ตำรวจขยายผลคดีค้ามนุษย์วิคตอเรียซีเครท พบมี80คนที่ไม่มีเอกสารระบุตัวตน

16 มกราคม 2561, 12:02น.


ความคืบหน้าการสืบสวนสอบสวนขยายผลกรณีเจ้าหน้าที่ปกครอง กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ทหาร บุกค้นสถานบริการอาบอบนวด วิคตอเรีย ซีเครท ย่านพระราม 9 พลตำรวจเอกธรรมศักดิ์ วิชารยะ ที่ปรึกษาสัญญาบัตร 10 เปิดเผยว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่สามารถคัดแยกหญิงบริการที่เกี่ยวข้อง และไม่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ออกได้แล้ว เหลือเพียง 80 คนที่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องเอกสารระบุตัวตน สัญชาติ อายุ เนื่องจากทั้ง 80 คนนี้มีเพียงเอกสารที่เป็นภาพถ่ายในโทรศัพท์มือถือเท่านั้น จึงต้องตรวจสอบอย่างละเอียด ส่วนการตรวจสอบอายุที่แท้จริงด้วยระบบทางการแพทย์ก็ได้ผลออกมาค่อนข้างชัดเจน  


ส่วนการเชิญตัวหุ้นส่วนใหญ่คือนางสาวศศิธร วิระเทพสุภรณ์ และหุ้นส่วนรายย่อย ที่ยังไม่มีการเชิญตัวมาแจ้งข้อหา หรือสอบสวนนั้น  ขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานจากผู้เสียหายและพยาน คือ ผู้จัดการ เด็กเชียร์แขก พนักงาน และหญิงบริการจำนวน 113 คน เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ชัดเจนครบถ้วน ใช้ในการตรวจสอบหาฐานความผิดที่แท้จริง  ก่อนออกหมายเรียกมาสอบสวน และแจ้งข้อหาตามกระบวนการต่อไป แม้เวลาจะผ่านไปนานกว่า 3 วันแล้ว ถือว่าไม่ช้าเกินไป หรือจะเป็นช่องทางให้ผู้เกี่ยวข้องหลบหนี เพราะคดีการค้ามนุษย์ต้องกระทำอย่างรอบคอบ และเคารพสิทธิส่วนบุคคลของผู้ประกอบการ เชื่อว่าจะไม่เป็นเหมือนอย่างคดีนาตาลีอาบอบนวด  นอกจากนี้ยังได้มีการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังไว้ในระดับหนึ่ง  


ทั้งนี้ภายหลังจากมีการบุกตรวจค้น ยังไม่ปรากฎว่า นางสาวศศิธร และหุ้นส่วนรายอื่นๆ จะติดต่อเข้ามาที่ตำรวจ ส่วนกรณีที่พบชื่อของนายกำพล หรือเสี่ยกำพลนั้น ยังไม่ชัดเจนว่าเป็นใคร


และกรณีที่หุ้นส่วนรายใหญ่ของวิคตอเรียซีเคร็ท ยังถือหุ้นในบริษัทซึ่งเป็นสถานบริการต่างๆ อีก 7 แห่งในพื้นที่ย่านอินทามระและดินแดงนั้น ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูล และคำให้การของพยาน โดยวันนี้ เวลา 14.00 น. จะมีการประชุมเพื่อหามาตรการป้องกันและข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสถานประกอบการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับหุ้นส่วนใหญ่อีกครั้งหนึ่ง 


ส่วนกระแสข่าวที่ออกมาว่า การจับกุมเกิดขึ้นจากความขัดแย้งทางธุรกิจ ยืนยันว่า เป็นการดำเนินการตามหมายจับของ DSI และกรมการปกครอง ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2557 ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้งกันทางธุรกิจของคู่แข่ง


ขณะที่ยังมีข้อกังวลว่าคดีนี้จะเหมือนกับคดีนาตาลีอาบอบนวด ซึ่งเจ้าหน้าที่รัฐไม่ถูกลงโทษดำเนินคดี แต่จะถูกโยกย้ายออกนอกพื้นที่เท่านั้น  ทางกรมการปกครองได้ยื่นเรื่องต่อปปท.ให้ตรวจสอบและมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบในระดับกองบัญชาการแล้ว น่าจะเกิดความชัดเจนว่ามีเจ้าหน้าที่รายใดเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องบ้าง หากพบว่ามีความผิดจริงก็สามารถดำเนินคดีได้ทันที่ แต่ต้องให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เชื่อว่าจะไม่ซ้ำรอยคดีนาตาลีอาบอบนวด


...


ผสข.ปภาดา 
ข่าวทั้งหมด

X