นักวิชาการ แนะพ่อแม่ยุคใหม่รับมือไอที แบ่งเวลาศึกษาพฤติกรรมลูก หากิจกรรมสร้างสรรค์

การดูแลลูกยุคใหม่และการรับมือของพ่อแม่ผู้ปกครอง ดร.วรนาท รักสกุลไทย นักวิชาการศึกษาปฐมวัย ยอมรับว่า สิ่งแวดล้อมได้เปลี่ยนแปลงไป พ่อแม่ผู้ปกครองจำเป็นต้องปรับตัว โดยยึดหลักให้เด็กมีพัฒนาการในทุกด้านทั้งร่างกาย อารมณ์ สังคมสติปัญญา อย่างเท่าเทียมกัน สิ่งสำคัญคือการให้เวลาที่มีคุณภาพกับเด็ก จัดระบบการใช้ชีวิตในแต่ละวัน เพื่ออยู่กับลูก หมั่นฝึกให้เด็กมีทักษะการสังเกตสิ่งรอบตัวในชีวิตประจำวัน พ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องเรียนรู้ไปพร้อมกับลูกด้วย อย่างไรก็ตาม ต้องเป็นการกระทำที่พ่อแม่ทำด้วยความเต็มใจ มีความสุขไม่ใช่ทำเพราะหน้าที่ ขณะเดียวกัน ต้องฝึกให้เด็ก สามารถเข้ากับผู้อื่นได้ ไม่คิดแต่เอาชนะฝ่ายเดียวซึ่งในปัจจุบันพบว่านิสัยของเด็กนั้นจะไม่รู้จักวิธีการเล่นกับเพื่อนหรือการมีปฏิสัมพันธ์ ซึ่งผู้ใหญ่อาจต้องเป็นสะพานเชื่อมให้ลูกของตัวเองมีปฏิสัมพันธ์กับคนในวัยเดียวกัน หมั่นสังเกต พฤติกรรมการเล่นของลูก โดยเคล็ดลับการเลี้ยงดูเด็ก คือการชมลูกอย่างมีความหมาย ในพฤติกรรมที่ลูกแสดงออกมา เช่น เมื่อแบ่งขนมให้กับเพื่อน

ขณะที่ การเตรียมรับมือพ่อแม่ ผู้ปกครอง ในยุคใหม่ คือต้องรับมือกับเทคโนโลยี แต่มองให้เป็นทางสายกลางเพราะบางอย่างต้องอาศัยการเรียนรู้จากเทคโนโลยี เพียงแต่ควบคุมเวลา ซึ่งเด็กอายุ ไม่ถึง 2 ขวบ ไม่ควรที่จะอยู่กับหน้าจอ โทรศัพท์มือถือ เพราะจะทำให้ มีความจำสั้น รับภาษานำเข้า แต่ไม่มี ภาษาส่งออก มีอารมณ์หงุดหงิดฉุนเฉียว ส่วนเด็กอายุระหว่าง 3 - 5 ขวบ กำหนดให้อยู่หน้าจอโทรศัพท์ได้วันละ 60 นาทีแต่ไม่ติดต่อกัน และควรหากิจกรรมใหม่ๆ อยู่เสมอ การใช้เทคโนโลยีจะต้องอยู่ภายใต้การดูแลของผู้ปกครอง เลือกรับสื่ออย่างสร้างสรรค์ทั้งการ์ตูนและรายการ เพราะบางอย่างก็ไม่เหมาะสมสำหรับเด็กขึ้นอยู่กับการพิจารณาของพ่อแม่ผู้ปกครอง

กรณีที่เด็กมีพฤติกรรมติดเทคโนโลยี พ่อแม่ผู้ปกครอง ต้องทำความเข้าใจ อธิบายถึงเหตุผลว่าใช้เวลามากเกินไปและหากิจกรรมอื่นทดแทนเช่น ฝึกให้ทำงานบ้าน ให้ลูกมีส่วนร่วมในงานเล็กน้อยที่สามารถทำได้ซึ่งจะทำให้เด็กมีความรับผิดชอบและเกิดความภาคภูมิใจในตัวเอง

ผู้สื่อข่าว:เกตุกนก ครองคุ้ม