พล.อ.ประวิตร กำชับ ยธ.ปราบค้ามนุษย์ /ส่งกล้าณรงค์ไปรพ. หลังวูบในสภา/ไข้หวัดใหญ่ระบาดในอังกฤษ

ข่าวเที่ยงครึ่งวัน 12.30 น.

+++พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยพล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ในการประชุมวันนี้ จะเป็นการพิจารณาร่างรายงานผลการปฏิบัติงานปราบปรามการค้ามนุษย์ ประจำปี 2560 โดยเฉพาะฉบับภาษาอังกฤษ ที่จำเป็นจะต้องส่งรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์(ทริปรีพอร์ต) ให้สหรัฐอเมริกา ในวันที่ 31 ม.ค.นี้ ทั้งนี้ขอให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ได้จัดทำสรุปรายงานอย่างกระชับ ชัดเจน และเป็นรูปธรรม โดยเฉพาะในประเด็นที่สหรัฐฯ ให้ความสนใจ อาทิ คดีความที่มีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้อง และการชดเชยเยียวยาผู้ที่ตกเป็นเหยื่อของขบวนการการค้ามนุษย์ ส่วนตัวมองว่า การพิจารณาคดีการค้ามนุษย์ ส่วนใหญ่เป็นไปอย่างล่าช้า และมีการยกฟ้องเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้องในหลายคดี ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อความน่าเชื่อถือ ดังนั้นจึงขอให้กระทรวงยุติธรรมเข้าไปดูแล เพื่อให้การทำคดีเป็นไปอย่างรวดเร็วและเป็นธรรม

+++ก่อนถึงวันเด็กปี 2561  พล.อ.ต. พงษ์ศักดิ์  เสมาชัย โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวว่า จากจากกรณีเครื่องบินขับไล่แบบที่ 20 (Gripen 39C) ของกองทัพอากาศ ประสบอุบัติเหตุขณะแสดงการบินเนื่องในวันเด็กแห่งชาติ ประจำปี 2560 บริเวณสนามบินกองบิน 56 จ.สงขลา เมื่อวันเสาร์ที่ 14 ม.ค.60 นั้น กองทัพอากาศ ได้ดำเนินการสอบสวนหาสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว โดยความเห็นของผู้เชี่ยวชาญ และผลการศึกษาทางด้านเวชศาสตร์การบินพบว่า การหลงสภาพการบินชั่วขณะ มีโอกาสเกิดขึ้นได้กับนักบินทุกคน  ถึงแม้ว่านักบินเหล่านั้นจะได้รับการฝึกมาเป็นอย่างดีแล้วก็ตาม ซึ่งสาเหตุที่ส่งผลให้เกิดการหลงสภาพการบิน อาจเกิดจากหลายปัจจัยประกอบกัน เช่น สภาพอากาศ ความเร็ว อัตราเร่ง การเปลี่ยนท่าทางการบินโดยฉับพลัน ฯลฯ ซึ่งจะส่งผลต่ออวัยวะการรับรู้ของมนุษย์ ทั้งนี้ การหลงสภาพการบิน เป็นสภาวะหนึ่งที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางการบินมากที่สุด เนื่องจากเหตุผลทางด้านสรีรวิทยาการบิน อย่างไรก็ตาม กองทัพอากาศจะได้นำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ เป็นกรณีศึกษาตามหลักการบริหารจัดการความเสี่ยง (Risk Management) ด้านการบินต่อไป

+++ก่อนที่จะเปิดประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ในเวลา 10.00 น.นั้น นายกล้านรงค์ จันทิก สมาชิกสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ได้เดินทางมาเพื่อที่จะเข้าร่วมประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ แต่ปรากฏว่าเกิดอาการวูบจนทรงตัวไม่อยู่และล้มคว่ำลงกลางห้องประชุมสนช. ทำให้เจ้าหน้าที่หลายคนที่กำลังเตรียมความพร้อมและเอกสารต่างๆ ก่อนที่จะเริ่มการประชุมต่างตกใจและกรูกันเข้าไปปฐมพยาบาลเบื้องต้น ซึ่งขณะนั้นนายกล้านรงค์ไม่รู้สึกตัว จนกระทั่งเจ้าหน้าที่พยาบาลที่ประจำอยู่ที่รัฐสภาและเจ้าหน้าที่วุฒิสภาได้ช่วยกันปั๊มหัวใจให้นายกล้านรงค์จึงรู้สึกตัว จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงรีบนำนายกล้านรงค์ไปตรวจอาการอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลวิชัยยุทธทันที ทั้งนี้ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า นายกล้านรงค์มีโรคประจำตัวคือโรคหัวใจและโรคความดันโลหิตสูง

+++เฟซบุ๊กสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร ประกาศเตือนการแพร่ระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ในสหราชอาณาจักร ว่า ขณะไข้หวัดใหญ่สายพันธุ์ออสเตรเลีย เชื้อไวรัสเอช 3 เอ็น 2 (H3N2) ระบาดทั่วสหราชอาณาจักร จึงขอแจ้งเตือนคนไทยที่อยู่ในสหราชอาณาจักร และนักท่องเที่ยวไทยที่จะกำลังจะเดินทางมา ขอให้ระมัดระวังและดูแลรักษาสุขภาพมากขึ้น หากจะต้องเดินทางไปในที่มีผู้คนหนาแน่น เช่น รถไฟใต้ดิน ควรสวมหน้ากากอนามัย และหมั่นล้างมือให้สะอาด เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อโรค

สำหรับผู้ที่ป่วยเป็นไข้หวัดใหญ่เชื้อไวรัสเอช 3 เอ็น 2 จะมีอาการไอและเจ็บคอ ปวดหัว เป็นไข้ ปวดตามกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย จาม และมีน้ำมูก ซึ่งรุนแรงกว่าไข้หวัดใหญ่ทั่วไป รวมถึงอาจกลายเป็นโรคปอดบวมและโรคติดเชื้อร้ายแรงอื่นๆได้ โดยเฉพาะผู้สูงอายุที่มี 65 ปีขึ้นไป หญิงตั้งครรภ์ เด็กเล็ก และผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคเบาหวานและโรคทางหัวใจ จะมีความเสี่ยงมากขึ้น ทั้งนี้ ผู้ป่วยมักจะมีอาการดีขึ้นภายใน 1 สัปดาห์ แต่หากอาการยังไม่ดีขึ้น ควรรีบไปพบแพทย์

+++เกิดเหตุโจร 5 คนที่ใช้ขวานเป็นอาวุธก่อเหตุปล้นร้านเพชรในโรงแรมริซ ปารีส สถานีโทรทัศน์ฝรั่งเศส คาดการณ์มูลค่าทรัพย์สินที่ถูกปล้นมากกว่า 5 ล้านยูโร  อย่างไรก็ตามเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในเวลาประมาณ 18.30 น.ของวันพุธตามเวลาท้องถิ่น ทำให้มีผู้เห็นเหตุการณ์หลายคน และตำรวจสายตรวจจับกุมตัวคนร้ายได้ในทันที 3 คน อีก 2 คนหลบหนีไปได้ และไม่มีผู้บาดเจ็บรายอื่น โรงแรมริซ ปารีสมีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน และมีบุคคลที่มีชื่อเสียงมาใช้บริการเป็นระยะ จึงมีการรักษาความปลอดภัยที่เข้มงวด ทำให้ไม่เคยเกิดเหตุปล้นร้านเพชรในโรงแรม หรือร้านที่ตั้งอยู่ในละแวกใกล้เคียงมาก่อน