ความคืบหน้าคดีที่นางสาวณิชา เกียรติธนะไพบูลย์ ตกเป็นผู้ต้องหาคดีหลอกลวงเปิดบัญชีธนาคาร 7 แห่ง 9 บัญชี รับโอนเงินเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พลตำรวจเอกวิระชัย ทรงเมตตา รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เรียกประชุมวิดีโอคอนเฟอร์เรนซ์กับพลตำรวจตรีปริญญา วิศิษฐฎากุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก , พลตำรวจตรีไมตรี ฉิมเฉิด ผู้บังคับการกองปราบปราม และ คณะพนักงานสอบสวน เพื่อเร่งคลี่คลายคดี
พลตำรวจเอกวิระชัย เปิดเผยว่า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการขึ้นมาสืบสวนสอบสวนคดีนี้ เนื่องจากนางสาวณิชา ที่ขณะนี้อยู่ในฐานะผู้ต้องหาเปิดบัญชี แต่ก็เป็นผู้เสียหายแจ้งความถูกนำบัตรประชาชนไปเปิดบัญชีธนาคารเช่นกัน จึงต้องสอบสวน โดยให้สภ.บ้านตาก จังหวัดตาก ทำสำนวนคดีในส่วนที่นางสาวณิชาตกเป็นผู้ต้องหาและขยายผลไปยังแก๊งคอลเซ็นเตอร์จังหวัดตากด้วย ส่วนกองปราบปรามให้ขยายผลติดตามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ในพื้นที่จังหวัดอื่น เนื่องจากการสอบสวนพบว่ายังมีการเปิดบัญชีรับโอนเงินจากผู้เสียหายอีก2บัญชี คือ บัญชีชื่อนายขวัญ ทองน้อย สาขาบิ๊กซี ติวานนท์ รับโอนเงินจากผู้เสียหาย 5 ครั้ง รวม 400,000บาท และบัญชีชื่อนายธีรภัทรนนท์ งามวงษ์ ธนาคารกรุงเทพ สาขาเดอะมอลล์งามวงศ์วาน รับโอนเงิน 2 ครั้ง รวม 630,000บาท ขณะนี้ อยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบว่าบุคคลทั้ง2อยู่ในภูมิลำเนาใด และอยู่ในแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ หากไม่เกี่ยวข้องขอให้แสดงความบริสุทธิใจด้วยการไปพบผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดตาก หรือ ผู้บังคับการกองปราบปรามทันที
พลตำรวจเอกวิระชัย ยืนยัน การสอบสวนดำเนินคดีกับนางสาวณิชา ของตำรวจภูธรบ้านตาก ทำตามขั้นตอนกฏหมาย ไม่มีสิ่งใดบกพร่อง สาเหตุที่นางสาวณิชา ถูกออกหมายจับ เนื่องจากพนักงานสอบสวนออกหมายเรียกถึง 2 ครั้ง มีระยะเวลาประมาณ 2 เดือน เพื่อให้นางสาวณิชาเข้าพบ และสอบปากคำ รวมถึงให้ข้อเท็จจริง แต่นางสาวณิชา กลับเงียบหายไป พนักงานสอบสวนจึงขออนุมัติศาลจังหวัดตาก ออกหมายจับในข้อหาฉ้อโกงประชาชน จากนี้จะต้องพิสูจน์ว่านางสาวณิชาเป็นเหยื่อในแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และล่าสุดพนักงานสอบสวนได้ประสานขอข้อมูลจากธนาคารทั้งหมด ที่มีชื่อนางสาวณิชา เปิดบัญชี แต่พบว่า ธนาคารบางแห่งไม่ให้ความร่วมมือ โดยอ้างว่าต้องขออนุมัติจากสำนักงานใหญ่ วันนี้จึงจะประสานไปยังสำนักงานใหญ่เพื่อขอข้อมูล
สำหรับรายละเอียดคดี พลตำรวจเอกวิระชัย กล่าวว่า เริ่มจากช่วงปลายปี 2560 แก๊งคอลเซ็นเตอร์ อ้างว่าชื่อนายราลี่ สมิธ ชาวอังกฤษ ติดต่อ นางกาสิณี ยะเมา ทางเฟสบุ๊ค โดยอ้างว่าต้องการซื้อที่ดินในจังหวัดตาก ขอให้นางกาสิณี เป็นนายหน้าซื้อที่ดิน และนายราลี่จะส่งเงินจำนวน 30 ล้านบาท จากประเทศอังกฤษ ผ่านทางพัสดุไปรษณีย์มาให้ แต่มีค่าธรรมเนียม 1,300,000บาท ที่ผู้เสียหายต้องจ่ายล่วงหน้าก่อน จากนั้นแก๊งคอลเซ็นเตอร์อ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ไปรษณีย์ โทรหานางกาสิณี แจ้งถึงค่าธรรมเนียมที่ต้องชำระ ทำให้ผู้เสียหายหลงเชื่อโอนเงิน1,370,000 บาท เข้าบัญชีธนาคาร3บัญชี ประกอบด้วย บัญชีของ นางสาวณิชา 340,000 บาท จำนวน 5ครั้ง บัญชีของนายขวัญ และบัญชีของนายธีรภัทรนนท์
ผู้สื่อข่าว:ธนดา เฉลิมวันเพ็ญ