+++วันครูทั่วประเทศเมื่อวานนี้ ในแต่ละจังหวัด จัดพิธีทำบุญตักบาตร เพื่อระลึกถึงพระคุณของครู ยกย่องเชิดชูเกียรติครูเป็นผู้ที่อบรมสั่งสอน ถ่ายทอดความรู้ตามสถานศึกษาทุกแห่งทั่วประเทศ ทั้งกิจกรรมทางศาสนา และการแข่งกีฬา นายอุดม ชูอ่อน ผอ.โรงเรียนบ้านช่องแมว จ.ปัตตานี ผู้ได้รับรางวัลยอดครูผู้มีอุดมการณ์ กล่าวว่า ได้นำหลักเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการจัดการสถานศึกษา ยึดหลักนักเรียนที่ดีต้องมีสุขภาพที่ดี การเรียนจึงจะสัมฤทธิผล เห็นด้วยกับสิ่งที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ กล่าวถึงความมีศรัทธาระหว่างเด็กและครู หากทุกคนมีความศรัทธาซึ่งกันและกัน จะทำให้การบริหารจัดการพัฒนาการศึกษาไปด้วยดี จึงอยากฝากถึงรัฐบาลและกระทรวงศึกษาธิการให้ช่วยดูแลนักเรียนที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร โดยเฉพาะโรงเรียนในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งช่วยดูแลและให้ขวัญกำลังใจเพื่อให้ครูมีขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป
+++เช้านี้ นายกฯ ลงพื้นที่จ. แม่ฮ่องสอน เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายความมั่นคง ดูแลความเรียบร้อยในแต่ละชุดที่นายกฯและคณะจะเดินทางไป นายกฯ เป็นประธานสักขีพยานในการมอบสมุดประจำตัวผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน โครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชน (คทช.) ตามนโยบายรัฐบาล และกล่าวกับประชาชน ณ หอประชุมบุญชู ตรีทอง โรงเรียนห้องสอนศึกษา ในพระอุปถัมภ์ฯ ตำบลจองคำ อำเภอเมือง เยี่ยมชมผลผลิตโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และรับฟังข้อเสนอแนวทางการพัฒนาอาชีพและเพิ่มรายได้ของชาวแม่ฮ่องสอน ณ ศูนย์บริการและพัฒนาลุ่มน้ำปายตามพระราชดำริ (ท่าโป่งแดง) ตำบลผาบ่อง อำเภอเมือง
เวลา 12.40 น. นายกฯ ประชุมยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดแม่ฮ่องสอน ณ ศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอน ตำบลจองคำ อำเภอเมือง ส่วนช่วงบ่าย นายกฯ และคณะเดินทางไปยังชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง (ศาสตร์พระราชา – สะพานข้าว – ก้าวเพื่อสุข) บ้านผาบ่อง ตำบลผาบ่อง อำเภอเมือง เยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้คุณธรรมฯ เยี่ยมชมตลาดประชารัฐ คนไทยยิ้มได้ รับฟังการบรรยายสรุปการดำเนินงานชุมชนคุณธรรมน้อมนำหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง และเดินทางกลับในช่วง 18.30 น.
+++คดีสำคัญที่ต้องตามกันต่อวันนี้ มีรายงานระบุว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.) จะแถลงข่าวอย่างเป็นทางการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรณี น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ อายุ 24 ปี พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ที่ถูกคนร้ายเป็นขบวนการโรแมนซ์ สแกม นำบัตรประชาชนไปขอเปิดบัญชีธนาคารพาณิชย์ 7 แห่งรวม 9 บัญชี จนทำให้ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกง และต้องต้องติดคุกนาน 3 วัน ก่อนได้รับการประกันตัวนั้น ต่อมาตำรวจจับตัวนายอายัคไซมอน อีโก้ สัญชาติแคเมอรูน และน.ส.ปวีณา สิงห์วิบูลย์ อายุ 31 ปี ที่นำบัตรประชาชนของ น.ส.ณิชา ไปเปิดบัญชีธนาคารต่าง ๆ
+++เมื่อวานนี้ ตำรวจนำตัว น.ส.ปวีณา มาสอบปากคำอีกครั้งที่สน.ห้วยขวาง ตำรวจ ได้ตรวจสอบข้อมูลจากการให้ปากคำทั้งหมด ทั้งของ น.ส.ณิชา น.ส.ปวีณาและน.ส.พรหมพร พงษ์เจริญคุณากร ซึ่งเป็นผู้ต้องสงสัยรายใหม่ ที่ภาพจากกล้องวงจรปิดเห็นยืนอยู่กับนายไซมอนที่ตู้เอทีเอ็มแห่งหนึ่งแถวห้วยขวาง ซึ่งจะเชิญตัวมาให้ปากคำเพื่อหาความเกี่ยวข้องในคดีต่อไป น.ส.พรหมพร ชาว จ.กาฬสินธุ์ ทราบว่าทำหน้าที่เป็นผู้จัดหาคนมาเปิดบัญชี และร่วมหลอกให้เหยื่อโอนเงิน และจากการขยายผลหลังค้นห้องพักนาย ไซมอน ย่านพระราม 9 พบหลักฐานสำคัญจำนวนมาก เช่น สมุดบัญชีธนาคารแห่งหนึ่ง ระบุชื่อ น.ส.พรหมพร สำเนาหนังสือเดินทางของหญิงสาวผิวสีสัญชาติแคเมอรูน ที่ไปกดเงินที่ตู้เอทีเอ็มกับนายไซมอน ชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการติดตามตัว
+++ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ระบุว่า หากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเรื่องใดจะเชิญผู้เกี่ยวข้องมาสอบอย่างละเอียดอีดครั้ง รวมถึง น.ส.ณิชา ส่วนที่สอบปากคำ น.ส.ณิชา นานถึง 12 ชั่วโมง เพราะมีข้อสงสัยเป็นจำนวนมาก จึงต้องสอบปากคำเพื่อให้หายข้องใจในข้อสงสัยเรื่องต่าง ๆ ทั้งเรื่องเงินหมุนเวียน 6 ล้านบาท กรณีบัตรประชาชนรวมถึงประเด็นที่มีความเกี่ยวข้องกับ น.ส.ปวีณาหรือนายไซมอนหรือไม่ นอกจากนี้ยังตรวจสอบไปถึงน้องชายของ น.ส.ณิชา ก่อนนำมาประเมินเพื่อตรวจสอบว่าข้อเท็จจริงเป็นอย่างไรต่อไป ทั้งนี้ จากการสอบปากคำและตรวจสอบหลักฐาน ยังไม่พบข้อพิรุธหรือข้อสงสัยใดที่จะเชื่อมโยงกับกลุ่มขบวนการดังกล่าว
+++การขยายผลหาบุคคลที่เกี่ยวข้องกับอาบอบนวด วิคตอเรียซีเครท หลังจากที่เจ้าหน้าที่ออกหมายจับ 8 คน รวม 13 ข้อหาหนักรวมค้ามนุษย์ เมื่อวานนี้ น.ส.ศศิธร วิระเทพ สุภรณ์ เจ้าของห้างหุ้นส่วนจำกัด อมรินทร์ ออนเซน และกรรมการผู้ขอใบอนุญาต สถานบริการอาบอบนวดวิคตอเรียซีเครท พร้อมทนายความ เข้ามอบตัวต่อพล.ต.อ. ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พนักงานสอบสวน คัดค้านการประกันตัวเนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง ส่งมอบตัวให้กับพนักงานสอบสวน สน.วังทองหลาง สอบปากคำ ก่อนที่เช้านี้ จะนำตัวฝากขังที่ศาลอาญา รัชดา ส่วนผู้ต้องหารายอื่น ๆ ที่เหลือทั้ง 6 คนที่ศาลออกหมายจับถูกควบคุมตัวในเรือนจำ เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการค้าประเวณี
+++พล.ต.อ.ศรีวราห์ กล่าวว่า จากการสอบปากคำเบื้องต้น น.ส.ศศิธร ยอมรับเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับจริง แต่ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาตำรวจ จึงแจ้งข้อกล่าวหาทั้งหมด 13 ฐานความผิด จากการตรวจสอบพบว่า น.ส.ศศิธรมีชื่อขอใบอนุญาตเปิดสถานบริการอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท แต่ก็ต้องตรวจสอบว่าเป็นเจ้าของตัวจริงด้วยหรือไม่ส่วนจะโยงใย กับการค้ามนุษย์ต้องรอรวบรวมพยานหลักฐานให้ครบถ้วน ขณะนี้รอเอกสารหลักฐานจากกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ตำรวจมีข้อมูลเพียง น.ส.ศศิธร มีชื่อจดทะเบียนในลักษณะเดียวกันอีก 10 บริษัท ได้สั่งให้ตรวจสอบสถานบริการ 10 แห่ง ว่ามีการกระทำความผิดที่เข้าข่ายการค้ามนุษย์หรือไม่ หลังจากนี้ต้องรวบรวมพยานหลักฐาน ตรวจสอบเส้นทาง การเงิน ส่วนการสอบปากคำ นายบุญทรัพย์ อมรรัตนสิริ หรือ ป๋ากบ อายุ 55 ปี หัวหน้าเชียร์แขก ยังไม่ให้การซัดทอดไปถึงใคร
+++สำหรับกรณีของการรับรองร้อยเปอร์เซ็นต์ให้กับนายตำรวจและเจ้าหน้าที่ในระดับต่าง ๆ เข้าใช้บริการ ตามรายละเอียดที่พบ พล.ต.อ. ศรีวราห์ สั่งการให้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดภายในสถานบริการย้อนหลังว่ามีตำรวจที่มีชื่อในบัญชี ไปใช้บริการจริงหรือไม่เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการดำเนินการต่อไป
+++ในส่วนของดีเอสไอ พ.ต.อ.ไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า พร้อมเซ็นอนุมัติรับคดีการค้ามนุษย์และลักลอบค้าประเวณีในสถานบริการวิคตอเรียซีเครท เพื่อให้ สน. วังทองหลาง โอนสำนวนการสอบสวนมาให้ดีเอสไอ สอบสวน ในส่วนของกลางจากตู้เซฟ 3 ตู้ที่อายัดมาจากสถานบริการ สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กำลังเร่งคัดแยกและจัดทำบัญชีของกลาง ส่วนเงินที่พบในตู้เซฟส่วนใหญ่เป็นการแยกเก็บเป็นซองตามรายชื่อหญิงบริการ ซึ่งเบื้องต้นสันนิษฐานว่าเป็นเงินค่าตัวหญิงบริการ
+++พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีดีเอสไอ กล่าวว่า ในสัปดาห์หน้า เตรียมเรียกตัว นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตเจ้าของผู้ก่อตั้งอาบอบนวดวิคตอเรีย ซีเครท เมื่อปี 2532 มาให้ข้อมูล หลังนายชูวิทย์ ออกมาเปิดข้อมูลเรื่องขั้นตอนการใช้บริการเด็กในสถานบริการและเรตราคา รวมทั้งยังระบุว่า น.ส.ศศิธร ที่สื่อนำเสนอว่าเป็นเจ้าของนั้นแท้จริงแล้วเป็นเพียงนอมินี พร้อมทั้งเปิดชื่อเจ้าของวิคตอเรีย ซีเครทตัวจริงที่ซื้อธุรกิจต่อจากนายชูวิทย์
+++พล.อ.ประยุทธ์ ให้แนวทางแล้วว่าให้ทุกหน่วยงานทำตามกฎหมายให้ชัดเจนโดยเฉพาะอย่างยิ่งกฎหมายที่เกี่ยวกับการค้ามนุษย์ซึ่งมีความผิดทั้งผู้ประกอบการ ผู้สนับสนุนการประกอบการดังกล่าวและเจ้าหน้าที่ ต้องถูกลงโทษทั้งหมด โดยในส่วนของเจ้าหน้าที่ สั่งการให้โยกย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำผิดออกมาประจำเพื่อเข้าสู่กระบวนการสอบสวน ทุกเรื่องต้องเกิดความชัดเจน ในลักษณะนี้ต้องมีการตรวจสอบและขยายผล พร้อมเตือนไปยังพื้นที่อื่น ๆ ด้วยว่าอย่าให้มีการกระทำความผิดเช่นนี้