ครม.เห็นชอบภาษี หนุนมีลูกหักลดหย่อนมีบุตรเพิ่มเป็น6หมื่นบาท/บริจาคลดหย่อนได้2เท่า

16 มกราคม 2561, 16:26น.


หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี นายณัฐพร จาตุศรีพิทักษ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบ มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการมีบุตร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ สาระสำคัญ คือการกำหนดให้ปรับเพิ่มค่าลดหย่อนของบุตรที่ชอบด้วยกฎหมาย ตั้งแต่คนที่ 2 เป็นต้นไป เกิดตั้งแต่ปี 2561 ไม่ว่าบุตรคนก่อนหน้านั้นจะมีชีวิตอยู่หรือไม่ก็ตาม โดยสามารถหักลดหย่อนได้ 30,000 บาทต่อคนต่อปีภาษี ซึ่งจาก 30,000 บาท เป็น 60,000 บาท พร้อมทั้งมีการประกาศร่างกฎกระทรวง กำหนดให้ผู้มีเงินได้หรือคู่สมรสสามารถนำค่าฝากครรภ์หรือค่าคลอดบุตรไปหักเป็นค่าลดหย่อน การคำนวณภาษีเงินได้ธรรมดาตามจำนวนที่จ่ายจริง สำหรับการตั้งครรภ์แต่ละครั้ง ไม่เกิน 60,000 บาท หากการจ่ายค่าฝากครรภ์และค่าคลอดบุตรอยู่ระหว่างข้ามปีภาษี ให้หักลดหย่อนตามจำนวนที่จ่ายจริงแต่ละปีภาษี แต่รวมกันแล้วต้องไม่เกิน 60,000 บาท โดยเป็นค่าฝากครรภ์และค่าคลอดบุตรที่จ่ายไปวันที่ 1 มกราคม 2561 เป็นต้นไป



โดยมาตรการนี้ กระทรวงการคลัง คาดว่าจะส่งผลทำให้รัฐบาลสูญเสียรายได้ประมาณปีละ 25,00 ล้านบาท แบ่งเป็นค่าลดหย่อนบุตรประมาณปีละ 1,500 ล้านบาท และค่าฝากครรภ์ ค่าคลอดบุตรปีละ 1,000 ล้านบาท



ที่ประชุมยังเห็นชอบมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการบริจาคให้แก่สถานพยาบาล ตาม พรบ. สถานพยาบาล พ.ศ.2541 สาระสำคัญผู้เสียภาษีเงินได้ บุคคลธรรมดา สามารถหักลดหย่อนภาษีได้ 2 เท่าของจำนวนเงินที่บริจาค แต่เมื่อรวมกับค่าใช้จ่ายที่สนับสนุนการศึกษาสำหรับโครงการที่กระทรวงศึกษาให้ความเห็นชอบไม่เกินร้อยละ 10 ของเงินได้พึงประเมิน ส่วนห้างหุ้นส่วนนิติบุคคล จะได้รับการลดหย่อนภาษี 2 เท่า แต่เมื่อรวมกับรายจ่ายค่าสนับสนุนการศึกษาสำหรับโครงการที่กระทรวงศึกษาธิการให้ความเห็นชอบ และรายจ่ายที่เป็นค่าใช้จ่ายการจัดสร้างบำรุงรักษาสนามเด็กเล่น สวนสาธารณะหรือสนามกีฬาเอกชนที่ไม่เก็บค่าบริการต้องไม่เกินร้อยละ 10 ของกำไรสุทธิ โดยเงื่อนไขต้องเป็นการบริจาคให้กับสถานพยาบาล ที่ดำเนินการโดยกระทรวง ทบวงกรม หน่วยงานของรัฐ ตั้งแต่ 1 ม.ค.2561 เป็นต้นไป



นอกจากนี้ที่ประชุมยังมีมติเห็นชอบการกำหนดสินค้า และบริการควบคุม ตาม พรบ. ว่าด้วยการบริการและสินค้าควบคุม พ.ศ.2542 โดยรายการสินค้าและบริการล่าสุดที่จะหมดอายุในวันที่ 23 มกราคม 2561  จึงมีการออกประกาศฉบับใหม่ โดยคงรายการสินค้าและบริการควบคุม  47 รายการ แบ่งเป็น 42 สินค้าและ 5 บริการไว้คงเดิม และเพิ่มรายละเอียดสินค้าและบริการ 1 รายการคือผงซักฟอก ปรับเพิ่มเป็นผงซักฟอกและน้ำยาซักฟอก ให้เกิดความชัดเจน เนื่องจากปัจจุบันได้มีการใช้น้ำยาซักฟอก อีกทั้งยังได้รับการร้องเรียนว่าผงซักฟอกและน้ำยาซักฟอก มีการลดขนาดบรรจุแต่จำหน่ายในราคาเดิม รวมถึงเพิ่มรายการสินค้าควบคุม 6 รายการ ได้แก่ สบู่ แชมพูน้ำยาปรับผ้านุ่ม ผลิตภัณฑ์ล้างจาน เนื่องจากได้รับการร้องเรียนว่ามีการลดขนาดบรรจุแต่ราคาเท่าเดิม รวมถึงเพิ่มรายการผ้าอ้อมสำหรับเด็กและผู้ใหญ่ เนื่องจากปัจจุบันเป็นสินค้าที่จำเป็นสำหรับเด็กและผู้สูงอายุ  และเพิ่มสินค้าหมวดเกษตรได้แก่ยางพารา เพื่อเพิ่มความเป็นธรรมให้กับเกษตรกรผู้ปลูกยางพาราด้วย

ข่าวทั้งหมด

X