เหยื่อคอลเซนเตอร์ ขอบคุณตร.หลังจับหญิงสวมรอยเปิดบัญชีธนาคาร

จากกรณีที่ น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ อายุ 24 ปี ถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ นำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคาร 7 แห่งรวม 9 บัญชี ทำให้ น.ส.ณิชา ถูกดำเนินคดี ก่อนได้รับการประกันตัว โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 (กก.สส.บก.น.1) ได้ทำการจับกุมตัว น.ส.ปวีณา (ไม่ทราบนามสกุล) หญิงสาวที่นำบัตรประชาชนของ น.ส.ณิชา ไปเปิดบัญชีธนาคาร พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.หลักสอง เพื่อลงบันทึกประจำวัน เนื่องจาก น.ส.ปวีณา ได้เปิดบัญชีธนาคารในพื้นที่ สน.หลักสอง
พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ยังไม่ได้รับรายงานการจับกุมผู้ต้องหา เป็นเพียงรายงานการขยายผลจากตำรวจภูธร ภาค 6 และกองปราบปรามที่ดำเนินการคู่ขนานกันไป ส่วนการสอบสวน น.ส.ปวีณา ขณะนี้การสอบสวน ยังไม่มีความชัดเจนตามที่ปรากฏเป็นข่าว หากมีความชัดเจน จึงจะสามารถเปิดเผยได้ ขณะที่ตัวของ น.ส.ณิชา ในทางกฎหมายยังอยู่ในฐานะผู้ต้องหาในคดีฉ้อโกงประชาชน หลังจากตรวจสอบข้อมูล หรือการรวบรวบรวมพยานหลักฐานเสร็จแล้ว จะเปลี่ยนเป็นสถานะใดนั้นต้องรอผลการสรุปของพนักงานสอบสวนก่อน ส่วน น.ส.ณิชาจะเป็นแพะหรือไม่ ไม่อยากให้พูดอะไรไปมากกว่านี้ จากการสอบถาม ข้อมูล น.ส.ปวีณา ได้ให้ข้อมูลอย่างดี ซึ่งจะมีการขยายผลไปตามข้อมูลที่ได้รับในจุดต่างๆ ที่ น.ส.ปวีณา ได้ให้การกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาให้มีความชัดเจน ส่วน น.ส.ปวีณามีความเชื่อมโยง กับนายไซม่อนหรือไม่ อยู่ระหว่างการประสานข้อมูล และยังคงแยกสอบสวนกันอยู่ตามอำนาจหน้าที่ของเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป
ด้าน น.ส.ณิชา ได้เดินทางมาพร้อมกับพี่สาว เพื่อขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจ หลังได้รับข้อมูลเจ้าหน้าที่สามารถควบคุมผู้ต้องสงสัยได้ พร้อมมาให้ข้อมูลเพิ่มเติม โดยกล่าวว่า ในวันนี้เดินทางมาขอบคุณเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอย่างรวดเร็ว จนคดีมีความคืบหน้า พร้อมทั้งอยากให้ความจริงปรากฏโดยเร็ว และยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวเอง โดยไม่มีส่วนรู้เห็นในการทำความผิด และถูกขโมยบัตรประชาชนไปเปิดบัญชี รวมถึงไปลงทะเบียนเบอร์โทรศัพท์ 4 หมายเลข ส่วนบัตรประชาชนนั้น ได้ทำหายไป 3 ครั้ง ในปี 2557 และปี 2560 จำนวน 2 ครั้ง และไปทำใหม่โดยที่ไม่ได้ไปแจ้งความ ส่วนเงินในบัญชีที่มีจำนวน 6,000,000 บาท น.ส.ณิชายืนยันว่า เป็นเงินของพ่อที่ได้มาจากการทำธุรกิจ และอยู่ในบัญชีตั้งแต่อายุ 18 ปี ซึ่งเป็นเงินหมุนเวียนในและในปัจจุบันก็มีเงินเหลืออยู่ไม่มาก นอกจากนี้ น.ส.ณิชา ยืนยันว่าตัวเองไม่รู้จัก หรือเคยติดต่อกับ น.ส.ปวีณา ผู้ต้องสงสัยมาก่อน พร้อมขอให้รอผลการตรวจสอบจากตำรวจ โดยตัวเองนั้นได้ให้ปากคำและข้อมูลการโทรศัพท์ รวมทั้งบัญชีธนาคารกับตำรวจไปหมดแล้ว
มีรายงานว่า ตำรวจได้จับกุมผู้ร่วมขบวนการที่เปิดบัญชีธนาคารได้ครบทั้งหมดแล้ว ซึ่งเป็นขบวนการโรแมนสแกม และอยู่ระหว่างการตรวจสอบเรื่องเส้นทางการเงินกับธนาคาร ว่าเงินถูกโอนเข้าบัญชีใครบ้าง เพื่อหาข้อเท็จจริง โดยในวันอังคารที่ 16 มกราคม 2561 จะมีการแถลงข่าวสรุปภาพรวมคดีนี้ทั้งหมดอีกครั้ง ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ