กรณีที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) จะใช้อำนาจตามมาตรา 44 แห่งรัฐธรรมนูญ (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ออกคำสั่งหัวหน้าคสช.เกี่ยวกับการจัดสรรภารกิจและบุคคลของสำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หลังจากจัดตั้ง สทนช.ขึ้นมาเมื่อเดือน ต.ค.2560 ตอนนี้ใช้พื้นที่ภายในอาคารสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (เดิม) ตั้งเป็นสำนักงานไปก่อน และมีอดีตอธิบดีกรมชลประทาน เป็นผู้อำนวยการ สทนช. ขณะที่อัตรากำลังคนในหน่วยงานใหม่นี้มีประมาณ 200 กว่าคน แม้เริ่มทำงานไปบ้างแล้ว แต่ยังไม่มีคนเข้ามาร่วมทำงานเพื่อเตรียมการรับมือสถานการณ์น้ำ เพราะเกิดปัญหาการนำคนเข้ามาทำงานที่จะต้องเอามาจากกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกรมทรัพยากรน้ำ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวมถึงจะต้องเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานต่างๆ ระบุว่า จะไม่มีการโอนหรือยุบรวมหน่วยงานใดเข้ามา และในวันที่ 12 ม.ค. นี้จะนัดประชุมร่วมกับ ผอ.สทนช. อธิบดีกรมชลประทาน และอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ
สำหรับการนำคนมาทำงานในหน่วยงานนี้ ไม่ใช้การบีบบังคับฝ่าฝืนความสมัครใจของคน แต่ใช้การสร้างมูลเหตุจูงใจ โดยจะเลือกว่าจะเอาแผนกงานอะไรบ้างไปอยู่ในสทนช. ซึ่งจะทำให้คนในแผนกนั้นต้องมาด้วย แต่ถ้ามีบางคนที่ยังไม่อยากมาเต็มตัว จะใช้วิธียืมตัวมาช่วยราชการก่อน เป็นเวลา 180 วัน หากชอบการทำงานที่ใหม่และอยู่ต่อไปเลย แต่หากครบกำหนดเวลาการยืมตัวแล้ว บุคคลนั้นยังไม่ชอบ ก็สามารถกลับไปต้นสังกัดเดิม นายวิษณุ กล่าวว่า คงใช้เวลาไม่นาน มีกำหนดเวลาไว้แล้ว หลังจากคำสั่งฉบับใหม่นี้ออกมาเมื่อใด ผู้ที่มีชื่อปรากฏอยู่ในบัญชีแนบท้ายของคำสั่งนี้ก็จะต้องมาช่วยราชการในสทนช.ทันที แต่หากอยู่ครบ 6 เดือนแล้ว คนเหล่านั้นกลับหน่วยเดิมไปทั้งหมด สทนช.มีหน้าที่ต้องไปหาคนมาใหม่
แฟ้มภาพ