*แม่รับจ้างอุ้มบุญรายที่ 5 ให้ปากคำ รับติดต่ออุ้มบุญกับ ชายชาวญี่ปุ่นโดยตรง*

25 สิงหาคม 2557, 14:59น.


หลังจากที่ช่วงเช้าวันนี้ มีแม่รับจ้างอุ้มบุญรายที่ 4 จาก 11 รายเดินทางเข้าให้ปากคำกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจนครบาลลุมพินีล่าสุด ได้มีแม่รับจ้างอุ้มบุญรายที่ 5 เดินทางเข้าให้ปากคำเพิ่มเติม ซึ่งภายหลังการสอบปากคำ พ.ต.อ. เดชา พรหมสุวรรณ์ พนักงานสอบสวนผู้ทรงคุณวุฒิ หัวหน้างานสอบสวน สถานีตำรวจนครบาลลุมพินี เปิดเผยว่า แม่อุ้มบุญรายที่ 5 คือ นางสาว บี (นามสมมุติ) อายุ 32 ปี ให้การว่า อยากเป็นแม่อุ้มบุญอยู่แล้ว และได้ติดต่อผ่าน นาย แจ็ค หรือ นาย ชิเกตะ มิตซูโตกิ นักธุรกิจญี่ปุ่นวัย 24 ปี ผู้รับจ้างอุ้มบุญโดยตรงผ่านทางเว็บไซต์และได้นัดเจอกับนายมิซูโตกิ ที่สถานพยาบาล ออลไอวีเอฟ เวชกรรม ย่านเพลินจิต เพื่อตกลงราคากัน โดยได้รับค่าจ้าง 300,000 บาทและค่าเลี้ยงดู เดือนละ 12,000 บาท  โดยได้เจอได้เจอนาย มิซูโตกิ เพียง 2 ครั้งเท่านั้น คือ ขณะที่ทำการตกลงรับจ้างอุ้มบุญ ที่สถานพยาบาลย่านเพลินจิต และขณะที่นำเด็กไปส่งคอนโดมิเนี่ยมย่านลาดพร้าว  ส่วนสเปิร์ม ที่อุ้มบุญนั้น รู้มาล่วงหน้าแล้วว่าเป็นของนายมิซูโตกิจจากนั้นจึงรับอุ้มบุญ และได้ผ่าคลอดเด็กเมื่อวันที่ 10 มิถุนายน ที่โรงพยาบาลย่านสายไหม หลังจากคลอดได้นำเด็กไปให้นาย สำราญ พ่อบ้านนายมิตซูโตกิ ที่ คอนโดมีเนียมย่านลาดพร้าว หลังจากนั้น ก็ไม่ได้ติดต่อกันอีก  ส่วนตัว ไม่ทราบว่านายมิซูโตกิ จ้างผู้หญิงให้อุ้มบุญหลายคน แต่มาทราบเมื่อนำเด็กไปส่งที่คอนโดฯ



พ.ต.อ. เดชา เปิดเผยว่า ขณะนี้สอบปากคำแม่อุ้มบุญไปแล้ว 5 ปาก ซึ่งทุกรายให้การตรงกัน และคิดว่าหลักฐานที่มีอยู่แน่นหนาพอ แต่ต้องการสอบให้ครบทั้ง 11 ปากภายในสัปดาห์นี้ เพื่อจะได้สอบปากคำ นายแพทย์ พิสิฐ ตันติวัฒนากุล แพทย์ผู้รับผิดชอบรับทำอุ้มบุญ ต่อไป



สำหรับ เด็กจากแม่อุ้มบุญรายที่ 5 ขณะนี้  อยู่ในการดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงมของมนุษย์ ยอมรับว่า การเอาผิดนาย มิซูโตกิ ผู้จ้างอุ้มบุญ คงทำได้ยาก เนื่องจากกฎหมายไม่ได้ระบุไว้ และแม้จะมีร่างกฎหมายใหม่ ก็ไม่สามารถเอาผิดย้อนหลังได้  



 



 



ธีรวัฒน์ ภาพ-ข่าว

ข่าวทั้งหมด

X