ซีเอ็นเอ็น อ้างรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลกของธนาคารโลกว่า เศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้นเกือบเต็มประสิทธิภาพในขณะนี้ เป็นผลมาจากการเติบโตขึ้นในด้านการค้าขาย อัตราดอกเบี้ยต่ำต่อเนื่องมาหลายปี ราคาน้ำมันขยับตัวขึ้น ส่งผลให้ความเชื่อมั่นของภาคธุรกิจและผู้บริโภคมีแนวโน้มดีขึ้นด้วย ระบุว่า ในขณะนี้ประเทศต่างๆทั่วโลกได้รับผลดีจากการฟื้นตัวในทุกภาคส่วนของระบบเศรษฐกิจ คาดว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก อาจจะสิ้นสุดลงในอีก 1-2 ปีข้างหน้า ขณะเดียวกัน ธนาคารโลก ปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์ทางเศรษฐกิจสำหรับปี 2561 ไปที่ร้อยละ 3.1 จากร้อยละ 2.9 ในรายงานคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจครั้งก่อนเมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อน และสูงกว่าร้อยละ 3 ในปีที่แล้ว
ธนาคารโลก ตั้งข้อสังเกตว่า ปีนี้จะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ก่อนช่วงวิกฤติเศรษฐกิจทั่วโลกปี 2550ที่เศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัวขึ้นเกือบเต็มประสิทธิภาพ ส่งผลให้อัตราว่างงานลดลง ผลิตภาพสูงขึ้น อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับที่ควบคุมได้ ส่งผลให้มีการเติบโตในด้านอุปสงค์สำหรับสินค้าและบริการในกลุ่มผู้บริโภค แต่ธนาคารโลกเตือนว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกอาจจะเติบโตในขั้นสูงสุดในเร็วๆนี้ จากนั้นจะค่อยๆชะลอตัวลงในปี 2562 และ 2563 ช่วงนั้นคาดว่าประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่เช่น สหรัฐฯ จีนและกลุ่มสหภาพยุโรป จะเริ่มมีการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ เนื่องจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ การคงอัตราดอกเบี้ยต่ำเกือบร้อยละ 0 และมาตรการผ่อนคลายเชิงคุณภาพจะเริ่มหมดประสิทธิภาพในการกระตุ้นเศรษฐกิจ
นอกจากนั้น บรรดาประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ของโลก จะต้องเริ่มกำหนดมาตรการรองรับประชากรสูงอายุที่เติบโตขึ้น ซึ่งมีแนวโน้มว่า จะมีผลในเชิงลบคือลดผลิตภาพและเศรษฐกิจของประเทศลงในภาพรวม ธนาคารโลกแนะนำรัฐบาลของประเทศต่างๆให้มุ่งเน้นเรื่องการปฏิรูประบบสาธารณสุข การศึกษาและการปรับปรุงระบบสาธารณูปโภคเช่นถนนและท่าเรือให้ดีขึ้น เตือนว่าหากไม่พยายามใช้ช่วงเวลาที่เศรษฐกิจของประเทศเริ่มฟื้นตัวเกือบเต็มประสิทธิภาพในช่วงนี้เพื่อมุ่งเน้นการปฏิรูปเศรษฐกิจดังกล่าว ภาวะชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศในอีก 2-3 ปีข้างหน้าอาจจะชะงักงันต่อเนื่องไปนับสิบปี
ทีมต่างประเทศ
CR:CNN Money