ความคืบหน้ากรณีนางสาวณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ ผู้ต้องหาคดีฉ้อโกง ที่อ้างว่าถูกแก๊งค์คอลเซ็นเตอร์นำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคาร พันตำรวจเอกพนัญชัย ชื่นใจธรรม รองผู้บังคับการ 1 กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว ผู้ดูแลศูนย์ป้องกันและปราบปรามการฉ้อโกงประชาชนผ่านระบบโทรศัพท์ และสื่ออิเล็กทรอนิกส์ หรือศูนย์ปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เปิดเผยว่า ล่าสุดจากการตรวจสอบข้อมูลคำให้การของนางสาวณิชาที่เข้าให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ สน.ห้วยขวาง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา นางสาวณิชาสามารถตอบคำถามในหลายประเด็นที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสงสัย แต่ก็ยังไม่สามารถสรุปได้ว่านางสาวณิชามีส่วนเกี่ยวข้อง รู้เห็นในคดีหรือไม่
ส่วนที่มีการตั้งข้อสงสัยกรณี นางสาวณิชา แจ้งความบัตรประชาชนหายถึง 3 ครั้ง จะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการหรือไม่นั้น ในเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องปกติ ที่เด็กวัยรุ่นจะมีการทำบัตรประชาชนบ่อยครั้ง ด้วยหลายสาเหตุ เช่น บัตรประชาชนหายจริงๆ หรือ อาจจะไม่พอใจรูปภาพใบหน้าในบัตรประชาชน
สำหรับเงินในบัญชีของนางสาวณิชา ที่มีจำนวน 6 ล้านบาท พันตำรวจเอกพนัญชัย ระบุว่า ตำรวจยังไม่ได้ข้อมูลในส่วนนี้ ได้ยินมาจากสื่อมวลชนเท่านั้น แต่ถ้าหากตรวจสอบแล้วพบเงินจำนวนนี้จริง ก็เป็นเรื่องน่าสงสัย ส่วนเงินใน 9 บัญชีซึ่งเป็นชื่อของนางสาวณิชา ที่ถูกนำไปเปิดบัญชี ก็พบว่ามีเงินไม่ถึง 6 ล้านบาท ซึ่งในวันนี้จะตรวจสอบข้อมูลทางการเงินที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) ส่งมาให้
ทั้งนี้ ตำรวจไม่พบข้อมูลความเชื่อมโยงระหว่างนางสาวณิชา กับนางสาวปวีณา สิงหวิบูลย์ ผู้นำบัตรประชาชนของนางสาวณิชาไปเปิดบัญชี และนายไซม่อน ส่วนที่มีรายงานว่า นางสาวณิชา มีการพูดคุยทางโทรศัพท์กับนางสาวปวีณา ก็ไม่พบข้อมูลการพูดคุยกัน แต่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบข้อมูลการติดต่อในรูปแบบอื่นๆ ของทั้ง 3 คน หากพบความเชื่อมโยง จะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายทันที แต่ในกรณีของนายไซม่อนนั้น ตำรวจเตรียมแจ้งข้อหาเพิ่มเติม ที่เกี่ยวข้องกับแก๊งค์โรแมนซ์สแกม ซึ่งมีผู้ต้องหาเป็นชาวต่างชาติที่ถูกจับกุมไปก่อนหน้านี้
....
ผสข.ปภาดา พูลสุข