การเตรียมความพร้อมสู้คดีที่อัยการสูงสุดชี้ขาดสั่งให้ฟ้องร่วมปลอมแปลงเอกสารสิทธิการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง หรือเสี่ยจืด นักธุรกิจรับเหมาหมื่นล้าน นายบัญชา ชัยจำ ทนายความของ พ.ต.ท.บรรยิน ตั้งภากรณ์ อดีต รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ยังไม่ได้รับแจ้งด้วยหนังสือหรือโทรศัพท์จากตำรวจที่จะนัดส่งตัวให้ไปพบอัยการเพื่อจะยื่นฟ้องต่อศาล หากตำรวจแจ้งนัดเมื่อใดก็พร้อม ซึ่งตามหลักและการปฏิบัติ หากนัดฟ้องก็จะนัดผู้ต้องหาไปพร้อมกันทั้งหมด ผู้ต้องหาร่วมอีก 2 คน ส่วนการเตรียมสู้คดีจะหารือกับพ.ต.ท.บรรยินว่าจะสะดวกใช้หลักทรัพย์อะไรยื่นประกันตัวเมื่อมีการฟ้องคดี จะเป็นเงินสด หรือสมุดบัญชีเงินฝาก หรือโฉนดที่ดิน แต่ถ้าสะดวกก็น่าจะเป็นสมุดบัญชีเงินฝากและเงินสด มูลค่าหลักทรัพย์ ประมาณ 200,000 บาท
สำหรับคดีโอนหุ้นนายชูวงษ์ อัยการสูงสุดชี้ขาดสั่งให้ฟ้อง น.ส.กัญฐณา หรือน้ำตาล ศิวาธนพล อายุ 28 ปี อดีตพริตตี้คนสนิทนายชูวงษ์ ผู้ต้องหาที่ 1 , น.ส.อุรชา หรือป้อนข้าว วชิรกุลฑล อายุ 27 ปี เจ้าหน้าที่การตลาด บริษัทหลักทรัพย์ เออีซีเอส จำกัด (มหาชน) คนสนิท พ.ต.ท.บรรยิน ผู้ต้องหาที่ 3 และพ.ต.ท.บรรยิน อายุ 55 ปี อดีต รมช.พาณิชย์ ผู้ต้องหาที่ 4 ฐานร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมเท่านั้น จากเดิมสำนวนการสอบสวนแจ้งข้อหาร่วมกันปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอม , ร่วมกันลักทรัพย์ และรับของโจร ส่วน น.ส.ศรีธรา พรหมา อายุ 53 ปีมารดาของ น.ส.อุรชา ผู้ต้องหาที่ 2 นั้นไม่ฟ้อง
ส่วนคดีที่ครอบครัวของนายชูวงษ์ ยื่นฟ้องข้อหาฆ่า ศาลจังหวัดพระโขนง นัดสอบคำให้การในวันที่ 12 ก.พ.นี้ พ.ต.ท.บรรยิน ก็จะเดินทางไปตามนัด โดยเตรียมหลักทรัพย์ไว้ยื่นประกันตัวเช่นกันซึ่งมูลค่านั้นน่าจะเท่ากันกับชั้นฝากขังที่เคยยื่นไป คือ 2 ล้านบาท โดยคาดว่า การประกันตัวทั้ง 2 คดี ไม่มีอะไรยุ่งยาก ซึ่งชั้นฝากขัง พ.ต.ท.บรรยิน ก็ปฏิบัติตามเงื่อนไขของศาล ระบุมีความพร้อมในการต่อสู้คดี
แฟ้มภาพ