สินค้าอุปโภค-บริโภค เครื่องจักร และวัสดุก่อสร้าง โดยมีมูลค่าการนำเข้า-ส่งออกผ่านด่านกว่าปีละ 20,000 ล้านบาท หากศูนย์ดังกล่าวเปิดให้บริการจะสามารถสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอีกร้อยละ30-40

สำหรับ ศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงราย  จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ สามารถเข้าไปใช้บริการที่ศูนย์นี้ได้เพียงแห่งเดียวลักษณะOne stop service ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ไทยและสปป.ลาว ตรวจปล่อยสินค้าร่วมกันได้ในจุดเดียว เป็นการช่วยลดขั้นตอนในการทำงาน และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการในอนาคตอีกด้วย โดยมีการให้บริการของจะแบ่งออกเป็น 2 ระยะ ในระยะที่ 1 จะเน้นการให้บริการเปลี่ยนหัวลาก-หางพ่วง ระหว่างรถบรรทุกไทยกับรถบรรทุกต่างประเทศ ให้บริการอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ  นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่คลังสินค้าศุลกากร คลังสินค้าทัณฑ์บน และอาคารสำหรับบรรจุสินค้าตู้คอนเทนเนอร์รองรับให้บริการ ซึ่งจะสามารถรองรับปริมาณสินค้าได้กว่า 270,000 ทีอียู

โดยจะก่อสร้างแล้วเสร็จและพร้อมเปิดให้บริการในระยะแรกในปี พ.ศ. 2563 และระยะที่ 2 จะรองรับการเปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสู่ระบบราง พร้อมพัฒนาพื้นที่สำหรับการวางตู้คอนเทนเนอร์ คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการในระยะที่ 2 ได้ในปี พ.ศ. 2566 จะสอดคล้องกับแผนการก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ที่จะเตรียมเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)ภายในเดือนมีนาคมนี้ เพื่อขออนุมัติก่อสร้างโครงการดังรถไฟดังกล่าว  จึงหวังว่าศูนย์เปลี่ยนถ่ายรูปแบบการขนส่งสินค้าเชียงของ จังหวัดเชียงรายนี้ จะสามารถช่วยลดต้นทุนการขนส่งสินค้าและโลจิสติกส์ ส่งผลให้จังหวัดชายแดนกลายเป็นศูนย์กลางเชื่อมต่อ (Hub) การขนส่งสินค้ากับประเทศเพื่อนบ้าน รองรับการเติบโตทางเศรษฐกิจ อีกทั้งช่วยอำนวยประโยชน์ต่อการพัฒนาระบบโลจิสติกส์เชิงบูรณาการอย่างมีประสิทธิภาพของประเทศในระยะยาวอย่างยั่งยืน

อย่างไรก็ตามในปีนี้จะก่อสร้างศูนย์เปลี่ยนถ่ายสินค้า ที่จังหวัดนครพนม มุกดาหาร หนองคาย แม่สอด ซึ่งแต่ละแห่งจะใช้งบประมาณก่อสร้างเฉลี่ยแห่งละ800ล้านบาท ส่วนที่จังหวัดสงขลากับเชียงของจังหวัดเชียงรายนี้จะใช้งบประมาณเกิน1,000ล้านบาท ซึ่งจะเตรียมหารือกับกลุ่มGMSในเรื่องของการตรวจสินค้าแบบOne stop service

ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ ผสข.