การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา หรือ พ.ร.ป.ส.ว. ที่ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของการแปรญัตติของคณะกรรมาธิการ หลังจากที่ประชุมสนช.มีมติรับหลักการในวาระแรกมาเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2560 พล.ร.อ. ธราธร ขจิตสุวรรณ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติฉบับดังกล่าว เปิดเผยว่า จะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 25 มกราคมนี้ เพื่อให้เป็นไปตามกรอบกำหนดเวลาของรัฐธรรมนูญที่กำหนดไว้ว่าจะต้องพิจารณาให้แล้วเสร็จใน 60 วัน ขณะนี้ ได้ข้อสรุปว่า ส.ว.ชุดใหม่จะมีทั้งสิ้น 250 คน มีวิธีการสรรหา 2 วิธี วิธีแรกคือ การให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)สรรหามา 200 คน โดยมาจากการคัดเลือกในระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ ก่อนจะส่งให้คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.)คัดเหลือ 50 คน ส่วนวิธีที่สองคือ คสช.จะแต่งตั้งคณะกรรมการสรรหาจำนวน 9-12 คน และให้คณะกรรมการชุดดังกล่าวสรรหาบุคคลมา 400 คน เพื่อให้คสช.เลือกเหลือ 194 คนเพื่อนำไปรวมกับอีก 6 คนที่มาจากตำแหน่งผู้บัญชการเหล่าทัพ จะได้ส.ว.ในวิธีนี้ทั้งสิ้น 200 คน รวมกันจะได้ส.ว. 250 คน ซึ่งส.ว.จะมีเวลาดำรงตำแหน่ง 5 ปีตามบทเฉพาะกาล
การพิจารณาในชั้นแปรญัตติ มีคณะกรรมาธิการเสนอคำแปรญัตติ 7 คำแปรญัตติ มีสมาชิกเสนอแปรญัตติ 8 คน ประเด็นที่เป็นข้อถกเถียงในขณะนี้ของคณะกรรมาธิการ คือ มาตรา 11 ที่ว่าด้วยวิธีการสรรหาส.ว.ให้ได้ 200 คน ของกกต. ที่ต้องพิจารณาว่าจะแบ่งกลุ่มอาชีพของผู้สมัครส.ว.ว่าจะแบ่งเป็นกี่กลุ่มอาชีพ เพราะขณะนี้มีการเสนอแก้ไขลดจำนวนกลุ่มอาชีพผู้สมัครเป็น 5 กลุ่ม และ 10 กลุ่ม รวมไปถึงมาตรา 40-42 ที่ว่าด้วยวิธีการสรรหาให้ได้ 200 คนว่าจะเป็นการเลือกไขว้หรือเลือกกันเองของกลุ่มบุคคลในแต่ละสาขาอาชีพ คาดว่า จะได้ข้อสรุปของทั้ง 2 มาตราไม่เกินสัปดาห์หน้า และไม่ว่าผลสรุปจะออกมาให้เป็นการเลือกไขว้หรือเลือกกันเองในกลุ่มอาชีพ แต่เชื่อว่าจะไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญ และหากเป็นการเลือกกันเองก็เชื่อว่าจะไม่เป็นการหักหน้าคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญหรือ กรธ. แม้ว่ากรธ.จะเคยเสนอให้เลือกไขว้มาก่อนก็ตาม
ผู้สื่อข่าว:ธีระวัฒน์ สิทธิเกรียงไกร