อากาศแปรปรวน ระวังป่วย/นายกฯหารือจีน มุ่งมั่นการค้า/เผยทหารมือยิงพ่อค้าด่านตรวจ/รองผบ.ตร.สอบหน.ยากูซ่าหลบคดีในไทย

ความเคลื่อนไหวเมืองไทยวันนี้ 07.30 น.

+++สภาพอากาศแปรปรวนที่มีผลกระทบกับการใช้ชีวิตของคนไทย โดยกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือน วันที่ 11 ม.ค.นี้ ประเทศไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นและอุณหภูมิจะลดลงอย่างรวดเร็ว ส่วนใน กทม.อาจจะมีฝนตก

+++พลเอกประยุทธ์  จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีหารือทวิภาคีกับนายหลี่ เค่อเฉียง (Mr. Li Keqiang) นายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง - ล้านช้าง ครั้งที่ 2 นายกรัฐมนตรีไทยและจีน ยังชื่นชมความร่วมมือเศรษฐกิจไทย - จีน เติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งทั้งสองฝ่ายมีความมั่นใจมุ่งมั่นที่จะทำให้สามารถบรรลุเป้าหมายมูลค่าการค้าทวิภาคี120,000 ล้านดอลลาห์สหรัฐ ฯ ภายใน 3 ปีข้างหน้า นายกรัฐมนตรีจีนยังกล่าวยืนยันที่จะสนับสนุนสินค้าเกษตรไทยโดยเฉพาะข้าวและยางพารา ตามที่นายกรัฐมนตรีของทั้งสองประเทศเคยตกลงกันไว้ พร้อม่งเสริมให้มีนักท่องเที่ยวจากจีนเดินทางมาท่องเที่ยวในไทยให้มากขึ้น

+++รอรับเครื่องบินฝึกขับไล่ขั้นต้น T-50TH จำนวน 8 ลำ มูลค่า 8,800 ล้านบาท ซึ่งเป็นการจัดหาแบบต่อเนื่อง ซึ่งเกาหลีจะทยอยส่งมาถึง ไทยล็อตแรกจำนวน 2 เครื่อง โดยจะนำไปบรรจุเข้าประจำการ ณ ฝูงบิน 401 กองบิน 4 จ.นครสวรรค์

+++คดีเงินถอนวัด  พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ(ผอ.พศ.) กล่าวหลังที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดกับข้าราชการ พศ.จำนวน 9 ราย ที่เกี่ยวข้องกับ คดีเงินทอนวัด ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เมื่อ 8 ม.ค.ว่า หลังการชี้มูลความผิดแล้วพศ.จะต้องตั้งคณะกรรมการเพื่อพิจารณาบทลงโทษทางวินัยภายใน 30 วันก่อนจะรายงานผลต่อป.ป.ช.ภายใน 15 วัน ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการเตรียมพิจารณาจากในที่ประชุมคณะกรรมการของทุกฝ่าย ทำให้ขณะนี้ ข้าราชการทั้ง 9 ราย ยังถูกไม่สั่งพักงาน เพราะเรื่องนี้กระทบต่อสิทธิเสรีภาพ จึงต้องศึกษากฎหมายอย่างรอบคอบ การดำเนินการจะไม่มีละเว้น ด้วยบทลงโทษทางวินัยขั้นร้ายแรงตามมาตรการของทางราชการ ที่มีเพียง 2 แนวทาง คือ ปลดออก และ ไล่ออก โดยการปลดออก จะยังได้รับบำเหน็จ บำนาญ แต่หากเป็นการไล่ออก จะไม่ได้รับสวัสดิการใดๆเลย เหมารวมถึงผู้เกษียณราชการแล้วก็มีผลย้อนหลัง เมื่อถูกชี้มูลลงโทษทางวินัยอย่างร้ายแรง

+++กรณี นายศรชัย สถิตย์รักษ์ดำรง เสี่ยรับเหมา วัย 35 ปี ชาว อ.แม่สรวย จ.เชียงราย ที่ถูกยิงเสียชีวิตหลังขับรถผ่านด่านตรวจชุมชน บนถนนสายบ้านห้วยน้ำขุ่น - บ้านแม่ต๋ำ หมู่บ้านแม่ต๋ำ ต.ท่าก๊อ เมื่อคืนวันที่ 2 ม.ค.ที่ ได้เดินทางออกจาก จ.เชียงราย เข้ากรุงเทพฯ เพื่อขอความเป็นธรรมในคดีต่อสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ยุทธชัย พัวประเสริฐ ผบก.ภ.จว.เชียงราย และตำรวจ สภ.แม่สรวย เร่งสืบสวนติดตามจับกุมผู้ที่ก่อเหตุทั้งหมดมาดำเนินคดีภายใน 3 วัน มีรายงานว่า ล่าสุดทหารเกณฑ์ประจำด่านตรวจ ในพื้นที่ ต.ท่าก๊อ อ.แม่สรวย จ.เชียงราย รับสารภาพว่าเป็นผู้ก่อเหตุยิงนายศรชัยจนเสียชีวิตจริง ผู้บังคับบัญชาเตรียมนำเข้ามอบตัวกับ พล.ต.อ.ศรีวราห์ ในวันศุกร์ที่ 12 ม.ค.นี้

++หลังป่วยกันหลายราย รวมทั้งดาราสาวนุสบาก็เพิ่งเจอโรคท้องเสียระบาดจากเชื้อ Rotavirus (ไวรัสโรต้า) จนร่วงมาแล้ว ล่าสุด ตลกเงินล้าน นายเพ็ชรทาย วงษ์คำเหลา หรือ “หม่ำ จ๊กมก” ก็ท้องร่วงจนต้องเข้าโรงพยาบาล งานนี้ทางครอบครัว โดยเฉพาะมด ภรรยาโพสต์ภาพหม่ำแอดมิตที่โรงพยาบาล สีหน้าซีดเซียว พร้อมบอกว่า “ท้องร่วง ท้องเสีย ไข้ขึ้น ต้องนอนโรงพยาบาลอีกแล้ว” ศ.เกียรติคุณ นพ. ประเสริฐ ทองเจริญ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค กล่าวภายหลัง การประชุมผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยา เรื่องอุจจาระร่วง ว่าตามปกติโรคไวรัสโรตาจะพบ ในเด็กเล็ก โดยพบในผู้ใหญ่บ้าง แต่เชื้อจะอ่อน แต่ในปีนี้ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น จากการตรวจสอบโรคอุจจาระร่วงในห้องปฏิบัติการก็พบว่าช่วงปลายปีที่แล้วมีการพบผู้ใหญ่มีอาการรุนแรงด้วย บางรายต้องแอดมิตในโรงพยาบาล ซึ่งก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ ก็ต้องมีการพิจารณาต่อไปว่าเกิดจากสาเหตุใด

+++นพ.ภานุมาศ ญาณเวทย์สกุล รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า ผู้ป่วยไวรัสดังกล่าวจะมีร่างกายอ่อนเพลีย พะอืดพะอม ไข้หวัด ถ่ายเป็นน้ำ โดยการรักษาไวรัสโรตา จะรักษาด้วยการให้น้ำเกลือ หากไม่รุนแรงก็ให้รับประทานทางปาก หากมีอาการรุนแรงก็จะให้ทางเส้นเลือด ซึ่งหากกินเกลือแร่แล้วเสี่ยงต่อการช็อกเกร็งให้รีบปรึกษาแพทย์ ซึ่งยังไม่มียาฆ่าเชื้อรักษาได้  ในขณะนี้พบมากที่สุดใน กทม.และปริมณฑล คือ นนทบุรี ชลบุรี ปทุมธานี และสมุทรสาคร ก็ได้มอบหมายให้สำนักระบาดวิทยา และสำนักโรคติดต่อทั่วไป ไปตรวจสอบร่วมกันเพื่อหาตัวเลขชัดๆ อีกครั้ง

+++ในวันนี้ เวลาประมาณ 09.00 น. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รอง ผบ.ตร.และโฆษก ตร. พร้อมด้วย พล.ต.ท.ณัฐธร เพราะสุนทร ผู้ช่วย ผบ.ตร. จะเดินทางไปถึง สภ.เมืองลพบุรี เพื่อร่วมสอบปากคำขยายผลหลังการจับกุมตัวนายชิเกฮารุ ชิเรอิ อายุ 74 ปี ชาวญี่ปุ่น หัวหน้าแก๊งยากูซ่า ชื่อ ยามากุชิ -กุมิ ที่ร่วมกับพวกอีก 7 คน ที่ก่อเหตุฆาตกรรมรองหัวหน้าแก๊งยากูซ่าคู่อริในญี่ปุ่น เมื่อปี พ.ศ. 2546 แล้วหลบหนีการติดตามตัวจากทางการญี่ปุ่น มากบดานอยู่ใน จ.ลพบุรี ตั้งแต่ปี พ.ศ.2548 โดยจับกุมได้ที่สวนสาธารณะแห่งหนึ่ง ในอ.เมือง จ.ลพบุรีสำหรับแก๊งยามากุชิ-กุมิ เป็นแก๊งยากูซ่าที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น มีสมาชิกหมายหมื่นคน และมีความเป็นมากว่า 100 ปี โดยสมาชิกของแก๊งนี้จะถูกตัดนิ้วก้อยข้างซ้ายทุกคนเป็นสัญลักษณ์ ทั้งนี้ ตลอดเวลาที่หัวหน้าแก๊งกบดานอยู่ที่เมืองไทย จะมีชาวญี่ปุ่นนำเงินมาส่งมอบให้เป็นประจำทุกเดือน