กกต.เสนอแก้ไขร่างกม.เลือกตั้งท้องถิ่น/ดีเอสไอเรียกชูวิทย์ให้ข้อมูลอาบอบนวด/อย.ปัดปลูกกัญชา

สรุปข่าว 19.35 น.

+++ความคืบหน้าการจัดทำร่างแก้ไขกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งท้องถิ่น 6 ฉบับ นายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่มีความคืบหน้ามากนัก เนื่องจาก คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ยังไม่ส่งความคิดเห็นกลับมาที่คณะกรรมการกฤษฎีกา ทั้งที่นายวิณษุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เชิญมาพูดคุยหลายครั้งแล้ว  ดังนั้น คณะกรรมการกฤษฎีกาจะไม่รอแล้ว โดยจะส่งร่างกฏหมายทั้ง 6 ฉบับที่คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาจัดทำ เสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ในสัปดาห์หน้า เพื่อให้ครม.พิจารณาและออกความคิดเห็นด้วย เนื่องจากครม.ยังไม่เคยรับทราบร่างกฎหมายเหล่านี้เลย อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการกฤษฎีกาจะนำความคิดเห็นที่จากครม.มาใช้ปรับปรุงร่างกฎหมายดังกล่าว พร้อมกับนำร่างกฎหมายที่กกต.ทำส่งมาประกบด้วยต่อไป

+++แต่ว่า ล่าสุดนายณัฏฐ์ เล่าสีห์สวกุล ผู้อำนวยการสำนักบริหารการเลือกตั้งและการออกเสียงประชามติ 1 ในฐานะรักษาการรองเลขาธิการกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) แถลงว่า ที่ประชุมกกต.มีมติเห็นชอบร่างพ.ร.บ.การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น พ.ศ... ตามที่สำนักงานเสนอ รวมทั้ง ที่ประชุม กกต.มีความห่วงใยกรณีที่คณะกรรมการกฤษฎีกาจะเสนอร่างกฎหมายท้องถิ่นในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาในการประชุมสัปดาห์หน้า เพราะไม่แน่ใจว่าร่างที่จะเสนอนั้นเป็นร่างกฎหมายที่กฤษฎีกายกร่างแก้ไขแล้วมีเพียง 5 มาตราหรือไม่ เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นจะไม่สามารถจัดการเลือกตั้งท้องถิ่นได้ และถ้าไม่แก้ก็จะมีปัญหาในภายหน้า

+++หลังจากนี้กกต.จะรอการพิจารณาร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ของที่ประชุมสนช.ในเรื่องประเด็นมหรสพให้เแล้วเสร็จก่อนเพื่อจะปรับปรุงร่างกฎหมายดังกล่าว จากนั้นจะดำเนินการกระบวนการรับฟังความคิดเห็นตามรัฐธรรมนูญ  มาตรา 77  โดยจะส่งร่างไปยังสำนักงาน กกต.จังหวัด เพื่อส่งต่อไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 15 วันและในวันที่ 7 กุมภาพันธ์นี้จะรับความคิดเห็นกลับมาก่อนประมวลความเห็นเสนอต่อที่ประชุมกกต.ภายในวันที่ 20 กุมภาพันธ์และวันที่ 21-23 กุมภาพันธ์จะปิดประกาศรายงานผลความคิดเห็นให้ประชาชนได้รับทราบ  โดยคาดการณ์ว่าจะเสนอร่างไปยังคณะรัฐมนตรีในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ 

+++พ.ต.อ.ทรงศักดิ์ รักศักดิ์สกุล รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ เปิดเผยว่า  ขณะนี้อยู่ระหว่างการรออธิบดีดีเอสไอเซนต์รับเรื่องวิคตอเรียซีเครท เป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเป็นคดีค้ามนุษย์ เป็นคดีท้ายบัญชีของดีเอส ไออยู่แล้ว จึงไม่ต้องนำเสนอผ่านคณะกรรมการคดีพิเศษ   นอกจากนี้ยังเตรียมเรียกนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตเจ้าของผู้ก่อตั้งอาบอบนวด วิคตอเรียซีเครท เมื่อปี2532 มาให้ข้อมูลแก่ดีเอสไอ หลังนายชูวิทย์ออกมาเปิดข้อมูลเรื่องขั้นตอนการใช้บริการเด็กในสถานบริการ และ(เรท)ราคา รวมทั้งยังระบุว่า น.ส.ศศิธร วิระเทพสุภรณ์ ที่สื่อนำเสนอว่าเป็นเจ้าของนั้น แท้จริงแล้วเป็นเพียงนอมินี โดยได้ระบุว่าเจ้าของตัวจริงของวิคตอเรียซีเครทคือ ‘เสี่ยกำพล วิระเทพสุภรณ์’ ผู้ที่ซื้อธุรกิจต่อจากนายชูวิทย์นั้นเอง  คาดว่าจะแจ้งนายชูวิทย์ได้ในเร็ววันนี้ เนื่องจากเป็นคดีที่อยูในความสนใจของสังคมต้องดำเนินการอย่างเร็วที่สุด

+++นายอัทธ์ พิศาลวานิช ผู้อำนวยการศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศ  มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า การส่งออกในปีนี้คาดว่าจะขยายตัวได้ร้อยละ  6.3 คิดเป็นมูลค่า 252,557 ล้านดอลลาร์สหรัฐ จากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และกลุ่มสภาพยุโรปปรับความสัมพันธ์ทางการเมืองกับไทยดีขึ้น และการทำข้อตกลงกับอาเซียนกับจีน จะส่งผลให้ไทยโอกาสส่งออกไปยังจีนมากขึ้น  ขณะเดียวกันก็จะส่งผลให้สินค้าจากจีนเข้ามาในไทยมากขึ้น แต่หากค่าเงินบาทไทยแข็งค่ามากกว่าประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาค รวมทั้งจีนชะลอการนำเข้าอย่างและผลิตภัณฑ์ยางจากไทยหลังจากที่นำเข้าสูงมากในปีที่แล้วอาจทำให้การส่งออกไทยปีนี้ขยายตัวได้เพียงร้อยละ 4  ทั้งนี้ค่าเงินบาทไทยยังคงมีแนวโน้มแข็งค่าอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะเฉลี่ยอยู่ที่ 31.80 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเป็นอัตราที่แข็งค่ามากที่สุดในรอบ 5 ปี เพราะสหรัฐฯปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไม่สูงมากตามที่ตลาดคาดการณ์ ส่งผลให้ค่าเงินดอลลาร์ยังคงอ่อนค่า  และส่งผลให้ค่าเงินในภูมิภาคเอเชียแข็งค่าขึ้น ซึ่งค่าเงินบาทของไทยจะแข็งค่ามากกว่าประเทศเพื่อนบ้าน จากเงินทุนไหลเข้าทั้งในตลาดทุน และตลาดพันธบัตร โดยในปีที่แล้วค่าเงินบาทแข็งค่ากว่าประเทศเพื่อนบ้านร้อยละ  5.9 และกระทบต่อการส่งออกเป็นในราคา 5,385 ล้านดอลลาร์สหรัฐหรือ ประมาณร้อยละ  2.5 ของการส่งออกรวม

+++ความคืบหน้าคดี  “เสก โลโซ”  หรือ นายเสกสรรค์  สุขพิมาย  กรณีพบสารยาเสพติด “เมทแอมเฟตามีน”  ในปัสสาวะ   มีรายงานล่าสุดระบุว่า   ขณะนี้ยังไม่มีการติดต่อจาก “เสก โลโซ” หรือทนายความว่า “เสก โลโซ” จะมาหรือไม่มาพบพนักงานสอบสวนสน.คันนายาวตามหมายเรียกรับทราบข้อหาเสพยาเสพติด ครั้งที่ 2  ในเวลา 10.00 น. ซึ่งหากพรุ่งนี้(17 ม.ค.) “เสก โลโซ”  ไม่มาพบพนักงานสอบสวนโดยไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือความจำเป็นจริงๆ เช่น ป่วยต้องมีใบรับรองแทพย์  พนักงานสอบสวน  จึงจะให้โอกาสออกหมายเรียกครั้งที่ 3 แต่หากเงียบหายไปโดยไม่แจ้งหรือไม่มีเหตุผลฟังไม่ขึ้น  พนักงานสอบสวนจะเสนอศาลจังหวัดมีนบุรี ออกหมายจับ “เสก”  ในข้อหาเสพยาเสพติดทันที  เนื่องจากมีเจตนาขัดหมายเรียกถึง 2 ครั้ง  สำหรับที่มาของข้อหาเสพยาเสพติดเกิดขึ้นจาก พล.ต.อ.จักรทิพย์  ชัยจิดา  ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) นำกำลังบุกจับกุม “เสก โลโซ”  ที่บ้านพักย่านคันนายาว   แต่ “เสก” ขัดขวางการจับกุมพร้อมมีอาวุธปืนจึงถูกแจ้งข้อหาขัดขวางเจ้าหน้าที่ในขณะปฏิบัติหน้าที่ และครอบครองอาวุธปืน   จากนั้น เจ้าหน้าที่ตรวจปัสสาวะพบเป็นสีม่วง  มีสารยาเสพติดเมทแอมเฟตามีน

+++การเสนอข่าวได้เลือกพื้นที่ในจ.สกลนคร ประมาณ 5,000 ไร่ เป็นแหล่งปลูกกัญชาแห่งแรกของประเทศไทย นำร่องใช้พื้นที่ทหารเพื่อให้ควบคุมง่าย นพ.สุรโชค ต่างวิวัฒน์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า กฎกระทรวงดังกล่างนั้นออกจากพรบ.ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ.2522 ว่าด้วยการปลูก เฮมพ์ (HEMP) เป็นพืชชนิดย่อยของกัญชาที่ ที่เรียกว่า “กัญชง” ซึ่งจะมีลักษณะทางกายภาพคล้ายกัญชามาก แต่สิ่งแตกต่างคือ กัญชงจะมีสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล หรือ THC ในปริมาณที่ต่ำกว่ากัญชาร้อยละ1 สารตัวนี้จะเป็นสารที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท ถือเป็นสารเสพติด จึงมีการอนุญาตให้ทดลองปลูกกัญชงในหลายพื้นที่ แต่ไม่อนุญาตให้ปลูกกัญชา เพราะมีสารในปริมาณที่มากกว่า

+++ดัชนีตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในแดนบวกเป็นส่วนใหญ่ก่อนปิดที่ระดับ 1,821.83 จุด ลดลง 0.83 จุด มูลค่าการซื้อขาย 76,866.25 ล้านบาท

+++ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นโตเกียวปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 26 ปีในวันนี้ โดยบรรยากาศการซื้อขายได้รับปัจจัยหนุนจากเงินเยนที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งการคาดการณ์ที่ว่า ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในญี่ปุ่นจะออกมาแข็งแกร่ง เพิ่มขึ้น 236.93 จุด ปิดที่ 23,951.81 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 15 พ.ย. 2534

+++ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยได้รับแรงหนุนจากหุ้นเทนเซ็นต์ที่ทะยานขึ้นกว่า 2% รวมถึงหุ้นกลุ่มการเงินที่นำโดยบริษัทตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง (HKEx) และหุ้นกลุ่มคอนซูเมอร์ที่ปรับตัวขึ้นแข็งแกร่ง ดัชนีฮั่งเส็งเพิ่มขึ้น 565.88 จุด ปิดวันนี้ที่ 31,904.75 จุด

+++นายเจอร์มัน คาร์โดนา รัฐมนตรีคมนาคมของโคลอมเบียว่าสะพานแขวนเชื่อมโยงทางด่วนเส้นหนึ่งที่อยู่ระหว่างก่อสร้างในเมืองชิราฆาราทางภาคกลางของประเทศถล่มลงมา มีคนงานเสียชีวิต 9 ศพและบาดเจ็บอีก 5 คน ระบุว่าเป็นเหตุที่น่าเศร้าสลดใจ เพิ่มเติมว่าเรื่องสาเหตุอยู่ระหว่างการสอบสวน ด้านนายหลุย อัลวาราโด คนงานของบริษัทโคเวียนเดส ผู้รับเหมาสร้างสะพานแห่งนี้ ที่รัฐถือหุ้นใหญ่รัฐบาล ที่ได้รับบาดเจ็บกล่าวถึงเหตุการณ์ขณะเกิดเหตุว่าทุกคนต่างตะโกนร้องขณะสะพานแขวนถล่มลงมา เพิ่มเติมว่าเขาไม่มีเวลาพอที่จะหลบหนี จากนั้นรู้สึกมีซากอิฐซากปูนหล่นใส่ศรีษะ สำหรับสะพานแขวนดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของทางด่วนเส้นหนึ่งที่เชื่อมโยงกรุงโบโกตากับเมืองบียาบีเซนเซียว ภาพถ่ายจากจุดเกิดเหตุแสดงให้เห็นซากชิ้นส่วนสะพานแขวนยาว 450 เมตรร่วงหล่นในหุบเหวข้างด้านล่าง