นายกฯร่วมงานวันสถาปนากองทัพภาคที่ 1/ธปท.กำชับแบงค์เข้มข้อมูลเปิดบัญชี/ส่งมอบตัวพลทหารก่อเหตุยิงที่ด่านตรวจให้ตำรวจ

+++สมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พล.อ.สุรยุทธ์ จุลานนท์ องคมนตรี เป็นผู้แทนพระองค์ประกอบ พิธีเชิญพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร ลงจากยอดพระเมรุมาศ นายอนันต์ ชูโชติ อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากร จะได้เชิญไปประดิษฐานยังกองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง ก่อนจะมีพิธีรื้อถอน ย้ายพระเมรุมาศตามแผนงานที่กำหนด  ส่วนการจัดแสดงพระจิตกาธาน พระโกศจันทน์ ฉากบังเพลิง กรมศิลปากร จะจัดแสดงให้ประชาชนได้ชมที่โรงราชรถ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พระนคร ก่อน เป็นเวลา 2 ปี หลังจากอาคารนิทรรศการที่จังหวัดปทุมธานีสร้างเสร็จ จะเคลื่อนย้ายไปจัดแสดงในอาคารดังกล่าวแทน

+++ส่วนการรื้อถอน ย้ายพระเมรุมาศ และอาคารประกอบ จะยึดตามแผนที่กำหนดไว้ระยะเวลา 60 วัน โดยการรื้อถอนจะแล้วเสร็จ ภายในวันที่ 15 มีนาคม จากนั้นจะส่งมอบพื้นที่ให้แก่กรุงเทพมหานคร ในการปรับภูมิทัศน์ท้องสนามหลวงต่อไป

+++การสรรหาบุคคลมาทำงานในสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) เพื่อเตรียมการรับมือสถานการณ์น้ำ วันนี้ นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯ นัดประชุมร่วมกับ ผอ.สทนช. อธิบดีกรมชลประทาน และอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ เพราะเกิดปัญหาการนำคนเข้ามาทำงาน ที่จะต้องเอามาจากกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงจะต้องเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานต่างๆ ยืนยันจะไม่มีการโอนหรือยุบรวมหน่วยงานใดเข้ามา

+++เช้านี้ เวลา 07.30 น. นายกฯ เป็นประธานในพิธีเจริญพระพุทธมนต์เนื่องในวันสถาปนากองทัพภาคที่ 1  ครบรอบ 108 ปี ณ กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 เขตดุสิต

+++พลเอกประวิตร  วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ประชุมคณะกรรมการบริหารการบูรณาการแผนและระบบกล้องโทรทัศน์วงจรปิด ที่ทำเนียบ

+++การชี้แจงและยื่นหลักฐานเพิ่มเรื่องนาฬิกาหรู นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ไปชี้แจงและยื่นหลักฐานเพิ่มเติมกรณียื่นคำร้องตรวจสอบที่มานาฬิกาหรูและแหวนเพชรของพล.อ.ประวิตร นายศรีสุวรรณ กล่าวว่า มั่นใจในเอกสารและหลักฐานที่นำมาให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.) เนื่องจาก เห็นว่า พล.อ.ประวิตร มีพฤติการณ์ปกปิดบัญชีทรัพย์สินและร่ำรวยผิดปกติ รวมมูลค่ากว่า 30 ล้านบาท ส่วนเอกสารที่นำมาให้ป.ป.ช.เพิ่มเติมคือ ยื่นเอกสารเพิ่มอีก 16 เรือน รวมเป็น 19 เรือน เพื่อให้ป.ป.ช.มีหลักฐานชัดเจนมากขึ้น  

+++อาการวูบและล้มคว่ำกลางห้องประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) ของนายกล้านรงค์ จันทิก สมาชิกสนช.เจ้าหน้าที่พยาบาลที่ประจำอยู่ที่รัฐสภาและเจ้าหน้าที่วุฒิสภาได้ช่วยกันปั๊มหัวใจให้นายกล้านรงค์รู้สึกตัว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงรีบนำนายกล้านรงค์ไปตรวจอาการอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธ ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า นายกล้านรงค์มีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจและโรคความดันโลหิตสูง         

+++นายพีระศักดิ์ พอจิต รองประธานสนช. คนที่ 2 กล่าวว่า ได้เดินทางไปเยี่ยมพร้อมนพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ สมาชิกสนช. นายกล้านรงค์ นอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู  เนื่องจากนายกล้านรงค์ มีอาการท้องเสียมา 2 วันแล้ว ทำให้มีเลือดออกในลำไส้ จนทำให้เกิดอาการโลหิตจาง แพทย์จึงต้องสั่งให้เลือด ทั้งนี้เมื่อนายกล้านรงค์ มีอาการดีขึ้นจะย้ายไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลศิริราช เนื่องจากมีแพทย์ประจำตัวอยู่ที่โรงพยาบาลดังกล่าว ถือว่าเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะนายกล้านรงค์รู้สึกตัวแล้ว อาการไม่ได้หนักอะไร สามารถเข้าเยี่ยมได้ตามเวลากำหนด

+++มาตราการป้องกันการสวมบัตรประชาชน  พล.ต.ต.รมย์สิทธิ์ วีริยาสรร รองเลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน(ปปง.) รักษาราชการแทนเลขาธิการปปง. กล่าวถึงกรณี น.ส.ณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ พนักงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ถูกขโมยบัตรประจำตัวประชาชนไปใช้เปิดบัญชีกับสถาบันการเงิน 7 แห่ง จนต้องตกเป็นผู้ต้องหาในคดีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลวงเงินผู้เสียหาย ว่า 14.30น.วันนี้ ปปง.ได้เชิญตัวแทนสถาบันการเงิน 36 แห่งมาร่วมประชุม เพื่อหารือถึงมาตรการป้องกันการสวมสิทธิ์บัตรประชาชนผู้อื่นเปิดบัญชีของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และสอบถามถึงกรณีดังกล่าว

+++สำหรับมาตรการ การตรวจสอบการแสดงตนของผู้เปิดบัญชี กำหนดให้ทุกสถาบันการเงินต้องตรวจสอบรายละเอียดลูกค้าที่ต้องการเปิดบัญชีทั้ง ชื่อ-นามสกุลจริง อาชีพ วันเดือนปีเกิด เลขประจำตัวบัตรประชาชน ที่อยู่ตามทะเบียนบ้าน สถานที่ทำงาน หมายเลขโทรศัพท์ที่สามารถติดต่อได้ และอีเมล หากสถาบันการเงินละเลยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวให้รอบครอบ กฎหมายกำหนดให้มีโทษปรับบัญชีละ 1 ล้านบาท และปรับอีกไม่เกินวันละ 10,000 บาท จนกว่าจะแก้ไขให้แล้วเสร็จ

+++นายรณดล นุ่มนนท์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ผู้ตรวจสอบของ ธปท. กำลังตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ พร้อมกำชับให้แต่ละธนาคาร กวดขันสั่งให้ฝ่ายตรวจสอบภายในของแต่ละธนาคารเพิ่มการตรวจสอบในเรื่องนี้ นอกจากนี้ ธปท. ได้ขอให้ชมรมตรวจสอบธนาคารพาณิชย์ หารือร่วมกันเพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์เช่นนี้เกิดขึ้นอีก

+++ความคืบหน้าของคดีนายศรชัย สถิตย์รักษ์ดำรง อาชีพรับเหมาก่อสร้าง อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 517 บ้านห้วยน้ำขุ่น หมู่ 16 ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ที่ถูกยิงเสียชีวิตขณะขับรถผ่านด่านตรวจชุมชน อ.แม่สรวย จ.เชียงราย เมื่อคืนวันที่ 2 ม.ค. พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ประเสริฐศักดิ์ ผบช.ภ. 5 เปิดเผยว่า พนักงานสอบสวนได้ขออนุมัติศาลมณฑลทหารบกที่ 37 ออกหมายจับ พลทหารวิชัย จำปา อายุ 22 ปี สังกัดกองพันทหารราบที่ 3 กรมทหารราบที่ 17 จ.เชียงราย โดยเบื้องต้นได้รับรายงานว่า พลทหารคนดังกล่าวได้เข้าไปรายงานตัวกับต้นสังกัดแล้ว และมีรายงานว่า ในวันนี้ต้นสังกัดจะนำตัวเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในข้อหาฆ่าผู้อื่นตายโดยเจตนา, พยายามฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา, ยิงปืนในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควรแล้ว

+++ส่วนการตั้งด่านวันเกิดเหตุ พล.ต.ท.พูลทรัพย์ ยืนยัน ไม่ได้เป็นการตั้งด่านร่วมกับทหาร แต่ทหารเพียงมาตรวจความเรียบร้อยเท่านั้น ขณะที่ ได้พูดคุยกับแม่ทัพภาคที่ 3 ระบุว่า ไม่ได้หนักใจเพราะเป็นเรื่องของบุคคลไม่ใช่หน่วยงาน เจ้าหน้าที่เร่งรัดดำเนินคดีหาคนผิดมาลงโทษ หลังจากที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตเข้าพบรองผบ.ตร.และร้องขอความเป็นธรรม

แฟ้มภาพ