มติป.ป.ช.ชี้มูลผิดวินัย-อาญา อดีตผอ.พ.ศ.พร้อมพวกรวม9 คน ทุจริตเงินทอนวัดภาคใต้

มติคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ในการชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พ.ศ.) จำนวน 9 คน กรณีทุจริตเงินค่าสนับสนุนสำหรับจัดทำโครงการอบรมพระธรรมทูต เผยแพร่พระพุทธศาสนา ประจำปี 2558 ของวัดชลธาราวาส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส วัดยูปาราม อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา และวัดสุริยาราม อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา หลังนายเสถียร ดำรงคดีราษฎร์ อดีตผู้อำนวยการ พ.ศ.จ.สงขลา ประสานกับวัดทั้ง 3วัดเพื่ออุดหนุนเงินวัดละ 4 ล้านบาท แต่ให้โอนเงินคืนกลับมา 3 ล้าน 2 แสนบาท และตำรวจสามารถจับกุมนายเสถียรพร้อมของกลาง จากนั้นมีบุคคลในพศ. ทำเอกสารเท็จ

นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการป.ป.ช. เปิดเผยว่า คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลนางสาวประนอม คงพิกุล อดีตรองผู้อำนวยการ พ.ศ. และนายเสถียร มีมูลความผิดทางวินัยร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา มาตรา149, 157, 162 (4) และความผิดตาม พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542

ส่วนนายพนม ศรศิลป์ อดีตผู้อำนวยการพ.ศ. มีมูลความผิดทางวินัยร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา มาตรา 151, 157 ขณะที่นายประสงค์ จักรคำ ผู้อำนวยการกองพุทธศาสนาศึกษา นายวสวัตติ์ กิตติธีระสิทธิ์ นักวิเคราะห์นโยบายและแผนชำนาญพิเศษ และนายพัฒนา สุอำมาตย์มนตรี นักวิชาการศาสนาชำนาญการ ในฐานะกรรมการพิจารณาจัดสรงบ ซึ่งมีส่วนในการจัดทำเอกสารเท็จมีมูลความผิดทางวินัยร้ายแรง และมีมูลความผิดทางอาญา มาตรา157, 162 (4) และความผิดตาม พ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2542   

ส่วนนางพรเพ็ญ กิตติธรางกูร นักวิชาการศาสนาชำนาญการและนายดำรงค์ศักดิ์ เกตุแก้ว นักวิชาการศาสนาชำนาญการ และนายจักรเวทย์ เดชบุญ นักวิชาการศาสนาปฏิบัติการในฐานะกรรมการพิจารณาจัดสรรงบประมาณ มีมูลความผิดทางวินัยร้ายแรง โดยให้ส่งรายงาน และเอกสารพร้อมทั้งความเห็นไปยังผู้บังคับบัญชา พิจารณาโทษทางวินัย และส่งรายงาน เอกสารและความเห็นไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลที่มีเขตอำนาจต่อไป

การชี้มูลความผิด เกิดขึ้นหลังคณะกรรมการป.ป.ช. พิจารณาแล้วเห็นว่า การพิจารณาเงินอุดหนุนให้แก่ 3 วัดดังกล่าว ไม่มีเอกสารประกอบการพิจารณา เป็นการไม่ชอบ ทั้งเอกสารโครงการส่งเสริมความมั่นคงของสถาบันพระพุทธศาสนาเสริมสร้างขวัญกำลังใจให้แก่ชาวไทยพุทธในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และเอกสารที่เกี่ยวข้องเป็นการจัดทำเอกสารเท็จ หลังจากที่นายเสถียร ถูกจับกุม และการที่นางสาวประนอม ทำหนังสือสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ ลงวันที่ 27 สิงหาคม 2558 และวันที่ 31 สิงหาคม 2558 เป็นการกระทำที่รองรับการกระทำของนายเสถียรที่เรียกรับเงินจากทั้ง3 วัด โดยทุจริต และเห็นว่าการจัดสรรงบเงินอุดหนุนทั้ง 3 วัด ไม่ใช่เพื่อนำไปแบ่งดำเนินการในโครงการหรือกิจกรรมอื่นตามแผนการขับเคลื่อนโครงการทั้ง 3 ระยะ รวมทั้งการที่นายเสถียรเรียกเงินจากทั้ง 3 วัด วัดละ 3 ล้าน 2 แสนบาท ไม่ได้มีเจตนาเพื่อนำไปใช้ในโครงการหรือกิจกรรมอื่น หรือเป็นการกระทำในการปฏิบัติราชการของผู้ถูกกล่าวหาที่ 2 แต่เป็นการกระทำโดยมีเจตนาทุจริต เพื่อแสวงหาผลประโยชน์แก่ตนเองหรือผู้อื่น

สำหรับการติดตามเงินคืน พ.ศ. แต่งตั้งคณะกรรมการติดตามเรียกเงินอุดหนุน จำนวน 12 ล้านบาท คืนจากวัดทั้ง 3 วัด และนำส่งกระทรวงการคลังแล้ว

ผู้สื่อข่าว:ปภาดา พูลสุข