DSIเปิดตู้เซฟอาบอบนวดพบเงินสด-เอกสาร เร่งสอบจนท.รัฐเกี่ยวข้องต่อ

การเปิดตู้นิรภัยที่ตรวจยึดได้จากสถานบริการ วิคตอเรียซีเครท อาบอบนวด ย่านพระราม 9 เมื่อวันที่ 12 มกราคม  พันตำรวจเอกไพสิฐ วงศ์เมือง อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ)นำเจ้าหน้าที่กรมการปกครอง , สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม และกองบังคับการตำรวจนครบาล4ร่วมกันเปิดตู้นิรภัยจำนวน3ใบ ประกอบด้วย ขนาดเล็ก1ใบ สูงประมาณ 60 เซนติเมตร ภายในไม่พบสิ่งของ และขนาดใหญ่2ใบ สูงประมาณ 80 เซนติเมตร พบเงินสดจำนวนมาก และเอกสารต่างๆ เช่น สมุดบัญชีสรุปยอด ซองเงินเดือนของพนักงาน  พันตำรวจเอกสุภัทธ์ ธรรมธนารักษ์ ผู้อำนวยการกองคดีการค้ามนุษย์ เปิดเผยว่า  เจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ จะรวบรวมของกลางเพื่อแยกสิ่งของแต่ละประเภท หากพบเอกสารเกี่ยวกับเงิน ก็จะส่งให้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.)ตรวจสอบ เบื้องต้นเจ้าหน้าที่นิติวิทยศาสตร์ จะทำบัญชีอายัดของกลางเพิ่มเติม ส่งให้กับกรมการปกครอง เพื่อใช้ประกอบสำนวนคดีอาญาที่ 43/2561 ของสถานีตำรวจนครบาลวังทองหลาง และเอกสารที่มีการพาดพิงเจ้าหน้าที่รัฐ ก็จะส่งให้ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.)ตรวจสอบเพิ่มเติม 

และหากพบมีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้องก็จะดำเนินการ ซึ่งต้องใช้เวลาในการตรวจสอบก่อน เพราะบางรายชื่อเป็นเพียงแค่ชื่อเล่นเท่านั้น หลังจากนี้เจ้าหน้าที่จะดำเนินการไปตามพยานหลักฐานและจะทำการสอบสวนในรูปแบบคณะกรรมการ เพื่อให้การทำคดีมีความโปร่งใส ตรงไปตรงมา และจากการสอบสวน นายบุญทรัยพ์ อมรรัตนสิริ หรือป๋ากบ  หัวหน้าคนเชียร์แขก ยังให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา  หลังจากนี้เจ้าหน้าที่เตรียมรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินการกับเจ้าของสถานบริการตัวจริงต่อไป

สำหรับหญิงสาวกว่า113คนที่ถูกควบคุมตัวมาตรวจสอบนั้น เบื้องต้นสามารถแยกออกเป็น3กลุ่ม คือ กลุ่มที่เข้าข่ายการค้าประเวณี อายุต่ำกว่า 18 ปี 3 คน, กลุ่มที่เข้าข่ายว่าอาจจะเป็นเหยื่อค้าประเวณี 25 คน โดยจากการตรวจมวลกระดูก พบว่ามีเด็ก 2 คน ที่เข้าข่ายการค้ามนุษย์ และกลุ่มที่ 3 ไม่เกี่ยวข้องกับการค้ามนุษย์ จำนวน 85 คน ซึ่งมีคนไทย 3 คน เจ้าหน้าที่สถานีตำรวจนครบาลวังทองหลางได้ทำการเปรียบเทียบปรับข้อหามั่วสุมในสถานบริการแล้ว ส่วนต่างด้าวก็ได้ทำการเปรียบเทียบปรับและให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองตรวจสอบว่าเข้ามาในประเทศถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่ เพื่อเตรียมผลักดันกลับไปประเทศต้นทาง

ส่วนที่เจ้าหน้าที่ได้ตรวจค้นห้องพยาบาลภายในสถานบริการ พบว่ามีห้องตรวจร่างกาย และตรวจภายในให้กับพนักงาน โดยมีแพทย์เข้ามาเป็นผู้ตรวจ เบื้องต้นยังไม่พบหลักฐานว่าสถานที่แห่งนี้มีการทำแท้ง  นอกจากนี้เตรียมตรวจเป็นกล้องวงจรปิดว่ามีเจ้าหน้าที่เข้ามามีส่วนผัวพันหรือไม่ โดยจะเชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมตรวจสอบ