รอยเตอร์รายงานอ้างผลศึกษาเรื่องความเสี่ยงทั่วโลกสำหรับปี 2561 เผยแพร่โดยเดอะเวิลด์ อิโคโนมิก ฟอรัม (ดับเบิลยูอีเอฟ)ก่อนการประชุมเศรษฐกิจประจำปีในเมืองดาวอส สวิตเตอร์แลนด์ 23-26 ม.ค.นี้ว่า มีความเสี่ยงเกิดเหตุเผชิญหน้าทางการเมืองและเศรษฐกิจระหว่างชาติมหาอำนาจรายใหญ่ๆของโลก รวมถึงการเผชิญหน้าทางทหารโดยตรง สูงขึ้นอย่างชัดเจน
รายงานนี้แสดงถึงความเสี่ยงหลายอย่างสำหรับปี 2561 รวมถึงภัยทางธรรมชาติที่เป็นผลมาจากสภาพอากาศแปรปรวนและอุณหภูมิสูงขึ้น ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางเศรษฐกิจและภัยจากการโจมตีทางไซเบอร์ แต่ประเด็นที่น่าสนใจและน่าเป็นกังวลมากที่สุดคือปัญหาทางภูมิศาสตร์การเมือง หลังการเปิดศึกวิวาทะต่อเนื่องมาตลอดปีที่แล้วระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐฯกับนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือ อย่างที่ทราบกันทั่วไปคือทำให้โลกของเราในขณะนี้ขยับเข้าใกล้สงครามนิวเคลียร์มากกว่าช่วงเวลาใดๆในรอบหลายปีที่ผ่านมา
ผลศึกษาครั้งนี้จัดทำโดยสำรวจความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญราว 1,000 คนจากองค์กรรัฐบาล ธุรกิจ นักวิชาการและเอ็นจีโอ บ่งชี้ว่าร้อยละ 93 คาดว่าปีนี้จะเกิดเหตุเผชิญหน้าทางการเมืองและเศรษฐกิจอย่างรุนแรงระหว่างบรรดาประเทศมหาอำนาจรายใหญ่ๆของโลก รวมถึงร้อยละ 40 ที่เชื่อว่าความเสี่ยงเรื่องนี้เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ขณะเดียวกัน ร้อยละ 79 คาดว่ามีความเสี่ยงเกิดปะทะทางทหารเพิ่มขึ้นในปีนี้ ทั้งบนคาบสมุทรเกาหลีและในตะวันออกกลาง สำหรับนายทรัมป์จะขึ้นเวทีปราศรัยในวันปิดประชุมของดับเบิลยูอีเอฟซึ่งจะจัดขึ้นในแถบเทือกเขาแอลป์ เมืองดาวอส ในสัปดาห์หน้า จะมีผู้นำรัฐบาลจากประเทศต่างๆราว 70 ประเทศ ซีอีโอ นายธนาคาระดับสูงและบุคคลที่ชื่อเสียงในแวดวงสังคมเข้าร่วมประชุมจำนวนมาก