แม่ทัพภาค1ยันดูแลความเรียบร้อยก่อนเลือกตั้ง/รมช.คมนาคม สั่งตั้งกก.ติดตามราคาอาหารในสนามบิน/ตร.จะเรียกคนแชร์ภาพของสายป่านรับทราบข้อหา

+++พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์ เนื่องในวันสถาปนากองทัพภาคที่ 1 ครบรอบ 108 ปี  และวางพวงมาลาพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระมงกุฏเกล้าเจ้าอยู่หัว เข้าร่วมพิธีสงฆ์ และลงนามสมุดเยี่ยม โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พล.อ.เฉลิมชัย สิทธิสาท ผู้บัญชาการทหารบก รวมถึงผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทักบก ผู้แทนเหล่าทัพ และส่วนราชการต่าง ๆ เข้าร่วมพิธี

+++พล.ท.กู้เกียรติ ศรีนาคา แม่ทัพภาคที่ 1 กล่าวว่า นายกฯ ไม่ได้มีการฝากให้กองทัพภาคที่ 1 ดูแลความเรียบร้อยในด้านใดเป็นพิเศษ เพราะกองทัพภาคที่ 1 พร้อมปฏิบัติงานตามแนวทางและนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดไว้ ดังนั้นแม้จะอยู่ในช่วงโค้งสุดท้ายก่อนการเลือกตั้ง ก็จะดูแลความเรียบร้อยอย่างเต็มที่

+++ส่วนงานวันเด็กพรุ่งนี้ ขอเชิญชวนเด็ก ๆ ให้มาร่วมกิจกรรมวันเด็กบริเวณพื้นที่ของทหาร ซึ่งมีการจัดเตรียมอาวุธยุทโธปกรณ์ไว้ให้เด็ก ๆ ได้ชม โดยจะเน้นเรื่องความปลอดภัยเป็นพิเศษ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีแก่เด็กและเยาวชน ส่วนการดูแลวามเรียบร้อยในการจัดกิจกรรมวันเด็ก จะดำเนินการอย่างเต็มที่

+++นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา ระบุถึง กรณีที่ราคาสินค้า อาหารและเครื่องดื่มในท่าอากาศยานดอนเมือง และท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ มีราคาสูงเกินจริงว่าวันที่ 15 ม.ค. จะประชุมร่วมกับนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คมนาคม จัดตั้งคณะกรรมการร่วมสองกระทรวง เพื่อดูแลสารพัดประเด็นที่คาบเกี่ยวระหว่างกันและกัน ซึ่งเรื่องราคาอาหารสนามบินก็อยู่ในนั้นด้วย และยังมีเรื่องระบบแท็กซี่ ระบบรถขนส่ง ระบบความปลอดภัยในการเดินทาง การนำรถผ่านแดน การจัดบริการรถไฟ การดูแลเรื่องห้องน้ำสาธารณะในระบบขนส่ง คนเดินทางก็ดี นักท่องเที่ยวก็ดี มีทั้งผู้มีกำลังซื้อสูงต่ำที่ไม่เท่ากัน แต่ละคนก็ย่อมมีทางเลือกได้แตกต่างกันไป เราจึงน่าจะร่วมมือทำงาน จำแนกหาข้อเท็จจริงมาเผยแพร่และวิเคราะห์ร่วมกันเท่าที่จะสามารถทำได้ ก่อนตัดสินใจแก้ไขแต่ละประเด็นข้อสงสัยเท่านั้นเอง

++ส่วนเมื่อเช้านี้ นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม พร้อมด้วยผู้บริหารบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท. และผู้บริหารสนามบินดอนเมือง ลงพื้นที่ตรวจราคาอาหารและเครื่องดื่มในสนามบินดอนเมือง เมื่อเดินทางถึงได้เข้าไปดูราคาอาหารในโรงอาหารหรือแคนทีนที่ใช้ชื่อว่า “Magic Food Park” ซึ่งอยู่บริเวณใกล้ประตู 15 ของอาคารผู้โดยสารภายในประเทศ จุดแห่งนี้จำหน่ายอาหารราคาประหยัด โดยมีนักท่องเที่ยวและลูกเรือมาซื้ออาหารบริโภค หลังจากนั้นเดินเข้าอาคารผู้โดยสาร เพื่อตรวจสอบร้านอาหารชื่อดังที่ได้รับสัมปทานพื้นที่จำหน่ายอาหาร โดยได้ตรวจและสอบถามราคาอาหารทีละร้าน

+++รมช.คมนาคม เปิดเผยว่า ภาพรวมอาหารในสนามบินดอนเมือง พบว่ามีหลายราคาที่เป็นทางเลือกให้ผู้บริโภค โดยในส่วนของโรงอาหารมีอาหารจำหน่ายเริ่มต้น 60 บาท น้ำดื่มไม่เกิน 10 บาท ราคาดังกล่าวเห็นว่าแม้จะไม่ถูกมาก แต่เมื่อเป็นโรงอาหารในสนามบินก็พอรับได้ สั่งการให้ ทอท.ปรับปรุงป้ายที่บ่งชี้ทางเดินไปยังโรงอาหารเหล่านี้ให้ผู้เดินทางทั่วไปรับทราบอย่างกว้างขวาง รวมทั้งมีแนวคิดให้ใช้คำภาษาอังกฤษที่เข้าใจง่าย เช่น สตรีทฟู้ด เป็นสัญลักษณ์ที่ต่างชาติเข้าใจรูปแบบอาหารของไทย ซึ่งเป็นเมนูชื่อดังก็จะทำให้ผู้โดยสารรู้จุดจำหน่ายอาหารเพิ่มขึ้น

+++ส่วนราคาอาหารยอมรับมีหลายจุดสูง บางร้านได้รับมิชลินไกด์ ทำให้ราคาสูง  เบื้องต้นทราบจาก ทอท.ว่าพื้นที่จำหน่ายอาหารที่ผู้ประกอบการสัมปทานมีการแข่งขันราคา  ทำให้ผู้สัมปทานพื้นที่กำหนดราคาแตกต่างกันแล้วแต่ต้นทุนสัมปทานและประกอบการ ซึ่งผู้บริโภคต้องเลือกซื้อสินค้าราคาที่ตนรับได้ ขณะที่ประเด็นที่ ทอท.แจ้งว่าอาหารในสนามบินสูงกว่าภายนอกร้อยละ 20-25 ซึ่งเป็นราคาเฉลี่ยจากห้างสรรพสินค้าภายนอก รวมทั้งพื้นที่สนามบินเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง มีต้นทุนค่าสาธารณูปโภคทั้ง ทอท.และผู้ประกอบการต้องแบกรับด้วย ก็เป็นที่มากำหนดราคาสูงกว่าข้างนอก จึงสั่งการให้ ทอท.ตั้งคณะกรรมการติดตามราคา เพื่อตรวจสอบให้ทุกร้านค้าจำหน่ายอาหารไม่สูงกว่าเฉลี่ยร้อยละ 20-25 ตามที่รายงานให้ทราบ

+++ประเด็นที่มีการรายงานอ้างว่าราคาอาหารสนามบินแพง เนื่องจากมีการจ่ายเงินใต้โต๊ะส่งผลให้ต้นทุนผู้ประกอบการสูงนั้น  รมช.คมนาคม ระบุว่าการติดตามเรื่องดังกล่าว มีนโยบายชัดเจนว่าเรื่องเหล่านี้จะไม่เกิดขึ้น  

+++กรณีที่ดาราสาว สายป่าน น.ส.อภิญญา สกุลเจริญสุข โพสต์ภาพไม่เหมาะสมในอินสตาแกรม และรีบลบออก แต่ชาวเน็ตแคปไว้ได้ทัน จากนั้นสายป่าน ได้ออกมาโพสต์ข้อความขอโทษและชี้แจงว่ามือลั่น ไม่มีเจตนาใดๆ สายป่าน พร้อม วุฒิ นายนันทวุฒิ บุญรับทรัพย์ แฟนหนุ่ม ได้เดินเข้าพบเจ้าหน้าที่ตำรวจปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือปอท. ตามหมายเรียก เพื่อเข้าให้ปากคำว่า การกระทำของสายป่าน ที่ระบุว่าแม้ไม่เจตนา แต่เข้าข่ายความผิดตามมาตรา 14(4) หรือไม่ ที่ระบุว่าผู้ใดนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ใดๆ ที่มีลักษณะอันลามกและข้อมูลคอมพิวเตอร์นั้นประชาชนทั่วไป อาจเข้าถึงได้ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปีหรือปรับไม่เกิน 6 หมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้เป็นความผิดอันยอมความไม่ได้

+++สายป่าน เปิดเผยว่า ได้ชี้แจงลำดับเหตุการณ์ พร้อมยอมรับว่าได้กระทำจริง แต่ยืนยันไม่ได้เจตนา โดยได้ชี้แจงผ่านทั้งไอจีส่วนตัว และได้นำเอกสารหลักฐานทั้งหน้าข้อความไอจี ไลน์ที่คุยกับเพื่อน และข้อความแชทมาให้กับตำรวจด้วย ส่วนที่มีกระแสข่าวบานปลายอาจจะเป็นเพราะที่ผ่านมาตนไม่ได้มีการออกมาพูดชัดเจนถึงเหตุการณ์ดังกล่าว ส่วนจะเอาผิดคนที่แคปและนำไปเผยแพร่ต่อหรือไม่นั้น ตอนนี้มองว่าไม่อยากทำให้เป็นเรื่องใหญ่ แต่อยากให้กรณีนี้เป็นกรณีศึกษา คิดว่าทุกคนจะเข้าใจและรู้เจตนาของตัวเอง หลังจากนี้จะมีสติกับการโพสต์ข้อความ และไม่คิดว่าตัวเองจะพลาด ย้ำว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เป็นการสร้างกระแสเพราะไม่คุ้มกับชื่อเสียงที่มี

+++ด้านนายนันทวุฒิ  ระบุว่า ตัวเองเห็นภาพก่อน ยอมรับว่าตนตกใจมากและรีบให้สายป่านลบ และเมื่อมันเกิดขึ้นแล้วต้องแก้ไข ยอมรับสิ่งที่เกิด ตนโชคดีที่ครอบครัวเข้าใจกับเรื่องที่เกิดขึ้น ตำรวจได้แจ้งข้อหาความผิดตาม มาตรา 14(4) และปล่อยตัวโดยไม่ต้องผ่านกระบวนการประกันตัว เนื่องจากกรณีดังกล่าวเป็นความผิดต่อรัฐไม่จำเป็นต้องมีผู้เสียหาย พนักงานสอบสวน สามารถแจ้งข้อหาได้ทันที และมีการรับทราบข้อหากันแล้ว

+++ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ให้ผู้ต้องหาชี้แจง พร้อมนำพยานหลักฐานและปล่อยตัวไป นอกจากนี้ จะรวบรวมพยานหลักฐานเพิ่มเติม ก่อนส่งสำนวนให้อัยการพิจารณา เนื่องจาก เข้าข่ายความผิดสมบูรณ์แล้ว แม้จะระบุว่า ไม่ได้ตั้งใจ นอกจากสายป่านแล้ว เจ้าหน้าที่ปอท.จะเรียกคนที่แชร์ภาพมารับทราบข้อกล่าวหาด้วย

+++ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค หรือ ปคบ. เชิญนางสาวนิษฐกานต์ นันทสุธีพัฒน์ เจ้าของผลิตภัณฑ์ทาก้นขาว เข้าให้ปากคำพร้อมนำผลิตภัณฑ์มาให้เจ้าหน้าที่ อย. ตรวจสอบ หลังถูกวิพากษ์วิจารณ์ในโซเชียลมีเดีย เกี่ยวกับการโฆษณาโชว์ทาครีมบริเวณก้น และตั้งข้อสังเกตว่าครีมดังกล่าวอาจมีสารอันตรายผสมอยู่ด้วยหรือไม่

นางสาวนิษฐกานต์ กล่าวว่า การโพสต์คลิปดังกล่าวเป็นการทำงานอย่างหนึ่งเพื่อให้เห็นสรรพคุณของผลิตภัณฑ์ และเป็นการเพิ่มยอดขาย ซึ่งทำมากว่า 1 ปี ยืนยันผลิตภัณฑ์มี อย.ถูกต้อง ไม่ได้แอบอ้างสรรพคุณเกินจริง ซึ่งต้องใช้อย่างต่อเนื่อง ไม่ได้มีเจตนาจะโชว์อนาจาร หรือกระทำการยั่วยวน อีกทั้งได้ปรึกษาทนายความแล้วว่าการถ่ายคลิปโชว์ก้นดังกล่าว โป๊แต่ยังไม่เข้าข่ายอนาจาร เพราะยังไม่เห็นของลับ ขอโทษสังคม แต่ก็ขอให้สังคมเห็นใจ เพราะเป็นงานที่ต้องทำหาเลี้ยงครอบครัว

+++ด้านพันตำรวจเอกชนันนัทธ์ สารถวัลย์แพศย์ ผู้กำกับการ 4 บก.ปคบ. กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบว่าเข้าข่ายความผิดแสดงรายละเอียดผลิตภัณฑ์บนฉลากไม่ครบถ้วนและโฆษณาเกินจริง ส่วนผลิตภัณฑ์จะมีสารอันตรายหรือไม่ เจ้าหน้าที่ อย. จะส่งตัวอย่างผลิตภัณฑ์ไปให้กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ แยกองค์ประกอบของสารเคมีในผลิตภัณฑ์ก่อน หากพบสารต้องห้ามจะแจ้งข้อหาต่อไป +++ส่วนข้อหานำสื่อลามกอนาจารเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ รอพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี หรือ ปอท.โอนเรื่องมาให้ ปคบ. เพื่อดำเนินการต่อตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ โดยหลังจากแจ้งข้อหา จะอนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากไม่มีพฤติการณ์หลบหนี

แฟ้มภาพ