ญี่ปุ่นประกาศสามารถผลิตยาต่อต้านไวรัสอีโบลาได้สำเร็จ โดยความร่วมมือระหว่างบริษัท “ฟูจิฟิล์ม โฮลดิ้ง คอร์ป”และบริษัทยา “เมดิ เวคเตอร์”ในเมืองบอสตันของสหรัฐ ยาตัวดังกล่าวมีชื่อว่า “ที-705” (T-705)พัฒนามาจากยารักษาไข้หวัดใหญ่ "ฟาวิพิราเวียร์" (Favipiravir)ซึ่งสามารถใช้ฆ่าเชื้ออีโบลาได้ โดยขณะนี้ที-705 กำลังอยู่ในช่วงที่ผู้ผลิตเร่งผลักดันให้ยาได้รับการรับรองจากองค์การอาหารและยาของสหรัฐ (เอฟดีเอ)
นายโยชิฮิเดะ ซูกะ หัวหน้าเลขาธิการคณะรัฐมนตรีญี่ปุ่นแถลงว่า ญี่ปุ่นได้เตรียมยาต่อต้านไวรัสอีโบลานี้ไว้พร้อมแล้ว หากองค์การอนามัยโลก(ฮู)ต้องการจะใช้ ทางการก็ยินดีจะให้ความร่วมมือในการผลิตทันที นอกจากนี้ หากมีหน่วยงานหรือบุคคลใดต้องการสั่งยาดังกล่าวเพื่อผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน ญี่ปุ่นก็ยินดีส่งมอบให้ แม้ฮูจะยังไม่ได้ตัดสินใจร่วมมือกับรัฐบาลโตเกียวก็ตาม
นางเอมี เดอร์ริก ฟรอสท์ โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐ เปิดเผยว่า หากยาตัวนี้ได้รับการรับรองก็จะเป็นหนึ่งในยาชนิดแรกที่รัฐบาลสหรัฐอนุญาตให้นำไปใช้จัดการกับการแพร่ระบาดของไวรัสอีโบลาในภูมิภาคแอฟริกาตะวันตกที่คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 1,427 ราย และมีผู้ติดเชื้ออีก 2,615 ราย ทั้งนี้ ยาดังกล่าวเคยถูกใช้ทดลองรักษาลิงที่ติดเชื้อมาก่อนและข้อมูลการทดสอบในสัตว์นั้นจะได้รับการเปิดเผยในกลางเดือนก.ย.นี้
ด้านกระทรวงสาธารณสุขของดีอาร์คองโกเปิดเผยว่า พบผู้เสียชีวิตด้วยเชื้อไวรัสอีโบลาอีก 2 ราย จากตัวอย่างทั้งหมด 8 รายที่มีรายงานว่าติดเชื้อดังกล่าวที่เมือง “ดเจรา”ของเขตโบเอนเด ทางตะวันตกเฉียงเหนือของจังหวัดเอกาเตอร์ ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่คาดว่ามีผู้เสียชีวิตจากไวรัสไปแล้วอย่างน้อย 13 รายในเมืองดังกล่าว ในจำนวนนี้เป็นเจ้าหน้าที่สาธารณสุข 5 ราย นอกจากนี้ ยังพบผู้ป่วยอีกจำนวน 11 ราย และผู้ที่คาดว่าติดเชื้ออีกราว 80 ราย ก็อยู่ในระหว่างการติดตามของเจ้าหน้าที่ องค์การอนามัยโลก ระบุว่า ขณะนี้ดีอาร์คองโกมีผู้ติดเชื้อที่ตรวจพบอยู่ราว 592 ราย เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 72 ราย